เรียนต่อ Community College อเมริกา
Community College คือ วิทยาลัยระดับอุดมศึกษาในอเมริกา เป็นจุดเริ่มต้นการเรียนต่ออเมริกาที่คุ้มค่า ด้วยอัตราค่าเล่าเรียนที่ประหยัด (ปีละประมาณ 450,000 บาท) วิทยาลัยให้ความสำคัญกับการสนับสนุนนักเรียนต่างชาติในการปรับตัวเข้ากับระบบและวัฒนธรรมการศึกษาในอเมริกา และมีคุณภาพการเรียนการสอนเป็นไปตามมาตรฐานของรัฐบาล
คลิปสรุป community college คืออะไร
ความคุ้มค่าของการเรียน Community College
ทำไมนักเรียนชาวอเมริกันกว่า 50% จึงเลือกเข้าเรียนใน college ก่อน?
ค่าใช้จ่ายและคุณภาพ
คือ คำตอบ เนื่องจากวุฒิปริญญาตรีที่จะได้รับจะเป็นวุฒิที่เหมือนการเรียนมหาวิทยาลัย 4 ปี โดยที่นักเรียนสามารถชำระค่าเรียนในช่วง 2 ปีการศึกษาได้ในอัตราประหยัดกว่า 50-70%
นอกจากนี้แล้ว นักศึกษาใน college ที่เป็นพันธมิตรกับ KPG สามารถสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีภายใน 4 ปี เนื่องจาก
1) Credits : Earn the Right Credits
หลักสูตรและหน่วยกิตใน college สำหรับการเรียนต่อปริญญาตรี เป็นหน่วยกิตวิชาพื้นฐาน จึงสามารถเทียบกับหน่วยกิตใน 2 ปีแรกของ university ได้ ตามมาตรฐานและข้อกำหนดของรัฐ
2) Support : All-inclusive
วิทยาลัยมีบริการนักเรียนต่างชาติครบวงจร ตั้งแต่การแนะนำในการปรับตัวก่อนเริ่มเรียน ที่พัก การวางแผนการศึกษา การเตรียมตัวสมัครเพื่อโอนเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัย กิจกรรมต่างๆ
3) Class-size : 1:30 Ratio
ด้วยอัตราส่วนของผู้สอน 1 ต่อนักเรียนเฉลี่ยต่อห้องไม่เกิน 30 คน นักเรียนจะได้รับการดูแลและคำแนะนำอย่างทั่วถึง ตลอดจนจะสามารถถามคำถามและมีส่วนร่วมในชั้นเรียนได้อย่างเต็มที่ ที่สำคัญวิชาเรียนจะสอนโดย professor ตัวจริง ที่มีวุฒิปริญญาโท (Master’s Degree) หรือปริญญาเอก (Doctoral Degree)
ทำไมนักเรียนไทยถึงเลือกเรียนต่อ college ?
หลักสูตรของ Community College
College ในอเมริกาเปิดสอนหลักสูตรการเรียนที่หลากหลายในระดับอนุปริญญา (2 ปีแรกของปริญญาตรี) และปริญญาตรี รวมถึงคอร์สเรียนปรับพื้นฐานสำหรับการศึกษาต่อ ด้านภาษาอังกฤษ ในบทความนี้เราจะแนะนำหลักสูตรที่สำคัญโดยแบ่งออกเป็น 4 กลุ่มดังนี้
1) 2+2 University Transfer Program
หลักสูตรการเรียนเพื่อการโอนศึกษาต่อปริญญาตรี โดยจะเริ่มเรียนเก็บหน่วยกิตวิชาเรียนระดับชั้นปี 1-2 ในวิทยาลัย และโอนย้ายเข้าศึกษาต่อมหาวิทยาลัยเพื่อเก็บหน่วยกิตระดับชั้นปี 3-4 เพื่อจบปริญญาตรี โดยปกติแล้ว จะใช้เวลาเรียนทั้งหมด 4 ปี
มีสาขาการเรียนอะไรให้เลือกได้บ้าง?
College เป็นสถาบันที่เปิดสอนวิชาพื้นฐาน 2 ปีแรกของหลักสูตรปริญญาตรี จึงมีวิชาเรียนที่หลากหลายให้นักศึกษาเลือกเรียน เพื่อเตรียมโอนเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยในเอกสาขาการเรียน (major) ที่สนใจ กล่าวได้ว่า ไม่ว่าจะอยากเรียนสาขาใดๆก็สามารถเริ่มต้นที่ Community College ซึ่งรวมถึง Accounting, Architecture, Arts, Business Management, Biology, Chemistry, Communication Studies, Computer Science, Designs, Economics, Engineering, Environmental Studies, Gender and Women’s Studies Nutrition, Geology, History, International Studies, Linguistic, Multicultural Studies, Music, Philosophy, Politic, Psychology, Physics เป็นต้น
แล้วนักเรียนที่จบจาก College จะสามารถโอนเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยใดได้บ้าง?
มหาวิทยาลัยส่วนมากในอเมริกาและรวมถึงในต่างประเทศ เช่น แคนาดา จะรับนักเรียนที่จบจาก College ในการโอนเข้าศึกษาต่อ ซึ่งนักเรียนกลุ่มนี้จะเรียกว่า Transfer Students ซึ่งตัวอย่างของมหาวิทยาลัยในอเมริกา ที่รับ transfer student รวมถึง
• Top Universities ต่างๆ อาทิ Cornell University, Johns Hopkins University, New York University (NYU), UC Berkeley, UCLA, University of Illinois at Urbana-Champaign, University of Michigan – Ann Arbor, University of North Carolina at Chapel Hill, USC, University of Texas at Austin, University of Virginia, University of Washington, and University of Wisconsin-Madison เป็นต้น
• State Universities ซึ่งบางมหาวิทยาลัยมาการรับรองการโอนเข้าศึกษาต่อ และมีทุนให้นักเรียนที่ transfer จากวิทยาลัยด้วย อาทิ Arizona State University, Michigan State University, Oregon State University, San Diego State University, University of Arizona, University of Minnesota – Twin Cities, University of Oregon และ Washington State University เป็นต้น
สำหรับการเข้าเรียนในหลักสูตร University Transfer
โดยทั่วไปแล้ว (ทั้งนี้รายละเอียดขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละวิทยาลัย) นักเรียนจะต้อง
• จบมัธยมปลายหรือเทียบเท่า เช่น GED แล้ว หรือมีอายุ 18 ปี+ ก่อนเริ่มเรียน และ
• มีผลสอบภาษาอังกฤษ เช่น IELTS Academic 5.0 – 6.0 หรือ Duolingo English Test 75-85 +
2) High School Completion (in College)
หลักสูตรพิเศษนี้มีเปิดสอนเฉพาะในรัฐ Washington State เท่านั้น
ซึ่งจะช่วยประหยัดเวลา และค่าใช้จ่ายให้กับนักเรียน
ที่ต้องการเรียนจบมัธยมปลาย (เป็นหลักสูตรที่ได้รับความนิยมจากนักเรียนแลกเปลี่ยนเป็นอย่างมาก) และอนุปริญญาหรือปริญญาตรีในอเมริกา
ในหลักสูตรนี้ นักเรียนสามารถเริ่มศึกษาในระดับวิทยาลัยที่อเมริกาได้ตั้งแต่อายุ 16 ปี โดยที่ยังเรียนไม่จบชั้นมัธยม นักเรียนจะสามารถใช้หน่วยกิตจากวิชาที่เรียนในวิทยาลัย เพื่อใช้จบมัธยมปลายจากวิทยาลัย ในขณะเดียวกันหน่วยกิตเหล่านี้เป็นหน่วยกิตในระดับชั้นปี 1 ของหลักสูตรอนุปริญญาและปริญญาตรีอีกด้วย
ดังนั้นภายในปี 1 ปีการศึกษา นักเรียนจะสามารถจบเพื่อรับวุฒิ High School Diploma ที่ได้รับการรับรองโดยรัฐ Washington ได้ และหากลงเรียนต่ออีก 1 ปี จะเป็นการเรียนปีที่ 2 ของหลักสูตร University Transfer ที่กล่าวถึงก่อนหน้า ซึ่งเมื่อจบปีที่ 2 แล้ว นักเรียนจะสามารถจบและได้รับวุฒิ Associate Degree พร้อมหน่วยกิตของวิชาเรียนในช่วงชั้นปี 1-2 ของระดับปริญญาตรี
สำหรับการเข้าเรียนในหลักสูตร High School Completion
โดยทั่วไปแล้ว (ทั้งนี้รายละเอียดขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละวิทยาลัย) นักเรียนจะต้อง
• มีอายุไม่ต่ำกว่า 16 ปี ในเทอมที่จะเริ่มเรียนที่วิทยาลัยในรัฐ Washington และ
• มีผลสอบภาษาอังกฤษ เช่น IELTS Academic 5.0 – 6.0 หรือ Duolingo English Test 75-85 +
3) Applied Associate / Applied Bachelor
เป็นหลักสูตรการเรียนเฉพาะทาง สำหรับการพัฒนาความรู้และทักษะเฉพาะด้าน สำหรับการประกอบอาชีพหรือการทำงานในสายงานนั้นๆ ซึ่งจะถูกเรียกว่า Applied Degree โดยแบ่งเป็น 2 ระดับ ได้แก่
• Applied Associate Degreeใช้เวลาเรียน 2 ปี
• Applied Bachelor’s Degree (เปิดสอนเฉพาะบางสาขา)ใช้เวลาเรียนรวม 4 ปี
ตัวอย่างสาขาการเรียน
Accounting, Applied Art – Illustration, Aviation, Architectural Technology, Automotive Body/Repair Technician, Baking Art, Behavioral Healthcare, Computer Security and Network Technology, Computing. and Software Development, Culinary Art, Design, Dental Hygiene, Digital Gaming and Interactive Media, Digital Filming, Robotics and Artificial Intelligence, Nursing, Music Technology และ Mangement เป็นต้น
สำหรับการเข้าเรียนในหลักสูตร Applied Degree
โดยทั่วไปแล้ว (ทั้งนี้รายละเอียดขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละวิทยาลัย) นักเรียนจะต้อง
• มีอายุไม่ต่ำกว่า 16 ปี ในเทอมที่จะเริ่มเรียนที่วิทยาลัยในรัฐ Washington หรือ 18 ปีในรัฐอื่นๆ เช่น California และ
• มีผลสอบภาษาอังกฤษ เช่น IELTS Academic 5.0 – 6.0 หรือ Duolingo English Test 75-85 +
4) เรียนปรับพื้นฐานภาษาอังกฤษ
ด้วยหลักสูตรที่เรียกว่า English as a Second Language (ESL) หรือ English for Academic Purpose (EAP) คือโปรแกรมการเรียนปรับพื้นฐาน และเตรียมความพร้อมภาษาอังกฤษเชิงวิชาการสำหรับการศึกษาต่อ
สำหรับนักเรียนที่ผลสอบภาษาอังกฤษไม่เกณฑ์
สำหรับการเริ่มเรียนเก็บหน่วยกิตระดับวิทยาลัยได้ ดังนั้นหากวิทยาลัยนั้นๆมีเปิดสอน ESL หรือ EAP นักเรียนจะสามารถสมัครเข้าเรียนได้ แม้ผลสอบภาษาอังกฤษจะยังไม่ถึงเกณฑ์สำหรับการเข้าเรียนในวิทยาลัยก็ตาม
หลักสูตรนี้จะเป็นการเรียนปรับพื้นฐานภาษาอังกฤษแบบเต็มเวลา โดย
• ระดับพื้นฐาน จะเรียกว่า ESL ซึ่งจะเป็นการสอนภาษาอังกฤษในด้านการพูด การฟัง การอ่าน และการเขียน โดยทั่วไปแล้ว ระหว่างที่เรียน ESL จะไม่สามารถเรียนเก็บหน่วยกิตไปพร้อมกันได้
• ระดับที่สูงขึ้น จะเรียกว่า EAP ซึ่งจะเป็นการสอนภาษาอังกฤษเพื่อใช้งานเชิงวิชาการ เตรียมความพร้อมสำหรับการเรียนเก็บหน่วยกิต โดยที่ระหว่างเรียน EAP อาจจะสามารถลงเรียนเก็บหน่วยกิตระดับวิทยาลัยบางส่วนไปพร้อมกันได้เลย และเมื่อจบ EAP ระดับสูงสุดแล้ว จะเรียนเก็บหน่วยกิตได้เต็มเวลา
สำหรับการเข้าเรียนในหลักสูตร ESL / EAP
• โดยทั่วไปแล้ว นักเรียนจะต้องมีเงื่อนไขด้านอายุ หรือการศึกษาที่จบก่อนหน้าตามเงื่อนไขของหลักสูตรที่กล่าวไปก่อนหน้า (ทั้งนี้รายละเอียดขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละวิทยาลัย)
• ทั้งนี้ แม้บางวิทยาลัยจะมีเปิดสอน ESL / EAP และบางวิทยาลัยอาจไม่บังคับให้มีผลสอบวัดระดับภาษาอังกฤษ KPG แนะนำให้นักเรียนที่สนใจสอบ IELTS Academic หรือ Duolingo English Test เพื่อความแม่นยำในการประเมินและวางแผนการเรียน
• อีกทั้งเพื่อลดความเสี่ยงในการยื่นขอวีซ่า และประหยัดค่าใช้จ่ายของนักเรียน KPG แนะนำให้นักเรียนมีเกณฑ์ภาษาที่อยู่ในเกณฑ์ระดับ EAP ของวิทยาลัยนั้นๆ
ค่าใช้จ่ายเรียน Community College อเมริกา
ค่าใช้จ่ายในการเรียน Community College ที่ KPG แนะนำ โดยประมาณ
Item/รายการ | 1 เทอม | 1 ปีการศึกษา | 2 ปีการศึกษา | Currency/ สกุลเงิน |
---|---|---|---|---|
Tuition and fees: ค่าเทอม ค่าธรรมเนียมของวิทยาลัย | 4,000 | 12,000 | 24,000 | USD |
Medical Insurance: ค่าประกันสุขภาพ | 400 | 1,200 | 2,400 | USD |
Housing: ค่าที่พัก | 3,150 | 9,450 | 18,900 | USD |
Book & Supplies: ค่าหนังสือและอุปกรณ์การเรียน | 265 | 795 | 1,590 | USD |
รวม USD | 7,815 | 23,445 | 46,890 | USD |
รวม THB | 281,340 | 844,020 | 1,688,040 | THB |
หมายเหตุสำคัญเกี่ยวกับตารางค่าใช้จ่ายนี้:
1) เกี่ยวกับตัวเลข: ตารางนี้แสดงค่าใช้จ่ายโดยประมาณ *ใช้สำหรับการแนะนำและชี้แจงเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการเรียนต่อ college อเมริกา สำหรับรายละเอียดค่าใช้จ่ายที่เป็นจริงจะแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับแต่ละสถาบัน และค่าเรียนและค่าที่พักสามารถแบ่งจ่ายเป็นรายเทอมได้
2) เทอมการศึกษา: การคำนวณนี้อิงตามปฏิทินการศึกษารูปแบบ quarter (คือมี 4 เทอมใน 1 ปีการศึกษา ซึ่งต้องลงเรียนขั้นต่ำ 3 เทอมต่อปีการศึกษา) ในขณะที่บางวิทยาลัยจะใช้ปฏิทินการศึกษารูปแบบอื่น เช่น semester (คือมี 3 เทอม ใน 1 ปีการศึกษา ซึ่งต้องลงเรียนขั้นต่ำ 2 เทอมต่อปีการศึกษา)
3) การชำระค่าใช้จ่าย: ก้อปันกันไม่มีนโยบายเก็บค่าใช้จ่ายส่วนต่างเพิ่มเติมจากอัตราค่าใช้จ่ายที่นักเรียนต้องชำระในอัตราปกติ : นักเรียนชำระค่าใช้จ่ายกับสถาบันโดยตรงโดยไม่มีการชาร์จค่าเรียนเพิ่มเติม
4) ค่าใช้จ่ายที่ยังไม่รวม: ค่าใช้จ่ายนี้ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายส่วนตัว เช่น ค่าอาหาร ค่าเดินทาง ค่าตั๋วเครื่องบิน และค่าใช้จ่ายในการสมัครเรียน/สมัครขอวีซ่า
คลิปแนะนำเรียนต่อ college อเมริกา x nichawong
คำถามที่พบบ่อย
ก้อปันกัน (KPG) ให้คำปรึกษาและบริการสมัครเรียนอเมริกา เรามีประสบการณ์ตรง ทั้งในการศึกษาและการทำงานใน college อเมริกา เราจึงสามารถแนะนำได้ลึก และให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์ได้อย่างแน่นอน
… หากสนใจเรียนต่อ college อเมริกา ติดต่อเราได้ที่นี่ และจากประสบการณ์ของเรา ด้านล่างนี้ คือ คำถามที่พบบ่อย และเราได้สรุปคำตอบไว้ให้คุณที่นี่แล้ว
• GPA: โดยทั่วไปแล้ว Community College อเมริกาไม่จำกัดผลการเรียนขั้นต่ำในการสมัครเข้าเรียน เนื่องจากการสมัครเรียนเป็นไปตามนโยบาย Open Admission วิทยาลัยจะรับทุกคนที่มีคุณสมบัติที่ถึงเกณฑ์ในการเข้าศึกษาต่อ
• Age: มีอายุไม่ต่ำกว่า 16 ปี ในเทอมที่จะเริ่มเรียนที่วิทยาลัยในรัฐ Washington หรือ 18 ปีในรัฐอื่นๆ เช่น California
• High School Graduation: บางวิทยาลัย จะกำหนดให้จบมัธยมปลายก่อนเริ่มเรียน หรือมี GED ก็สามารถสมัครได้ อย่างไรก็ตามสำหรับวิทยาลัยในรัฐ Washington ไม่จำเป็นต้องจบมัธยมปลายหรือเทียบเท่าก่อนเริ่มเรียน
• High School Transcript: ใช้ใบแสดงผลการเรียนตั้งแต่ระดับชั้นมัธยม 3 จนถึงชั้นการศึกษาล่าสุดที่มีสมัครเข้าเรียน (หากกำลังศึกษาอยู่ ขณะที่ยื่นสมัคร สามารถยื่นใบแสดงผลการเรียนฉบับเต็มตาม หลังจากจบการศึกษาแล้วได้)
• English Proficiency: KPG แนะนำให้มีผลสอบภาษาอังกฤษ เช่น IELTS Academic 5.0 – 6.0 หรือ Duolingo English Test 75-85 + เพื่อที่จะได้ไม่ต้องไปเรียนปรับพื้นฐานภาษาอังกฤษตั้งแต่ระดับพื้นฐาน และลดความเสี่ยงที่จะโดนปฏิเสธการสมัครขอวีซ่า
• Proof of Fund: ผู้ปกครองจะต้องเตรียมหนังสือรับรองสถานะทางการเงิน (Bank Guarantee) ที่ออกโดยธนาคาร ซึ่งจะต้องมียอดคงเหลือไม่ต่ำกว่าที่วิทยาลัยกำหนด ซึ่งส่วนมากจะอยู่ที่ประมาณ 25,000 – 30,000 USD
คลิปวีดีโอสรุป เรียนต่อ community college อเมริกา ใช้อะไรบ้าง?
1) เรียนต่อ 2 ปีในอเมริกาสำหรับวุฒิปริญญาตรี สมัครและโอนหน่วยกิตไปยังมหาวิทยาลัย 4 ปี และใช้ศึกษาต่ออีก 2 ปีในการที่จะสำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรี นักศึกษาที่ได้ไปศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยทั่วประเทศอเมริกา
2) ฝึกงานในอเมริกา (OPT) ทำงานที่มีความเกี่ยวข้องกับเอกวิชาที่สำเร็จการศึกษา เพื่อที่จะฝึกภาคปฏิบัติและสร้างเสริมประสบการณ์การทำงาน (Occupation Practical Training, OPT) ในประเทศสหรัฐอเมริกาได้เป็นเวลา 1-2 ปี
3) เรียนต่อในไทยเพื่อสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี เช่น
- โอนเรียนต่อ MUIC สมัครและโอนหน่วยกิตเข้ามหาวิทยามหิดลภาคอินเตอร์ และใช้ศึกษาต่ออีกประมาณ 2 ปีในการที่จะสำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรี *รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการโอนเข้า MUIC – click
- โอนเรียนต่อ Stamford University สมัครและโอนหน่วยกิตเข้ามหาวิทยาลัย Stamford ประจำประเทศไทย *รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการโอนเข้า Stamford – click
ในส่วนของทุนการศึกษา
College บางแห่งจะมีทุนลดหย่อนค่าเล่าเรียนให้นักเรียนใหม่ที่สมัครเรียน อาทิ Edmonds College มีทุนลดหย่อนประมาณ 1,000 USD และ Lane Community College มีทุนลดหย่อนประมาณ 500 – 3,000 USD ซึ่งในส่วนนี้ KPG จะแนะนำให้กับนักเรียนที่สมัครเรียนกับ KPG ได้
นอกจากนี้แล้ว ในระหว่างที่ศึกษาอยู่ วิทยาลัยบางแห่งจะมีทุนการศึกษาให้นักเรียนนานาชาติปัจจุบัน (curren students) โดยเฉลี่ยประมาณ $300 – $500 USD ต่อเทอม (คิดเป็น 10-15% ของค่าเทอม) โดยอาจจะลดหย่อนได้ปีละ 1 เทอม หากนักเรียนได้รับ
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับทุนเรียนต่อ community college อเมริกา – คลิกที่นี่
ในส่วนของการทำงาน
สำหรับการไปเรียนศึกษาในอเมริกาด้วยวีซ่านักเรียน F-1 นักเรียนจะไม่สามารถทำงานนอกสถานศึกษาได้อย่างถูกกฎหมาย ทั้งนี้นักเรียนจะสาารถมีทำงานในสถานศึกษาได้ ตัวอย่างงาน อาทิ Tutor, Peer Mentor, Student Government, Office Assistant เป็นต้น โดยหากสามารถทำงานในสถานศึกษาได้ มักจะได้เป็นค่าแรงขั้นต่ำต่อชั่วโมง และไม่สามารถทำได้เกิน 20 ชั่วโมง/สัปดาห์ ทั้งนี้ค่าตอบแทนขึ้นอยู่กับสถาบันและงานที่ได้ทำด้วย
คลิปวีดีโอสรุป เรียนต่ออเมริกา ทำงานได้ไหม?
Community College ที่แนะนำ
สำหรับหลักสูตร 2+2 University Transfer
★ รัฐ Washington
Shoreline Community College (SCC)
ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของ Seattle เป็นย่านที่พักอาศัย ปลอดภัย สะดวกสบาย เข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกและห้างได้ง่าย แนะนำสำหรับด้าน Business, Art, Humanities, Music, Science, Social Science การเรียนต่อที่ Shoreline จะเป็นจุดเริ่มต้นที่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่งสำหรับชีวิตทางการศึกษาของนักเรียนต่างชาติ เนื่องจาก Shoreline ทราบดีว่าการเดินทางไปศึกษาในต่างประเทศนั้นเป็นก้าวที่ใหญ่สำหรับนักเรียน อาจารย์และพนักงานของ Shoreline จึงพร้อมที่จะช่วยเหลือนักเรียนด้วยความเจตนารมที่ตั้งมั่นในการช่วยส่งเสริมความสำเร็จของนักเรียน ที่ Shoreline นักเรียนสามารถเริ่มเรียนได้ตั้งแต่อายุ 16 ปี โดยยังไม่ต้องจบมัธยมปลายมาก่อน
Edmonds College
ตั้งอยู่ในเมือง Lynwood ย่านเมืองที่ปลอดภัย เป็นวิทยาลัยที่มีหอพักและ homestay ให้เลือกพักอาศัย ภายใต้การดูแลของวิทยาลัย โดดเด่นด้าน Business, STEM นักเรียนของ Edmonds สามารถโอนเข้าศึกษาต่อที่ UC Berkeley และ UW ได้เป็นจำนวนมาก ที่ Edmonds นักเรียนสามารถศึกษาในระดับอนุปริญญาเพื่อเก็บหน่วยกิตการศึกษาปี 1 และ ปี 2 ของระดับปริญญาตรี ได้แต่ตั้งอายุ 16 ปี โดยยังไม่เป็นจำเป็นจะต้องจบมัธยมปลายมาก่อน
Green River College (GRC)
ตั้งอยู่ในเมือง Auburn ทางตอนใต้ของ Seattle เป็นย่านที่พักอาศัย ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่อุดมไปด้วยต้นไม้สูงและทิวทัศน์แบบสวนสาธารณะ มีสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย เป็นมิตร สงบสุขและเหมาะสมกับการศึกษาเป็นอย่างยิ่ง GRC มีให้บริการที่พักทั้ง homestay และหอพัก ภายใต้การดูแลของวิทยาลัย เปิดสอนหลักสูตรการศึกษา 2 ปี มีหลักสูตรอนุปริญญาเพื่อการโอนศึกษาต่อปริญญา รวมถึงหลักสูตรปริญญาตรี 4 ปีที่วิทยาลัยด้วย แนะนำสำหรับการเรียนด้าน Business, Aviation, Science & Engineering เริ่มเรียนได้ตั้งแต่อายุ 16 ปี ไม่จำเป็นต้องจบมัธยมปลาย
Bellevue College (BC)
ตั้งอยู่ในเมือง Bellevue ซึ่งเปรียบเสมือนตัวเมืองใหม่ของ Seattle เป็นวิทยาลัยขนาดใหญ่ ได้รับการยกย่องให้เป็นวิทยาลัยที่มีความเป็นเลิศทางด้านวิชาการในระดับประเทศและระดับนานาชาติ เปิดสอนทั้งระดับปริญญาตรี อนุปริญญาสำหรับการโอนศึกษาต่อ ที่ Bellevue นักเรียนเริ่มเรียนได้ตั้งแต่อายุ 16 ปี ไม่จำเป็นต้องมัธยมปลายมาก่อน
Whatcom Community College
ตั้งอยู่ในเมืองเบลลิงแฮม (Bellingham) ใกล้แคนาดา มีประชากรประมาณ 80,000 คน รวมทั้งนักศึกษาระดับอุดมศึกษามากกว่า 20,000 คน มีนักศึกษาโดยเฉลี่ย 7,000 คน นักศึกษานานาชาติมากกว่า 150 คนจากมากกว่า 30 ประเทศทั่วโลก เป็นสถาบันการศึกษาของรัฐบาล ใช้เวลาขับรถเพียง 90 นาทีไปยังเมือง Seattle และ 60 นาทีไปยังเมือง Vancouver ที่ Whatcom นักเรียนเริ่มเรียนได้ตั้งแต่อายุ 16 ปี ไม่จำเป็นต้องมัธยมปลายมาก่อน และมีบริการที่พักของวิทยาลัย
Lake Washington Institute of Technology (LWTech)
หนึ่งใน College แบบเฉพาะทางของเมือง Seattle ในฝั่งของ Bellevue แนะนำสำหรับสายการเรียนด้าน Architecture, Engineering, Information Technology, Health Science มีหลักสูตรเฉพาะทางการออกแบบเกม หลายๆ โปรแกรมจะมีผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ในแต่ละด้านมาสอนด้วยตัวเอง และยังจับมือกับบริษัทชั้นนำต่างๆ เพื่อสร้างองค์ความรู้ร่วมกันระหว่างสถาบันและโลกแห่งความเป็นจริง มีทั้งบริษัทซอฟต์แวร์, ร้านอาหาร, กราฟิก เฮ้าส์ เป็นต้น ที่นี่นักเรียนสามารถเริ่มเรียนได้ตั้งแต่อายุ 16 ปี โดยยังไม่ต้องจบมัธยมปลายมาก่อนเช่นกัน
★ รัฐ Oregon
Lane Community College
วิทยาลัยที่ตั้งอยู่ในเมือง Eugene รัฐ Oregon เป็นชุมชนสำรับนักเรียนศึกษา อยู่ร่วมกับ University of Oregon มีทุนจำนวน $500-3,500 USD ให้กับนักเรียนใหม่ที่สมัครเข้าเรียนในทุกเทอม และมีหอพักสำหรับนักศึกษาที่ตั้งอยู่ในตัวเมือง Eugene ซึ่งค่าเช่าอยู่ในอัตราที่ต่ำถ้าเทียบกับวิทยาลัยในรัฐ Washington และ California ที่ Lane นักเรียนจะเริ่มเรียนได้เมื่ออายุขั้นต่ำ 17 ปีแล้ว
★ รัฐ California
Diablo Valley College (DVC)
ตั้งอยู่ในในเมือง Pleasant Hill ประมาณ 45 นาที ทางตอนเหนือของ San Francisco (ใกล้ Berkeley) เป็นวิทยาลัยชุมชนของรัฐบาลที่ตั้งอยู่ในบริเวณของภูเขา Diablo มีบรรยากาศที่เอื้อต่อการศึกษาและปลอดภัย DVC มีโปรแกรมการโอนย้ายหน่วยกิตในระดับมหาวิทยาลัยที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด ในรัฐ California โดยเฉพาะสำหรับการโอนศึกษาต่อ UC Berkeley, UCLA รวมถึง UC แคมปัสอื่นๆ ที่นี่นักเรียนจะตั้งอายุ 18 ปี + สำหรับการเข้าศึกษาหรือจบมัธยมปลายก่อนหน้า
Santa Monica College (SMC)
ตั้งอยู่ใจกลางชุมชนของ Santa Monica ใกล้เมือง LA ห่างจากทะเลประมาณ 2 ไมล์ ทำให้อากาศไม่ร้อนและไม่หนาวจนเกินไป อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 24 องศาเซลเซียส และมีลมพัดเอื่อยตลอดทั้งปี SMC เปิดสอนหลักสูตร 2 ปีเพื่อให้โอนหน่วยกิตไปศึกษาปริญญาตรีต่อในมหาวิทยาลัย ที่ SMC มีอัตรานักเรียนโอนเข้าศึกษาต่อ UCLA และ UC campus อื่นๆได้เป็นจำนวนมาก ที่นี่นักเรียนจะตั้งอายุ 18 ปี + สำหรับการเข้าศึกษาหรือจบมัธยมปลายก่อนหน้า
★ รัฐ ILLINOIS
College of Lake County (CLC)
วิทยาเขตที่ใหญ่ที่สุดของวิทยาลัยอยู่ที่เมืองเกรย์สเลค (Grayslake) ตัวเมืองมีประชากรประมาณ 20,300 คน College of Lake County ห่างจากตัวเมือง Chicago และเมืองมิลโวคี รัฐวิสคอนซิลประมาณ 1 ชั่วโมง เปิดสอนหลักสูตร University Transfer มีการรับรองโอนเข้าศึกษาต่อ Illinois State University, DePaul University, the University of Iliinois at Chicago และอื่นๆอีกมากมาย ที่ CLC นักเรียนจะตั้งอายุ 18 ปี + สำหรับการเข้าศึกษาหรือจบมัธยมปลายก่อนหน้า
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ประวัติ Community College:
ระบบการศึกษาที่เปลี่ยนประเทศอเมริกามาจนถึงทุกวันนี้
# เรียนต่อ Community College อเมริกา