ประสบการณ์เรียนที่ EV Academy เปรียบเทียบกับ IDEA Academia หลักสูตร ESL

รีวิว ประสบการณ์เรียนที่ EV Academy

โดย คุณโอ๊ต อายุ 37 ปี

อดีตพนักงานบริษัทเอกชน เเผนกการตลาด

ระยะเวลาเรียนทั้งหมด 4 สัปดาห์

Part 2 สถาบัน EV Academy (NEW CAMPUS)
หลักสูตร SPARTA ESL

ทำงานมาหลายปีทำไมถึงกล้าลาออกจากงานไปเรียนภาษา ?

ถ้าถามจากตัวเราเอง เราตั้งต้นว่า เราอยากพูดภาษาอังกฤษได้ โดยที่อยากใช้ชีวิตและอยากพูดได้ค่ะ อยากไปตามหาตัวเองว่าจะพูดได้ไหม ไปทดสอบตัวเอง ทุกๆอย่าง ที่เป็นปัจจัย องค์ประกอบในการตัดสินใจ เช่น ลาออกจากงานทำไม ไปแล้วจะได้อะไร มันจะถูกมองข้ามไป เพราะเรามีเป้าหมายแล้วว่าเราอยากมีประสบการณ์ อยากลองไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศดู ถ้าเรามีเป้าหมายอันนี้ ทุกๆอย่างที่เป็นเงื่อนไขที่เราตั้งขึ้นมาก็จะตกไปเอง ซึ่งเราคิดแบบนั้น

แต่กับคนอื่นอาจจะมีภาระที่ทำไม่ได้ มันก็อาจจะมีได้เหมือนกัน ซึ่งบางที่เค้าอาจจะให้ลาแบบไม่รับค่าจ้างก็ได้ ซึ่งแต่ละบริษัทก็จะมีเงื่อนไขที่แตกต่างกันออกไปค่ะ แต่ว่าถ้ามีเป้าหมายเดียวว่า อยากพูดภาษาอังกฤษ แล้วประหยัดงบ ใกล้ประเทศไทย ก็ทุกอย่างก็ก้าวข้ามไปได้หมดเลย เพราะถ้าไปอยู่ที่อื่นๆ ออสเตรเลีย แคนาดา มันต้องยิ่งกว่านี้อยู่แล้วนะ คือทุกๆ อย่างจะถูกคูณไปทั้งหมด ไม่ใช่แค่ตัวเงินอย่างเดียว เช่น เวลาที่คุณต้องไปอยู่อาจจะต้องใช้เวลามากกว่านั้น

ซึ่งก็อยู่ที่ตัวเองมากกว่า ว่ามีเป้าหมายอะไร แต่ไม่ต้องกลัว ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ก็ตามไม่ต้องกลัวที่จะไปเรียนรู้ภาษาอังฤษ เพราะว่าพอเราไป ที่ IDEA เราเห็นคนอายุ 60 ชาวญี่ปุ่นก็มาเรียนนะ มันก็แสดงว่ามันไม่มีขีดจำกัดด้สนอายุเลย สำหรับการเรียนภาษาอังกฤษ อาจจะมีขีดจำกัดด้านการรับรู้มากกว่า คือ อาจจะรู้ช้ากว่าเด็กอายุ 18 ปี แค่นั้น คนที่อายุยิ่งเยอะ จะมีความขยัน มีวินัยในการฝึกฝนมากกว่าเด็ก คนละแบบ ถ้าเป็นเด็ก ก็จะเรียนรู้ไว มีความงอแงนิดหน่อย

ถ้าเรายิ่งโตเราอาจจะรู้ว่าการงอแงไม่ได้เป็นสิ่งที่ดีนัก แต่การรับรู้ของเราอาจจะช้า ซึ่งอันนี้ต้องยอมรับตามวัยแค่นั้น (หัวเราะ) 60 ปี 50 ปี 40 ปี ที่เห็นก็มีค่ะ ถามว่ากลัวไม่มีเพื่อนไหม ก็ถ้าไม่ปิดตัวเอง ที่นั่นคนเป็นเพื่อนกันหมดนะ คนญี่ปุ่นแก่ๆ ก็เป็นเพื่อนกับเราก็มีนะ ถ้าไม่ปิดตัวเอง ทุกที่ก็มีหมดแหละ  EV ก็มีค่ะ แต่ส่วนใหญ่จะเด็กๆ มากกว่า ถ้าอายุเยอะแล้วก็ดูว่าสถาบันไหน ค่าเฉลี่ยอายุอยู่ที่ประมาณเท่าไหร่ แค่นั้นเอง เราก็จะอุ่นใจขึ้น

แต่การมีเพื่อนเด็ก ก็ทำให้เรียนรู้เด็ก Gen ใหม่ๆ เหมือนได้เรียนรู้อนาคตของเเต่ละชาติว่าเป็นยังไง ถามว่าที่ทำงานเราจะเจอไหม ก็ไม่เจอถ้าเรายังคงอยู่ที่ทำงาน ก็จะเจอแต่เด็กจบใหม่ อยู่ที่เราเองว่าจะเก็บเกี่ยวและมองมุมไหน แต่บางคนเค้าไม่ได้มองที่มุมนั้นรึเปล่าค่ะ ถ้าถามว่าควรไปเรียนไหม ถ้าอยากพูดได้ ไม่ใช่อยากพูดได้เลยนะ เพราะคงพูดไม่ได้เลย 100% แค่ไปเพิ่มความกล้าให้ตัวเอง อันนี้ก็จะดีกว่า ก็แนะนำ ไม่อย่างนั้นก็ไม่มีวันกล้าที่พูดแล้วค่ะ

แคมปัสใหม่ EV Academy เป็นอย่างไร ?

บวกสิบไปเลยค่ะ เกินความคาดหวังนะ สิ่งอำนวยความสะดวกดี คือมันใหม่กว่า มีมาตรฐานดีกว่า เเละอาหารช่วงที่โอ๊ตไปมันจะเป็นบางอาทิตย์ที่เป็นบุฟเฟ่ต์พอดี ซึ่งโอเค แค่ว่าอาหารเค้าก็เน้นเกาหลี จริงจังเลย (หัวเราะ) แต่ก็โอเคแหละ ถ้าคนชอบทานอาหารเกาหลี ก็จะชอบเลยค่ะ ด้วยการนำเสนอของอาหารเอง ก็ทำให้ดูดีกว่าที่ IDEA อยู่แล้วค่ะ เรื่องห้องพัก พัก 4 คน สำหรับเราไม่ได้รู้สึกแออัดใดๆ เพราะเจอรูมเมทน่ารัก เป็นรูมเมทที่ไม่ได้เรียนแบบสปาต้า เค้าก็เลยสามารถออกไปข้างนอกกันบ่อยๆ แล้วเราเรียนแบบสปาต้าออกไปไหนไม่ได้ เลยต้องอยู่ในห้องพัก ด้วยความที่เค้าวัยรุ่นด้วยกัน 3 คน เค้าเลยชอบออกไปข้างนอกกันตอนเย็น เสาร์ อาทิตย์ก็ออก ก็เลยเหมือนเวลาไม่เท่ากัน ก็เลยไม่ได้กวนกันมากนัก ถึงจะอยู่แน่นสี่คนก็ตาม

ห้องพักก็มีฟังก์ชั่นของการเก็บของที่เป็นส่วนตัวมากกว่าที่ IDEA เยอะเลยค่ะ เค้าเรียกเป็นสัดเป็นส่วนมากขึ้น แต่จะว่าที่ IDEA เราก็แบ่งสัดส่วนกันด้วยตัวเอง แต่ที่ EV เค้ามีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน มีตู้เสื้อผ้า มีตู้เซฟ ตรงหัวนอนมีปลั๊กไฟ แยกเตียงใครเตียงมันให้ ค่อนข้างเรียบร้อยดี ไม่จำเป็นต้องซื้อเอง หากันเอง หรือพ่วงกันเอง ห้องน้ำทุกอย่างดีหมดค่ะ

การเรียนแบบสปาต้าที่ EV เป็นยังไง ?

การเรียนแบบสปาต้า ถือว่าเราชอบนะ แต่มันอาจจะหนักหน่วงหน่อยสำหรับบางคน แต่สำหรับเรา เราโอเค แล้วเราก็ชอบ ไม่ได้รู้สึกว่าหนักหน่วงเกินไป เกินกว่าที่เราจะได้รับ ก็คือ ตอนเช้าจะมาสอบท่องศัพท์ สอบศัพท์เสร็จก็มาเรียน เลิกเรียน 5 โมงเย็น แล้วก็มีสอบเกี่ยวกับประโยค แล้ว 2 ทุ่มเป็นต้นไป ก็ทบทวนด้วยตัวเอง สำหรับเรา เราโอเค ไม่ได้รู้สึกอึดอัดเกินไป อาจเป็นเพราะไม่ได้มีความกดดันใดๆ บางคนอาจจะไม่ชอบก็ได้ ขึ้นอยู่กับคนค่ะ ไม่ได้มีความรู้สึกอึดอัดหรือยาก จนทำให้เราอยากจะเปลี่ยนเป็น Semi Sparta ค่ะ

ครูที่สถาบัน EV เป็นยังไง ?

ครูบางวิชาก็ไม่ค่อยโอเคค่ะ จากที่เคยแจ้งไป แต่ว่าก็มีวิชากลุ่มที่ค่อนข้างโอเค แต่วิชาเดี่ยวเนี่ย มันมีช่องโหว่ตรงที่ ถ้าอาจารย์ไม่มาภายใน 5 นาทีก็ให้ไปแจ้งที่ออฟฟิศ ซึ่งอาจารย์ ก็จะเข้ามาภายใน 5 นาทีเสมอ แล้วก็การตั้งใจสอน มันก็อยู่ที่ตัวบุคคล บางคนก็รู้สึกว่า ไม่ได้ตั้งใจสอนนัก แต่บางคนมันเหมือนการคุยกันก่อนว่าอยากเรียนไปในแนวทางไหนมากกว่า สิ่งที่เห็นได้คืออาจารย์มีช่องโหว่ในส่วนนี้ มันเลยเกิดเหตุโดยการที่เข้าสายบ้างรึเปล่า เด็กนักเรียนคนอื่นๆ ก็เข้าสายด้วยเหมือนกัน แล้วตัวอาจารย์ 

ส่วนคลาสกลุ่มด้วยความที่คลาสกลุ่มเราเป็นแบบเรียนเต้นที่ IDEA มันก็เลยเทียบกับ EV ไม่ได้ แต่ถ้าจะเทียบได้คงเทียบคลาสกลุ่มในแต่ละวิชาที่ EV ค่ะ ซึ่งก็ต้องกลับไปที่ตัวผู้สอน บางคนมีเกมส์ บางคนมีการเข้าถึง ก็ขึ้นอยู่กับตัวผู้สอนมากกว่าค่ะ แต่เพื่อนๆ มาเล่าให้ฟังว่าของ IDEA คลาสกลุ่มเค้าจะไม่ได้แบ่งเลเวลนักเรียน ทุกคนมาเรียนด้วยกัน ก็เลยจะทำให้คนที่อ่อนไปอยู่กับคนที่เก่ง มันก็จะไม่ทันกัน แต่ที่ EV เค้าจะแบ่งสอนตามเลเวลนักเรียน เลเวลเดียวกันก็เรียนด้วยกัน เราเลยรู้สึกว่ามันดีกว่าอยู่แล้วในการแบ่งให้เรียนตามเลเวลนักเรียน ถ้าไม่แบ่งบางคนเรียนไม่ทันก็น่าสงสาร บางคนทันแล้วก็มานั่งรอคนที่ไม่ทัน มันก็เหมือนถ่วงกันไปมา นักเรียนก็เสียผลประโยชน์ค่ะ

การบริหารจัดการของสถาบันในการช่วยเหลือนักเรียนเป็นยังไง ?

เราโชคดีที่ไปเรียนทั้ง 2 ที่เราเจอสต๊าฟไทยตลอดเวลา แล้วสต๊าฟไทยก็คอยช่วยเหลือเราตลอดเวลา ก็เลยไม่ได้รู้สึกว่าจะช้าหรือจะเร็วใดๆ จริงๆแล้วก็ต้องขอบคุณทางเอเจนซี่ด้วยนะ ถ้าเกิดสมมติว่าเราคุยกับสต๊าฟไม่ได้เราก็จะคอมเพลนมาทางเอเจนซี่มากกว่าค่ะ แล้วโรงเรียนก็จะมีฟีตเเบ๊คมากับเราค่ะ อันนี้เราแทบจะไม่ได้ประสานงานกับโรงเรียนจริงจังเลย เพราะคนกลางคือสต๊าฟไทย แต่ถ้าเราไม่ไหวจริงๆ เราก็จะแจ้งกับทางเอเจนซี่ ซึ่งก็คือคุณข้าว แล้วก็สต๊าฟไทยมาประสานงานต่อ

EV Academy เหมาะกับนักเรียนแบบไหน ?

ถ้าเป็น EV แนะนำให้พวกน้องๆ หรือวัยรุ่นไปเรียน เราว่าดี เพราะว่ามีรั้วรอบขอบชิด ไม่เปิดเกินไปนัก มียามรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดมาก ต้องตรวจ ต้องฝาก ID ตลอดเวลา ก็จะสบายใจหน่อยสำหรับผู้ปกครอง ถ้าเกิดยังดูแลตัวเองไม่ได้ เราก็คงอยากให้อุ่นใจมากกว่า รับรองว่าไม่ผิดหวังด้านความปลอดภัย ด้านอะไรหลายๆอย่าง สิ่งอำนวยความสะดวกครบครันอยู่ในบ้านของเค้าแล้ว สำหรับความเคร่งครัด ถ้าลงสปาต้ารับรองว่าเคร่งครัดแน่นอน (หัวเราะ) ไม่ต้องห่วงใดๆทั้งสิ้น แต่ความสัมฤทธิ์ผลของทั้งสองโรงเรียน ในความคิดเรา มันอยู่ที่ตัวเราเองว่าเราจะเก็บจากอาจารย์ได้ในมุมไหนมากกว่า แล้วก็อยู่ที่ตัวเราว่าจะเก็บเกี่ยวประสบการณ์จากแต่ละที่ได้มากน้อยขนาดไหนแค่นั้นเอง เข้าใจว่าในความรู้สึกเรา EV อาจจะไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์สำหรับเรานัก แต่เราก็เก็บเกี่ยวบางประสบการณ์จาก EV มาได้เช่นกันค่ะ ทำให้เราเรียนรู้ด้วยว่ามันก็มีแบบนี้เหมือนกัน แต่มันก็อยู่ที่มุมมองแต่ละคน ช่วงวัยที่ไปเรียนด้วย ถ้าใครที่ต้องการไปเรียน ต้องการเร่งรัด 3 เดือน เดือนนึง พูดได้เนี่ย ต้องการ Focus จริงๆ แนะนำ EV นะ แต่ถ้าชิวหน่อยๆ ดูแลตัวเองได้ โตแล้วก็ IDEA ได้เลยจ้ะ ดีกว่า ถ้าในความรู้สึกเราว่าต้องเข้มงวดตลอดเวลาไปไหนไม่ได้ ออกไปเที่ยวได้แค่เสาร์ อาทิตย์ อันนี้ EV ดีกว่าเลยค่ะ

บริเวณรอบนอกรั้วโรงเรียนของ EV Academy เป็นยังไง ?

EV อาจจะต้องเดินหาเซเว่นนานหน่อย แต่ IDEA มันอยู่ใต้ตึกเลยไง สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน หาง่ายกว่า แหล่งอาหารการกิน มี Fast food ครบ แต่ที่ EV ต้องเดินมาหน่อยนะ แต่ก็มีอาหารการกิน พื้นเมือง ท้องถิ่นนะ ก็โอเคนะ ไม่ได้เลวร้ายใดๆ ความปลอดภัย เรารู้สึกว่าเราโอเค เดินไปเองทั้งตอนกลางวัน ทั้งตอนกลางคืนก็โอเค ด้วยความที่มันใกล้มหาวิทยาลัยด้วยมั๊งคะ มีคนเดินพลุกพล่าน ไม่ได้อยู่แบบ private มากๆ มีรถจิ๊ปนีย์เยอะ เยอะกว่า IDEA เราชอบตรงนี้เหมือนกัน เราสามารถโดยสารได้เอง การเดินทาง การโดยสารด้วยตัวเองสะดวกสบาย ถ้าอยากลองจิ๊ปนีย์ ที่ EV จะมีรถหลายสายผ่าน แต่ IDEA น้อยกว่า ถ้าเทียบกันค่ะ

ทำไมถึงสมัครเรียนกับก้อปันกัน ?

รู้จักก้อปันกันจากการ search กูเกิ้ล อยากเรียนภาษาอังกฤษที่เซบู มันก็ขึ้นอยู่อันดับหนึ่งนะ แล้วก็มีที่อื่นๆ เราก็เปรียบเทียบว่าที่ไหนดีกว่ากัน ไม่ใช่ดีทางด้านราคา มันเป็นดีของการ Service ดีหลายๆ ด้าน แต่ว่าเป็นช่วงจังหวะเวลาด้วยแหละ ว่าเราชอบอันไหน บางคนดูราคาก่อน ก็ต้องยอมรับว่าที่นี่ไม่ได้ถูกนัก แต่บางคนมองภาพรวม อะไรมันโอเคกว่า ก็ขึ้นอยู่แต่ละบุคคล เรามอง Service ด้วย แล้วก็มองว่าใกล้บ้านเราด้วย เรารู้สึกว่ามันอุ่นใจกว่าค่ะ ด้วยความที่ว่าเรียนต่อเซบูมันไม่ได้ Popular ในเมืองไทย แล้วเราก็ไม่มั่นใจว่า เอเจนซี่จะเป็นยังไง อันนี้พูดตรงๆ ถ้าแรงไปขอโทษ ในความหมายคือ มีตัวตนไหม เราไม่รู้ว่าตัวตนที่แท้จริงของเอเจนซี่จริงจังขนาดไหน ดีขนาดไหน คือทุกคนคอมเพลนได้ว่า มีประสบการณ์สิบปี ยี่สิบปี ทุกคนคอมเพลนได้หมดจากตัวหนังสือ แต่ความเป็นมืออาชีพมันจะต้องคุยกัน พอคุยกันจะรู้เองอ่ะ ว่าโอเค ไม่ได้เคลมด้วยการเขียนหนังสือ แต่มาจากประสบการณ์ที่ทำมาจริงๆ อันนี้มันต่างกัน เราเลยรู้สึกว่าใกล้บ้านด้วย ก็อุ่นใจ ลองคุยดูก่อน เพราะถ้าเกิดไกลจากบ้าน ถ้าเราต้องการคอมเพลนกับเค้าก็เสียเวลาในการเดินทาง เสียเวลาอื่นๆ เรามา compare แล้ว ไม่เป็นไรหรอก เรื่องอื่นๆ ก็ตกไปดีกว่าค่ะ ก็เลยเลือกที่นี่ค่ะ

เกี่ยวกับ EV Academy คลิก

# ประสบการณ์เรียนที่ EV Academy
Photo Credits : คุณโอ๊ต

สำหรับ Part 1 รีวิว เรียนภาษาหลักสูตร ESL  สถาบัน IDEA Academia โดย คุณโอ๊ต – คลิกที่นี่

ขอรับคำปรึกษา

 

เรียนต่อแคนาดา อเมริกา

Line : @korpungun

เรียนภาษาที่ฟิลิปปินส์

Line : @kpglearn

คอร์สออนไลน์ KPG LIVE

Line : @kpglive

TEL: 094-883-8778

นัดหมายพูดคุยผ่าน