ในบทความนี้ ก้อปันกัน (KPG) ขอสรุปและแนะนำสิ่งที่ต้องเตรียม พร้อมทั้ง 5 ขั้นตอนสำหรับใครที่สนใจเรียนต่ออเมริกา จากประสบการณ์ของผู้ก่อตั้งและทีมงานของเราที่สำเร็จการศึกษาจากประเทศสหรัฐอเมริกาโดยตรง เพื่อเป็นแนวทางและคำแนะนำในเบื้องต้นให้กับบุคคลที่สนใจในเบื้องต้น
สิ่งที่จะต้องเตรียมในสำหรับเข้าเรียนต่ออเมริกา
• สำเนา passport แนะนำให้มีอายุการใช้งานเหลือไม่ต่ำกว่า 1-2 ปี (สำหรับการต่ออายุ passport สามารถดำเนินการได้ที่นี่)
• Transcript ใบแสดงผลการเรียนล่าสุด
• เอกสารรับรองการจบการศึกษาล่าสุด (หากจบแล้ว)
• หนังสือรับรองการเงิน (Bank Guarantee) ที่มียอดคงเหลือ ไม่ต่ำกว่าที่สถานศึกษากำหนด โดยบุคคลที่จะรับรองสถานะทางการเงินจะเป็นบุคคลในครอบครัว หรือผู้สมัครเองก็ได้ (สำหรับวัยทำงาน)
• ผลสอบหรือเงื่อนไขอื่นๆตามที่สถาบันและหลักสูตรที่สนใจสมัครต้องการ เช่น IELTS (Academic), TOEFL (iBT) หรือ Duolingo English Test
หมายเหตุ:
• ในบางกรณีอาจจะต้องใช้ resume/CV เพิ่มเติมโดยเฉพาะในการเรียนหลักสูตรระดับปริญญาโท (Master’s Degree) หรือ Professional Certificates
• สำหรับการสมัครเรียนปริญญาโทในบางมหาวิทยาลัยและบางสาขาการเรียน อาจจะต้องใช้ผลสอบ GMAT หรือ GRE เพิ่มเติม
สามารถดำเนินการสมัครได้เมื่อไหร่?
• เราแนะนำให้สมัครล่วงหน้า 4 -12 เดือนก่อน ก่อนเทอมที่จะไปศึกษาต่อ เพื่อให้มีระยะเวลาเพียงพอในการทราบผลการสมัครเรียน สมัครขอวีซ่าและเตรียมตัวก่อนเดินทาง โดยเฉพาะในส่วนของที่พัก
• ในกรณีที่กำลังศึกษาอยู่ และสนใจไปศึกษาต่อหลังจบการศึกษา นักเรียนสามารถดำเนินการสมัคร ได้ตั้งแต่ช่วงที่กำลังศึกษาอยู่ในปีการศึกษาสุดของระดับชั้นที่จะจบก่อนไปศึกษาต่ออเมริกา เนื่องจากหลายๆสถานศึกษาจะเริ่มเปิดรับสมัครช่วงที่เรากำลังศึกษาอยู่ และเมื่อจบการศึกษาแล้ว สามารถยื่นเอกสารเพิ่มเติมไปยังสถานศึกษาในภายหลังได้
การดำเนินการทำเรื่องเรียนต่ออเมริกา 5 ขั้นตอน
ขั้นตอนที่ 1: School & Program Search
นักเรียนจะต้องค้นหาตัวเลือกสถาบันและหลักสูตรที่สนใจสมัครไปเรียน พร้อมจัดลำดับและคัดเลือกตัวเลือกให้ได้เสียก่อนว่าจะสมัครที่สถาบันและสมัครเข้าเรียนหลักสูตรใด และตั้งใจที่จะเริ่มเรียนเมื่อไหร่ ซึ่งสถาบันส่วนมากจะมีเปิดให้เริ่มเรียนได้ช่วงเดือน สิงหาคม/กันยายน และมกราคม/กุมภาพันธ์ ทั้งนี้บางสถาบันอาจมีเพิ่มให้เริ่มเรียนได้ถี่กว่านี้
ขั้นตอนที่ 2: Admission
เมื่อเลือกได้แล้ว เราจะต้องทำเรื่องสมัครเข้าเรียนในสถาบันนั้นๆ โดยขั้นตอนนี้เรียกว่า admission ทั้งนี้กรณีที่นักเรียนถือ Thai passportจะถูกนับเป็น international student หรือนักเรียนต่างชาติ ดังนั้นเวลาที่จะเงื่อนไขและรายละเอียดการสมัคร ขอให้ดูในส่วนที่เป็น International Student Admission
• เมื่อเราทำความเข้าใจเงื่อนไขและรายละเอียดการสมัครเรียน (admission requirement) แล้ว ซึ่งโดยส่วนมากแล้วนักเรียนจะต้องมีรายการของเอกสารตามที่ระบุไว้ในข้างต้นของบทความนี้ และนักเรียนสามารถทำเรื่องสมัครเข้าเรียนได้ด้วยตนเอง หรือติดต่อเอเจนท์เรียนต่ออเมริกา ที่เป็นตัวแทนของสถานศึกษาเพื่อทำเรื่องสมัครเข้าเรียนให้ก็ได้
• เมื่อสมัครเข้าเรียนและสถานศึกษาตอบรับแล้ว เราจะได้เอกสารสำคัญที่จะต้องใช้ในการดำเนินการต่อไป คือ I-20 ซึ่งจะระบุข้อมูลของเรา พร้อมกับชื่อสถานศึกษา วันเดือนปีที่จะเริ่มเรียน และหลักสูตรการเรียนอีกด้วย
ขั้นตอนที่ 3: VISA Application
เมื่อได้ I-20 มาแล้ว เราถึงจะเริ่มต้นทำเรื่องวีซ่านักเรียนอเมริกา ประเภท F-1 VISA ได้ โดยจะต้องดำเนินการกรอกข้อมูลในแบบฟอร์ม DS-160 เพื่อการสมัครวีซ่า และสร้างบัญชี US Travel Doc เพื่อการชำระค่าสมัครขอวีซ่าและทำการนัดหมายสัมภาษณ์ขอวีซ่า โดยจะต้องเดินทางไปสัมภาษณ์วีซ่าด้วยตนเอง
ทั้งนี้นักเรียนต่างชาติที่สมัครไปเรียน โดยทั่วไปแล้วจะใช้วีซ่าประเภท F-1 ซึ่งจะต้องชำระค่าธรรมเนียม I-901 SEVIS fee เพื่อ activate I-20 ก่อนไปสัมภาษณ์ขอวีซ่า ค่าธรรมเนียมส่วนนี้จะเป็นการชำระเพื่อเข้าระบบฐานข้อมูลบุคคลต่างชาติของ U.S. Immigration and Cutoms Enforcement
• ข้อควรรู้ 1: สัมภาษณ์วีซ่านักเรียนจะมีคิวเปิดให้สัมภาษณ์เรื่อยๆ ไม่เหมือนกับวีซ่าท่องเที่ยว และสามารถขอคิวสัมภาษณ์พิเศษ เพื่อให้ได้สัมภาษณ์ทันเวลาที่จะต้องเดินทางไปเรียนได้ (แต่จะอนุมัติหรือไม่ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของกงสุล)
• ข้อควรรู้ 2: วีซ่านักเรียนอเมริกา สัมภาษณ์เสร็จแล้วทราบผลเลย ในวันสัมภาษณ์ และสามารถรอรับเล่ม passport คืนได้ ทางไปรษณีย์ภายใน 3-7 วันทำการหลังจากที่สัมภาษณ์
• ข้อควรรู้ 3: ไม่จำเป็นต้องจองที่พักและตั๋วเครื่องบินก่อนสัมภาษณ์วีซ่า
ขั้นตอนที่ 4: เตรียมตัวก่อนเดินทาง
หลังจากที่วีซ่าผ่านแล้ว สามารถทำเรื่องเตรียมตัวก่อนเดินทางได้เลย รวมถึง การจองที่พัก การจองตั๋วเครื่องบิน และการเตรียมสิ่งของ เอกสาร ข้าวของก่อนเดินทาง
• ข้อควรรู้ 1: วีซ่านักเรียน F-1 อเมริกา สามารถเดินทางเข้าประเทศอเมริกาได้เร็วสุด 30 วันก่อนเริ่มเรียน โดยสามารถดู Program Start Date และวันที่เดินทางเข้าประเทศได้ใน I-20
• ข้อควรรู้ 2: สถานศึกษาแต่ละแห่งมีบริการและเงื่อนไขเกี่ยวกับที่พักที่แตกต่างกัน และอาจมีกำหนดวันที่แนะนำให้เดินทางไปถึง และวันที่จะย้ายเข้าที่พักได้แตกต่างกัน ควรเช็คกับสถานศึกษาก่อนจองตั๋วเครื่องบิน
• ข้อควรรู้ 3: I-20 เป็นไฟล์สำคัญ ที่จะต้องใช้ในการเดินทางเข้าประเทศอเมริกา พร้อมกับ F-1 วีซ่า