[รีวิว] เรียนหลักสูตร Digital Media and IT กับสถาบัน NAIT เมือง Edmonton โดย คุณหมิง

รีวิว เรียนหลักสูตร Digital Media and IT
สถาบัน NAIT เมือง Edmonton รัฐ Alberta

โดย คุณหมิง

อะไรทำให้ตัดสินใจมาเรียนต่อที่แคนาดา?

ตอนแรกที่มีความคิดว่าจะมาเรียนต่อ แคนาดาเป็นประเทศแรกที่นึกถึง หลังจากนั้นก็ลองศึกษาหาข้อมูลดูและก็เปรียบเทียบหลักสูตรที่สนใจ และดูไปดูมามันก็มีที่สนใจพอดีก็เลยตัดสินใจมาที่นี่

เมืองเอ็ดมอนตันเป็นยังไง หลังจากอยู่แล้วเมืองนี้มีข้อดีและข้อเสียอะไรบ้างคะ?

เท่าที่อยู่มาก็ดีนะคะ ข้อดีของเมืองนี้ ค่อนข้างสงบ ไม่วุ่นวาย ค่าครองชีพค่อนข้างเหมาะสม และอยู่ไม่ไกลจากสถานที่ท่องเที่ยวสวย ๆ อย่าง Banff และ Lake Louise อะไรพวกนี้ค่ะ ส่วนข้อเสียของเมืองนี้ จะเป็นเรื่องสภาพอากาศ อากาศหนาว และจะหนาวนานประมาณ 8 เดือน ส่วนบรรยากาศในเมืองค่อนข้างสงบ ก็อาจจะทำให้เบื่อหรือเหงาได้ ผู้คนเป็นแคนาเดียนกับคนลี้ภัยเยอะเหมือนกันค่ะ เมืองมีความ slow life เขาจะให้ความสำคัญกับเทศกาลต่าง ๆ รวมถึงจะชอบทำพวกกิจกรรมกลางแจ้งเช่น เดินป่า หรือขับรถ RV ไปเที่ยว โดยเฉพาะฤดูร้อน ที่เที่ยวกลางแจ้งก็จะครึกครื้นเป็นพิเศษ ผู้คนก็มีปั่นจักรยาน เดินออกกำลังกายกันค่อนข้างเยอะค่ะ คนที่นี่เลี้ยงสุนัขและแมวเยอะมากค่ะ ช่วงหน้าหนาวผู้คนก้มีเล่นสกี เล่นทูบที่เป็นห่วงยางใหญ่ ๆ เราจะนั่งบนห่วงยางแล้วไถลลงมาจากเนินค่ะ

ส่วนตัวหมิงเองตอนนี้ปิดเทอมอยู่ หมิงจะไม่ค่อยได้ทำอะไรมากค่ะ จะทำงานพาร์ทไทม์เป็นหลัก หรือถ้ามีเวลาช่วงพัก อย่างเดือนก่อนคุณพ่อคุณแม่มาเยี่ยมที่นี่ ก็ได้มีโอกาสไปเที่ยว Banff กับ Lake Louise ค่ะ กิจกรรมอื่น ๆ ก็มี บางทีชอบไปเดินริมน้ำ อย่างที่เมืองเอ็ดมอนตันจะมีริมน้ำในป่าให้เดินได้ มันอยู่ไม่ไกลจากที่พัก ก็เลยชอบไปเดินเล่นแถวนั้นค่ะ เท่าที่อยู่มาก็โอเคนะคะ ส่วนผู้ติดตามหมิง เขาจะติดแค่เรื่องที่อากาศหนาวไปหน่อยค่ะ ส่วนเรื่องระบบขนส่งสาธารณะ มีทั้งรถบัสและรถไฟฟ้า จริง ๆ เขามีที่เตรียมเปิดใหม่ด้วยนะคะ แต่ยังไม่ได้เปิดตอนนี้ แต่เท่าที่อยู่มา หมิงใช้เดินทางไปเรียนก็โอเคอยู่ ถ้าจะไปไกลหน่อย ก็ต้องนั่งรถบัสนานหน่อย แต่ยังครอบคลุมอยู่ ใช้ระบบ ETS บัตรใบเดียวสามารถขึ้นได้ทุกอย่างเลยค่ะ แต่ถ้าอยากไปเที่ยว Banff ก็นั่งรถยนต์ไป ใช้เวลา 4 ชั่วโมงค่ะ

ทำไมเลือกเรียนหลักสูตร Digital Media and IT ที่ NAIT เมืองเอ็ดมอนตัน?

ตัวที่หมิงเลือกคือ Game programing เป็นส่วนหนึ่งที่อยู่ใน Digital Media and IT จริง ๆ ตัวหมิงเองตอนก่อนจะมาเรียนต่อที่นี่ ก็จบมาทาง Computer Science เป็น Software Developer อยู่แล้ว ซึ่งตัวหมิงเองชอบทาง Animation และก็ชอบ Coding ด้วย ก็เลยอยากเขียนโปรแกรมให้ตัวละครมันสามารถขยับได้ หรือทำเป็นเกมขึ้นมาค่ะ ก็เลยได้เริ่มหาหลักสูตรที่เกี่ยวกับการเขียนเกม และจริง ๆ หลักสูตรนี้ก็ไม่ได้มีหลายที่เท่าไหร่ ดูแล้วของ NAIT น่าสนใจที่สุด ก็คิดว่าจะเป็นประโยชน์ได้ในอนาคตค่ะ

การเรียนการสอนในหลักสูตรนี้เรียนเกี่ยวกับอะไร?

หลักสูตรนี้เป็น Diploma 2 ปี ปีละ 2 เทอม เรียนช่วง Fall เทอมนึง และ Winter เทอมนึง และก็พักช่วง Summer 4 เดือน เรียนเกี่ยวกับการทำเกมโดยเฉพาะเลย เทอมแรก ๆ ที่เรียนเป็นการปูพื้นฐานการเขียนโปรแกรมก่อนเลย หลังจากนั้นจะได้เริ่มที่จะทำเกมจริง ๆ พวก 2 มิติ 3 มิติ และเทอมต่อไปจะเรียนเกี่ยวกับสิ่งที่เกี่ยวข้องกับเกม เช่น AI ในเกมอะไรงี้ค่ะ

หลังจากเรียนหลักสูตรนี้ที่ NAIT แล้วเป็นยังไงบ้าง?

1 ปี ที่เรียนมา ค่อนข้างตอบโจทย์นะคะ คือจริง ๆ หมิงมีพื้นฐานด้านเขียนโปรแกรมมาอยู่แล้ว แต่ว่าถ้าอย่างเพื่อนที่เรียนด้วยกัน เขาไม่ได้มีพื้นฐานทางด้านนี้มาก่อน เขาสามารถที่จะเขียนโปรแกรมได้ในระดับที่น่าพอใจ และพอต้องเขียนเกมจริง ๆ ตัวหลักสูตรค่อนข้างเข้มข้นอยู่แล้ว และก็มีการบ้านเยอะ มันเลยทำให้เราได้ฝึกและเข้าใจมากขึ้นค่ะ งานส่วนมากที่เขียนโปรแกรมจะเป็นงานเดี่ยวทั้งหมด แต่บางวิชาที่เป็น Communication หรือ Presentation ก็จะมีงานกลุ่มบ้างค่ะ เพื่อนในห้องส่วนใหญ่เป็นแคนาเดียนและเป็นผู้ชายเกือบหมดเลยค่ะ แต่ละคนก็จะมี Passion ด้านการเล่นเกมมาก่อนอยู่แล้วค่ะ อย่างในห้องของหมิงมีผู้หญิงอยู่แค่ 2 คนเองค่ะ คือ หมิงกับเพื่อนผู้หญิงอีกคนนึงค่ะ ส่วนอาจารย์ที่นี่ค่อนข้างโอเคนะคะ ถ้าเกิดเรามีคำถามหรือไม่เข้าใจตรงไหน เขาพร้อมช่วยเราเสมอค่ะ เช่น ถ้ามีการบ้านแล้วเราไม่เข้าใจ เขาจะมีอีเมลที่เราสามารถคุยติดต่อกันได้ตลอด อย่างของ NAIT มันจะมีระบบที่เรียกว่า NAIT Moodle จะเป็นอีกช่องทางนึงที่เราสามารถส่งข้อความหาอาจารย์ได้ค่ะ

มีบริการอะไร Support นักเรียนบ้างคะ?

ของ NAIT จะมี Student Support Centre เป็นบริการทั้งออนไลน์และเจอตัวจริง ที่เราสามารถติดต่อสอบถามได้ รวมถึงจะมี International Student Centre ด้วยค่ะ อย่างล่าสุดที่หมิงเคยใช้บริการมาคือ Tax Clinic คือเขาจะมีการจัด Session ที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการยื่นภาษีให้แก่ผู้ที่สนใจ จากนั้นเราก็สามารถที่จะจองใช้บริการได้ เขาก็จะช่วยดูและช่วยยื่นภาษีให้เรา ซึ่งบริการนี้ไม่ได้เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ซึ่ง หมิงคิดว่ามันก็เป็นประโยชน์แก่คนที่ยื่นภาษีครั้งแรกในแคนาดาค่ะ และที่นี่เขาจะมีเว็บไซต์ที่เราสามารถเข้าไปดูและสมัครงานได้ คือเขาจะรวมงานที่เปิดรับสมัครไว้ในเว็บไซต์ของ NAIT เลย อีกบริการนึงที่น่าสนใจคือ Dog Therapy ค่ะ จะมีน้องหมาเดินอยู่รอบมหาวิทยาลัย เวลาเราเครียดก็เดินเข้าไปเล่นกับน้องหมาได้ และสุดท้ายคือ NAIT เขาจะมีให้ทำประกัน care card ตั้งแต่ตอนมาถึงอยู่แล้ว มันจะครอบคลุมค่ายาบางส่วน ส่วนหมอก็ walk-in ได้ อย่างของหมิงที่เคยไม่สบาย หมิงเคย walk-in คลินิกครั้งนึง แต่คุณหมอไม่ได้สั่งจ่ายยาอะไรเลย เลยไม่ได้ใช้ประกันของ NAIT เลย และก็ไม่มีค่าใช่จ่ายอะไรเลยเหมือนกันค่ะ แต่ถ้ามีพวก x-ray หรือ เจาะตรวจอะไรเพิ่มเติม อันนี้ไม่แน่ใจเลยค่ะว่าเป็นยังไง

ช่วยแชร์ประสบการณ์การหางานและการทำงานที่เอ็ดมอนตันทั้งของคุณหมิงและผู้ติดตามได้ไหม?

อย่างของหมิงเอง ตำแหน่งที่ทำอยู่ตอนนี้ คือ ตกแต่งหน้าเค้กค่ะ พอดีตอนที่หาอยู่มันมีสาขาเปิดใหม่พอดี ก็เลย walk-in ยื่นเรซูเม่ และสัมภาษณ์ แล้วเขาก็รับเลย มันอาจจะเป็นจังหวะตอนนั้นพอดี แต่แนะนำเวลาไปสมัครงานในร้าน ให้ขอพบผู้จัดการร้านนั้นเลยค่ะ เพราะว่าบางทีถ้าเราไม่ได้คุยกับผู้จัดการร้าน ข้อความของเราอาจจะไปไม่ถึงเขา หรืออาจจะไม่ครบถ้วนค่ะ ถ้าได้พูดคุยกับผู้จัดการร้านจะดีที่สุดค่ะ เพราะเขาจะเป็นคนที่มีอำนาจในการรับเราเข้าทำงานได้ แล้วก็ฝึกภาษาอังกฤษและเตรียมตัวสัมภาษณ์ไปด้วย

แหล่งเว็บไซต์หางานเท่าที่เห็นจะมี Indeed หรือ เว็บไซต์ตรงของเขา บางทีอาจจะมีประกาศแปะหน้าร้านค่ะ ถ้าเป็นร้านอาหาร เราสามารถ walk-in เข้าไปยื่นเรซูเม่ได้ ก็ดีที่สุดค่ะ หรือบางร้านเป็นแฟรนไชส์ ลองเข้าไปดูในเว็บไซต์เขาได้ค่ะ แต่ถ้าเขารับสมัครคน ส่วนมากเขาจะแปะประกาศรับสมัครไว้หน้าร้านค่ะ อย่างตัวหมิงเองไม่ได้มีประสบการณ์ทางด้านการทำเบเกอรี่หรือแต่งหน้าเค้กมาก่อน แต่เราเป็นคนที่ชอบวาดรูปและมีไอเดียทางด้านงานศิลป์อยู่แล้ว เราก็สามารถที่จะบอกเขาได้ หมิงเริ่มทำงานนี้ตั้งแต่ ต.ค. ปีที่แล้ว แล้วพอปิดเทอมเราก็ได้งานอีกที่นึงเป็นร้านเบอเกอร์เริ่มทำช่วง พ.ค. ปีนี้ค่ะ ทำงานทั้งหมด 5 วัน 3 วันทำที่นึง อีก 2 วันทำอีกที่นึงค่ะ

ความต่างของทั้งสองที่คือ อย่างที่ทำตกแต่งหน้าเค้กที่ Grocery store บรรยากาศเพื่อนร่วมงานส่วนมากจะเป็นหลากหลายชาติ ได้ทำงานกับคนยูเครน ฟิลิปปินส์ อินเดียแถบนี้จะเยอะค่ะ ทุกคนก็จะเป็นมิตร คุยกันได้ ทำแล้วสบายใจค่ะ ผู้จัดการร้านก็ดีค่ะ มีอะไรก็คุยกับเขาได้เลยค่ะ แต่ปกติก็ไม่ค่อยมีอะไรมากมายอยู่แล้ว ไม่ค่อยเจอปัญหาอะไร ในร้านเค้กจะไม่ค่อยยุ่งเท่าไหร่ มันทำไปเรื่อย ๆ เราก็ทำ Stock เก็บอยู่แล้วค่ะ แต่การทำร้านเบอเกอร์ จะมีชั่วโมงที่เร่งรีบ พอมีออเดอร์มาเราก็ต้องรีบทำ มันก็ค่อนข้างที่จะแปลกใหม่ เช่น เขาจะมีแบ่งเป็น Station มันจะมี Cold Station ที่เราต้องประกอบร่างเบอเกอร์เข้าด้วยกัน มีการทำ เครื่องดื่ม เสิร์ฟน้ำ ทำ Milkshake หรือจะมีการทำ Packaging และเอาไปเสิร์ฟลูกค้า อะไรประมาณนี้ค่ะ ก็ได้ลองมาเกือบหมด แต่ว่าในร้านเบอเกอร์ก็รู้สึกโอเคเหมือนกันนะคะ เขาจะเป็นลักษณะธุรกิจครอบครัว ไม่ได้เป็นบริษัทใหญ่อะไร เพราะฉะนั้นมันก็ไม่มีอะไรมาก ลูกค้าที่เจอก็น่ารักไม่ได้ติดปัญหาอะไร แต่ว่าถ้าทำร้านอาหารจะดีกว่าตรงที่เราจะได้ทิปค่ะ

พอมาทำตรงนี้จริง ๆ อย่างการทำที่ Grocery Store เราก็ได้ประสบการณ์ในการตกแต่งหน้าเค้กเพิ่มขึ้น ส่วนทำในร้านเบอเกอร์ คือเราได้ฝึกความจำ เพราะเบอเกอร์แต่ละเมนูเราก็ต้องจำว่า มันมีส่วนประกอบอะไรบ้าง แต่คือจริง ๆ เวลาทำพาร์ทไทม์มันก็จะสบาย ๆ ไม่ได้ซีเรียสอะไรค่ะ และงานของหมิงค่อนข้างที่จะยืดหยุ่นได้ ถ้าเรารู้ว่างานที่มหาวิทยาลัยมันเยอะไปก็สามารถขอหยุดงานที่ทำงานได้บางวันค่ะ แต่ส่วนมากก็จะไปทำงานค่อนข้างครบอยู่ เพราะพอเรามีการบ้าน จะรีบทำให้เสร็จเลย บางทีก็ถึงดึกเลยค่ะ

ส่วนผู้ติดตามหมิง ชื่อพี่ต้นนะคะ ก็ทำที่ Grocery Store เดียวกับหมิงเลยค่ะ เพราะไปสมัครด้วยกันตั้งแต่แรก และเขาก็ได้ทำอยู่ทางฝั่ง Grocery ค่ะ ช่วงแรกก็ต้องปรับตัวเหมือนกัน ตอนนี้ก็ให้ทำและฝึกภาษาไปด้วยค่ะ เขาก็โอเคดีนะคะ พี่เขาสามารถทำ Full-time 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ได้ เลยทำให้รายได้มันครอบคลุมกับค่าใช้จ่าย แต่ถ้าตัวหมิงมาคนเดียว ทำงานคนเดียว ก็ไม่พอนะคะ ถ้าหมิงเปิดเทอมคงลดชั่วโมงทำงานลงค่ะ ตอนที่หมิงเรียนอยู่ แล้วทำงาน 16-17 ชั่วโมงก็ไม่ไหวแล้วนะคะ ทำนิด ๆ หน่อย ๆ ก็พอแล้วค่ะ

หลังจากเรียนจบ มี Plan หรือ ตัดสินใจอย่างไรต่อ?

คร่าว ๆ ก็จะสมัคร PGWP ทำงานหลังเรียนจบ และก็จะหางาน Full-time ทางด้านที่เราเรียนมา คือทำเกม และก็ค่อยวางแผนในขั้นต่อไปอีกทีค่ะ

คุณหมิงมีวิธีการหาที่พักที่แคนาดาอย่างไรคะ?

คือก่อนที่มาเรียน หมิงอยู่ในกลุ่มคนที่เขาอยู่แคนาดาค่ะ แล้วก็ได้พี่ในกลุ่มเขาช่วยดู ก็ได้ที่อยู่ในตึกเดียวกับพี่เขาเลย ให้เขาช่วยดูและตรวจรับห้องให้ มันก็ไม่ได้ยุ่งยากมากค่ะ และก็มีคนไทยอีกหลายครอบครัวที่อยู่ในตึกเดียวกัน แต่กรณีที่ไม่มีคนที่รู้จักอยู่ แนะนำให้จอง Airbnb มาก่อนแล้วค่อยมาดูที่พักเองจะดีที่สุด จะได้มาดูสภาพห้อง สภาพแวดล้อมเองค่ะ จริง ๆ ราคาที่พัก ในเอ็ดมอนตันไม่ได้สูงเหมือนที่อื่นค่ะ เป็นอะพาร์ตเมนต์ 1 ห้องนอน เรทถูกสุดคือ 900-1,300 CAD ห้องที่หมิงอยู่ราคา 1,000 นิด ๆ ต่อเดือน ค่ากินอยู่ถ้าซื้อจาก Supermarket มาทำกินกันเองก็ประมาณ 400 CAD ต่อเดือน ถ้ากินนอกบ้าน จานนึงเฉลี่ย 17-18 CAD ยังไม่รวมทิป 15% ส่วน Tax ที่นี่ 5% ค่ะ

มีข้อคิด คำแนะนำอะไรสำหรับ คนที่กำลังตัดสินใจอยากมาเรียนต่อหรือมาอยู่แคนาดาบ้างไหม?

คิดว่าก่อนที่จะมา อยากให้ศึกษาข้อมูลและเปรียบเทียบข้อมูลแต่ละอย่างให้ดีค่ะ ทั้งหลักสูตรที่สนใจ และก็ความน่าสนใจของแต่ละวิชาของหลักสูตรนั้น ๆ ค่ะ เนื่องจากบางทีที่เจอมา ต่างมหาวิทยาลัย แต่ชื่อหลักสูตรเหมือนกันเลย พอมานั่งดูรายวิชาดี ๆ มันไม่เหมือนกัน ก็อาจจะต้องลองดูว่าหลักสูตรไหนน่าสนใจและจะมีประโยชน์ในอนาคตมากกว่ากันค่ะ รวมถึงอาจจะลองศึกษาเมืองที่จะมาอยู่ เพราะไลฟ์สไตล์ของคนแต่ละคนไม่เหมือนกัน ก็จะได้หาเมืองที่เหมาะสมกับตัวเองด้วยค่ะ

รีวิวก้อปันกันให้ฟังได้ไหมคะ อะไรทำให้เลือกใช้บริการของก้อปันกัน?

จริง ๆ รู้จักก้อปันกันผ่านพี่ที่รู้จักค่ะ และก็ได้มาคุยกับคุณกันต์ด้วยตัวเอง ส่วนตัวหมิง ชอบความที่เป็นระบบระเบียบกับทุกอย่างอยู่แล้ว และก้อปันกันก็มีจุดนี้ ก็คือระบบ Portal ของเขาใช้งานง่าย สามารถติดตามสิ่งที่ต้องทำได้ รวมถึงคุณกันต์ก็คอยช่วยเหลือมาตลอด ตอนแรกก็ช่วยตาม ส่งอีเมล และรีวิวอีเมลที่จะติดต่อกับทาง NAIT ก็รู้สึกชอบค่ะ ส่วนสิ่งที่อยากให้ละเอียดมากขึ้น คือ เรื่องของการกรอกเอกสารวีซ่าค่ะ ตอนของหมิง ยังเจอจุดที่ยังกรอกผิดอยู่บ้าง ก็อยากให้ระวังตรงจุดนี้มากขึ้นค่ะ แต่ยังไงมันก็เป็นหน้าที่ของทั้งเอเจนซี่และทั้งเราที่ต้องช่วยกันตรวจสอบความถูกต้องอยู่แล้วค่ะ

เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Northern Alberta Institute of Technology (NAIT)

Photo Credits : คุณหมิง
# รีวิว เรียนหลักสูตร Digital Media and IT กับสถาบัน NAIT โดย คุณหมิง

ขอรับคำปรึกษา

 

เรียนต่อแคนาดา อเมริกา

Line : @korpungun

เรียนภาษาที่ฟิลิปปินส์

Line : @kpglearn

คอร์สออนไลน์ KPG LIVE

Line : @kpglive

TEL: 094-883-8778

นัดหมายพูดคุยผ่าน