[รีวิว] เรียนภาษาอังกฤษที่เซบู และทำงาน กับสถาบัน IDEA ข้อมูลแน่น! โดย บีม

[รีวิว] เรียนภาษาอังกฤษที่เซบู และทำงาน 

กับสถาบัน IDEA – ข้อมูลแน่น! 

โดย บีม
รัชชานนท์  เนตรศรี 

คุณบีม สมัครไปเรียนภาษาอังกฤษ หลักสูตร General English ที่ สถาบัน IDEA Cebu ระยะเวลา 8 สัปดาห์ และเรียนหลักสูตร IELTS Intensive ที่ สถาบัน IDEA Academia 4 สัปดาห์ ระหว่าง 9 ธันวาคม 2018 – 2 มีนาคม 2019 หลังจากนั้น สมัครทำงานเป็น student staff กับสถาบัน IDEA ต่อ ระหว่าง 3 มีนาคม – ธันวาคม 2019

การรีวิวครั้งนี้ เราขอบอกเลยว่าข้อมูลแน่น! ทั้งจากประสบการณ์การเรียนภาษาอังกฤษ และประสบการณ์การทำงานของคุณบีม กับสถาบัน IDEA เมืองเซบู ประเทศฟิลิปปินส์ ดังนั้นบทความนี้จะยาวหน่อย แต่เราได้แบ่งการรีวิวออกไว้เป็น 5 หัวข้อหลัก เพื่อความสะดวกในการอ่านของทุกท่านที่สนใจ เรียนภาษาอังกฤษที่เซบู และทำงานกับสถาบัน IDEA ไว้ให้แล้ว

บทความนี้ประกอบด้วย 5 ส่วน
(สามารถคลิกเพื่อพาไปยังส่วนต่างๆ ของบทความ)

ก. รีวิวหลักสูตร + เรียนภาษาอังกฤษที่เซบู

ข. รีวิวสถาบัน IDEA Cebu และ IDEA Academia

ค. รีวิวชีวิต เรียนภาษาอังกฤษที่เซบู

ง. รีวิวทำงาน กับสถาบัน IDEA

ฆ. รีวิวประสบการณ์ เรียนภาษาอังกฤษที่ฟิลิปปินส์ กับก้อปันกัน

ก. รีวิวหลักสูตร + เรียนภาษาอังกฤษที่เซบู

• แนะนำตัวหน่อย ?

ผมชื่อบีมนะครับ อายุ 27 ปี ก่อนมาเรียนก็ทำงานที่สนามบินสุวรรณภูมิเป็น Sales & Customer Service มา 2 ปี และมีคะแนน TOEIC 825 คะแนน

• ทำไมถึงเลือกมาเรียนภาษาอังกฤษที่ฟิลิปปินส์ ?

ตอนแรกก่อนที่จะเลือกมาก็คุยกับคุณข้าว (เจ้าหน้าที่ก้อปันกัน) ประมาณปีนึง นานมาก ซึ่งผมก็เลือกหลายที่ มี ออสเตรเลีย อเมริกา อินเดีย และฟิลิปปินส์ ซึ่งเทียบกันหลายๆ อย่างแล้ว ฟิลิปปินส์โอเคสุดในเรื่องของราคา คลาสเรียนเป็นแบบ ตัวต่อตัว จ่ายทีเดียวแล้วก็จบเลย แต่ถ้าไปที่ประเทศอื่น เช่น ออสเตรเลีย หรือนิวซีแลนด์ เนี่ย เราต้องไปแล้วเรียนเป็นคลาสกลุ่ม และต้องทำงานอีก ซึ่งผมไม่อยากทำงานแล้ว เบื่อ ก็เลือกที่จะเรียนอย่างเดียว เลยเลือกเรียนที่ฟิลิปปินส์

• เรียนภาษาอังกฤษที่ฟิลิปปินส์เหมือนหรือแตกต่างจากที่คิดไว้ยังไงบ้าง ?

ตอนแรกกังวลเรื่องสำเนียง เพราะว่าฟิลิปปินส์จะมีสำเนียงที่ค่อนข้างเป็นตากาล็อคหน่อย แล้วเราก็ไม่ชอบ แต่ว่าด้วยความที่เคยเรียนกับครูฟิลิปปินส์มาก่อน (เรียนออนไลน์) เหมือนเขามีระบบคัดกรองมาอย่างดี พอมาเจอที่นี่ก็โอเค เจอครูที่ดีด้วย ตอนแรกคิดว่าสภาพเมืองจะคล้ายกับภูเก็ต จินตนาการไว้ว่าเป็นเมืองท่องเที่ยว มีคนมาเที่ยวเยอะ มันต้องเจริญ แต่พอมาถึง อาจจะมีอะไรที่แปลกตาหน่อย เช่น ไม่ค่อยเจริญ มีฝุ่น มีควัน เดินทางลำบากในบางพื้นที่

• ลงเรียนคอร์สอะไรบ้าง ?

General English 8 สัปดาห์ และ IELTS 4 สัปดาห์ สำหรับ General English ก็เรียนทั่วไปตั้งแต่ภาษาอังกฤษที่ใช้ข้างนอก การฟัง การพูด การอ่าน การเขียน ซึ่งระดับของคอร์สนี้จะแตกออกไปเป็นหลายระดับเลย ขึ้นอยู่กับเรา เราไม่รู้สึกกดดันมาก เพราะว่าระดับที่เรียนขึ้นอยู่กับตัวเราด้วย และเราสามารถกำหนดวิชาเรียนได้เองว่าอยากเรียนอะไร ซึ่งตอนที่เรียนอยู่ก็สนุกและพัฒนาได้เยอะ

แต่พอเข้าเดือนที่ 3 เรียน IELTS ผมไม่มีพื้นฐานเรียน IELTS มาก่อนเลย พอมาเจอ เหมือนมันเป็นเรื่องใหญ่ มันต้องเรียนรู้เยอะ มันต้องเตรียมตัวเยอะ พอมาเจอ 1 เดือน เจอเนื้อหาหนัก อาจารย์ก็ให้สอบย่อยทุกวัน และสอบ Mock Test ทุกวันศุกร์ของทุกสัปดาห์ มันก็เลยเกิดความเครียดเยอะ แต่ก็เป็นแรงจูงใจให้เราตั้งใจมากขึ้น ขยายฝันว่าเราต้องพยายามมากขึ้น

• General English กับ IELTS ต่างกันยังไงบ้าง ?

สำหรับ General English เนี่ย แบ่งเป็นหลายระดับเลย ขึ้นอยู่กับระดับภาษาอังกฤษของเรา สามารถเลือกเรียนได้หลายๆอย่างแล้วแต่เราจะเลือกเรียน ส่วนใหญ่ที่ IDEA CEBU จะเน้นในเรื่องการฟัง และการพูด และเอาไปใช้ได้จริงในสถานการณ์ต่างๆ เช่น การไปโรงเรียน การจองตั๋วเครื่องบิน การสั่งอาหาร ซึ่งเป็นภาษาอังกฤษที่สามารถใช้ประโยชน์ได้เลย และมันก็ง่าย

แต่ IELTS จะเป็นภาษาอังกฤษที่ใช้ในระดับมหาวิทยาลัย ซึ่งมันจะยากขึ้น ชุดคำศัพท์จะแตกต่างกับภาษาอังกฤษทั่วไป ถ้าเราใช้ภาษาอังกฤษทั่วไปในการสอบ IELTS เราก็จะได้คะแนนน้อยลง หรือว่าน้อยถึงน้อยมาก แต่ถ้าใช้คำศัพท์ที่เขากำหนด รูปแบบที่เขาตั้งไว้ การเขียนที่เขาตั้งไว้ ระดับ Academic เราก็จะได้คะแนนสูงขึ้น

• ชอบ/ ไม่ชอบ เรียนวิชาไหนมากที่สุดของ General English ?

ผมชอบการออกเสียง รู้สึกว่าการออกเสียงเป็นอะไรที่สำคัญมาก ถ้าเราออกเสียงผิดนิดหน่อย ความหมายเปลี่ยนเลย แล้วเขาก็จะฟังเราไม่รู้เรื่อง การออกเสียงที่ดีมันสามารถสะท้อนถึงว่าเราศึกษา มีความรู้ด้านภาษาอังกฤษที่สูงด้วย ถ้าเป็นการเขียนหรือการฟัง มันไม่สามารถแสดงออกได้ แต่สำเนียงมันคือการแสดงออกว่าเราเป็นคนเก่งภาษาอังกฤษได้เหมือนกัน ผมเลยชอบวิชาการออกเสียง

วิชาที่เป็นจุดอ่อนของผมคือวิชาเขียน ไม่ถนัดเรื่องการเขียนมาก จะคิดนาน มีจุดอ่อนเรื่องการสะกดคำ เราพูดได้ก็จริง ออกเสียงได้ก็จริง แต่ว่าพอสะกดไม่ถูก พอไปเขียนแล้วสะกดไม่ถูกก็จะถูกหักคะแนน แล้วก็เรียบเรียงประโยคไม่ทันเวลาที่เขากำหนด ก็เลยเป็นวิชาที่อ่อนที่สุดแล้วก็ไม่เคยได้ฝึกเลย

• ชอบ/ ไม่ชอบ เรียนวิชาไหนมากที่สุดของ IELTS ?

ชอบวิชาพูดที่สุด เหมือนวิชาพูด มันแตกออกมาเป็นอีกส่วนหนึ่ง 3 skills คือวิชาฟัง วิชาอ่าน และวิชาเขียน มันจะไปด้วยกัน มันค่อนข้างที่จะใช้ความรู้ลึกลงไป แต่วิชาพูดมันใช้ความคล่องแคล่วทางด้านการพูดของเรา ความคิดสร้างสรรค์ อาจจะไม่ต้องอิงกับความรู้อะไรมากมาย ถ้าเราเอาไปปรับให้มันคล่องแคล่วขึ้น ก็จะได้คะแนนเยอะ

ส่วนวิชาที่ไม่ชอบที่สุดก็เหมือนเดิมคือการเขียน การเขียนของ IELTS ยิ่งยากขึ้นไปอีก เพราะว่ามันต้องใช้รูปแบบที่เป็นการอธิบายกราฟเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ เกี่ยวกับวิชาเรียนในมหาวิทยาลัยมากขึ้น เขาจะกำหนดคำมาสูงขึ้นในเวลาที่จำกัดมากขึ้น

• เทคนิคการสอนของครูที่ชอบตอนเรียน ?

มีครูคนนึงตอนนี้ผมก็เรียนกับเขาอยู่เป็นครูที่ชอบมากๆเลย คือเขาเหมือนจะไกด์เรา แล้วให้เราทำความเข้าใจและสอนเขากลับ เขาทำหน้าที่เป็นนักเรียนแล้วให้เราเป็นครู ซึ่งเป็นอีกกระบวนการนึงของการเรียนรู้ คือเราเรียนและเราต้องถ่ายทอดภายในวันนั้น เลยทำให้จำไปได้ตลอด จะแตกต่างจากการเรียนทั่วไปคือ เรานั่งฟัง เข้าหูซ้ายทะลุหูขวา ซึ่งแตกต่างจากครูท่านนี้ ท่านนี้เขาให้เราเรียนปุ๊บแล้วให้เรา action พอเรา action ปุ๊บก็จำเข้าไปในหัวเลย

 เคยเรียนภาษาอังกฤษที่อื่นมาก่อนไหม เหมือนหรือต่างจากการเรียนที่ฟิลิปปินส์ยังไง ?

ผมเคยเรียนกับมิชชันนารีของโบสถ์ซึ่งเป็น Native Speaker เลยมาสอนซึ่งก็โอเคในระดับนึง

เอาเป็นว่าภาพรวมของการเรียนภาษาอังกฤษที่เมืองไทย คือเราเรียนด้วยระยะเวลาเรียนที่จำกัด พอเราเรียนเสร็จ พอออกไปข้างนอก ก็เจอสังคมแบบเดิม เราก็จะลืม ไม่ได้ทบทวนซึ่งเราต้องทดแทนตรงนั้นด้วยการฟังเพลงภาษาอังกฤษหรือการดูหนัง แต่พอมาอยู่ที่นี่มันแตกต่างโดยสิ้นเชิง คือเราต้องเรียนเป็นภาษาอังกฤษ ติดต่อครูเป็นภาษาอังกฤษ แม้แต่เวลาเราไปเที่ยวข้างนอก ถึงคนที่พูดไม่ได้เราก็ต้องพยายามเอาตัวรอด ติดต่อแท็กซี่ ติดต่อทัวร์ ซื้ออาหาร มันไม่ใครมาจับผิดเรา เราก็จะเกิดความกล้ามากขึ้นถ้าเทียบกับเรียนที่นี่

• ในฐานะนักเรียน 12 สัปดาห์ พัฒนามากน้อยแค่ไหน ?

เรียนที่เมืองไทยก็จะเน้นไปทาง Grammar ซึ่งเรียนไปแล้วมันไม่มีโอกาสได้ใช้ประโยชน์ แต่ผมโชคดีที่ได้ทำงานสนามบิน ก็พอมีประสบการณ์อยู่บ้างแล้ว พอมาเรียนปุ๊บแรกๆ ปกติของคนไทยคือติดสำเนียง ก็ไม่กล้าพูด ฟังไม่ค่อยออก แต่พอมาเรียนที่นี่มันได้ซึมซับการพูด การฟัง ครูเขาจะคอยกระตุ้นให้เราพูดตลอด ให้เราแสดงความรู้สึกกับทุกๆ อย่าง พอถึงเวลาจริงๆ มันไหลไปเอง ก่อนหน้านี้ต้องคิดเป็นภาษาไทยก่อน พอฟังปุ๊บต้องแปลเป็นไทยก่อน ตอนนี้มันธรรมชาติไปเลย พอบางทีมันลื่นไหลก็ฝันเป็นภาษาอังกฤษ จนคิดเป็นภาษาอังกฤษ มันซึมซับเอง

ข. รีวิวสถาบัน IDEA Cebu และ IDEA Academia

• IDEA CEBU กับ IDEA ACADEMIA เหมือนหรือแตกต่างกันยังไงบ้าง ?

IDEA CEBU ผมชอบมากสุด เพราะชั้นบนเป็นหอพัก ชั้นล่างเป็นที่เรียน เวลาเรามีคาบว่าง เราก็สามารถขึ้นไปเล่นบนห้องได้ เราก็เรียนข้างล่าง ผมสนิทกับครูที่นี่มากกว่า ที่นี่จะมีการสอบคำศัพท์ทุกเช้า ซึ่งมันมีข้อดีและข้อเสีย คือ ถ้าเป็นคนตั้งใจเรียนก็ดี บังคับให้เราสอบ แต่ถ้าเป็นคนที่อยากออกไปเที่ยวข้างนอกก็ออกไปไม่ได้ถ้าเราสอบไม่ผ่าน เพราะเขาจะห้ามออกนอกโรงเรียนหลัง 5 โมงเย็น และมี Curfew ตอน 23.00 น. ซึ่งอาจจะไม่ดีสำหรับคนที่อยากออกไปข้างนอกหลังเลิกเรียน IDEA CEBU ชั่วโมงเรียนต่อคาบเรียนจะน้อยกว่า IDEA ACADEMIA 45 นาที วันจันทร์ – พฤหัส เเละ 40 นาทีในวันศุกร์

ส่วน IDEA ACADEMIA โรงเรียนเขาจะใหม่กว่า ดูสวยกว่า จะมีคาบเรียน 50 นาทีหมดเลย แต่ว่าแตกต่างกันที่หอพักกับโรงเรียนไม่ได้อยู่ใกล้กัน ซึ่งถ้าเรามีชั่วโมงพักเราต้องอยู่ในห้องเรยน อาจจะเบื่อนิดหน่อย แตกต่างกันตรงนี้ครับ

• การเดินทางจากหอพัก IDEA CEBU ไปตึกเรียน IDEA ACADEMIA ยาก/ง่าย ยังไงบ้าง ?

โรงเรียนจะมีตารางรถโรงเรียนให้ ช่วงเช้าและช่วงเย็นจะเป็นทุกๆ ครึ่งชั่วโมง แต่ว่าเราต้องเผื่อเวลาประมาณครึ่งชั่วโมงหรือชั่วโมงนึง ไม่เหมือน IDEA CEBU ที่เราสามารถลงมาเรียนได้เลย แต่ถ้าไปเรียนที่ IDEA ACADEMIA เราจะต้อง Active มากขึ้น เพราะตอนเช้าจะมีคลาสเรียนฟรี (ไม่บังคับเข้าเรียน) แต่ของ IDEA CEBU จะมีแค่ตอนเย็น ถ้าเราอยากให้ทันตอนเช้าก็ต้องตืนเช้ามากกว่าเพื่อน เตรียมความพร้อมตัวเอง แล้วก็ไปเรียนได้เลย

 เลือกที่เรียนยังไงระหว่าง IDEA CEBU กับ IDEA ACADEMIA ?

ผมเลือกไม่ยากเพราะว่า IDEA CEBU มี Fitness อยู่ข้างๆ ซึ่งผมก็ชอบออกกำลังกาย เลยเลือก IDEA CEBU ดีกว่า ถ้าคนที่คิดว่าคำศัพท์สำคัญก็แนะนำให้เลือก IDEA CEBU

ถ้าคนที่อยากเรียนสบายๆ ไม่อยากเข้มงวดมาก ไม่ต้องมีคำศัพท์ก็ได้ ต้องการเน้นชั่วโมงเรียนที่มากกว่า แนะนำให้เลือก IDEA ACADEMIA

• บรรยากาศรอบๆ ภายนอกของ IDEA CEBU และ IDEA ACADEMIA เป็นยังไง ?

IDEA CEBU ผมถือว่าโอเคมากๆ เลย ข้างล่างก็จะมี 7-11, มีร้านสะดวกซื้อเต็มไปหมด ตรงข้ามโรงเรียนจะเป็น Park mall, shoping mall ที่เราสามารถเดินข้ามไปได้ มี KFC มีร้านอาหารเยอะแยะให้เราเลือก ข้างๆโรงเรียนจะมี Fitness จะมี Bus Terminal จะไปไหนก็สะดวก ถือว่าอยู่ในทำเลที่ดี

IDEA ACADEMIA เป็นตึกสูง สามารถเห็นวิวได้ จะมีรถบัสโรงเรียนคอยรับส่ง IDEA ACADEMIA จะอยู่ใกล้กับห้าง SM City ประมาณ 5-10 นาที ซึ่งเป็นห้างที่คนเซบูไปกันเยอะ ซึ่งตอนเย็นเราก็ไปเที่ยวได้ จะอยู่กลางเมืองไปอีก

• อาหารที่โรงเรียนเป็นยังไงบ้าง ?

ตอนเช้าจะเป็นขนมปัง แฮม มีไส้กรอกบ้าง มีสลัดนิดหน่อย มีน้ำผลไม้ อาจจะไม่ได้อร่อยถูกปากมาก อาหารเช้าบางทีผมก็ไม่ได้กินเพราะไม่ได้อร่อยมาก อาหารเที่ยงก็โอเค อาหารอร่อยส่วนใหญ่จะอยู่มื้อเย็นหมด บางทีจะมีอาหารไทย อาหารเกาหลี เขาจะทำแกงเขียวหวานเก่ง อร่อยดี ภาพรวมอาหารก็ถือว่า พอกินได้ (หัวเราะ)

• คะแนนเต็ม 10 ให้เท่าไหร่ สำหรับ IDEA ACADEMIA และ IDEA CEBU ?

IDEA CEBU ถือได้ว่า ชอบเพราะอยู่มานาน เลยให้ 9 คะแนน อีก 1 คะแนน เพราะว่า อาหารบางทีไม่ค่อยถูกใจ โดยเฉพาะอาหารเช้า ที่จะถูกใจคนญี่ปุ่นมากกว่า แต่นอกนั้นดีหมดเลย ทั้งเรื่อง สถานที่ตั้ง การสอน อาจารย์ เทคแคร์ดีมาก ตรงต่อเวลาเป๊ะๆ พอถึงเวลาเข้าเรียนปุ๊บเขาเริ่มสอนทันที พอหมดเวลาเขาโอเค เดี๋ยวค่อยมาต่อพรุ่งนี้ เขาตรงต่อเวลามาก ตอนที่เป็นนักเรียน พวกเจ้าหน้าที่เขาก็ทำงานกันดีมาก มีปัญหาแจ้งเขาไป ภายในวันนั้นหรืออีกวันนึงเขาก็แก้ไขให้เลย

ส่วน IDEA ACADEMIA ให้ 8 คะแนน เพราะหอพักไม่ได้อยู่ใกล้กับโรงเรียน บางทีเราเหนื่อย เราอยากจะขึ้นไปพัก เราก็พักไม่ได้ ลืมของไว้เราก็กลับไปเอาไม่ได้ ชอบเพราะมันใหม่กว่า IDEA CEBU

• คุณภาพครู 2 สถาบัน เหมือนหรือต่างกันไหม ?

ผมว่าคล้ายๆกัน แต่ของ IDEA ACADEMIA เขาจะมีอัตราการเข้า ออก ของครูมากกว่า ผมว่าครูเก่งๆ น่าจะไปรวมอยู่ที่ IDEA CEBU มากกว่าเพราะที่นั่นมีสอน IELTS และ TOEFL ด้วย แต่ว่าของ IDEA ACEDEMIA สอน IELTS อย่างเดียว ซึ่งผมโชคดีได้เรียนกับครูสอน IELTS 7 คน จากทั้งหมด 8 คน ต้องขอบคุณก้อปันกัน (หัวเราะ)

ค. รีวิวชีวิต เรียนภาษาอังกฤษที่เซบู

 เสาร์ – อาทิตย์ ทำอะไรบ้าง ?

(หัวเราะ) ตอนแรกด้วยความที่เป็นคนขี้งก เสาร์ อาทิตย์ก็จะอ่านหนังสือ ท่องศัพท์ แล้วพอผ่านไปสองเดือน ก็รู้สึกว่าเราอุตส่าห์มาฟิลิปปินส์แต่ไม่ได้ไปไหนเลย เลยเลือกไปเที่ยว ไปสิ่งที่เราไม่เคยไป ไปเที่ยวทะเล ไปเที่ยวภูเขา ไปยับเลย ไปทำกิจกรรม ในเมืองก็มี Activities เยอะ กระโดด Extreme, trampoline, PaintBall, มีปืนเลเซอร์ ,มีภูเขาตรงใจกลางเซบูก็มี ถือว่าคุ้ม กลับไปคงไม่เสียใจที่ได้มาที่นี่

 เพื่อนต่างชาติในโรงเรียนมีชาติไหนบ้าง ?

ส่วนใหญ่ทั้ง 2 โรงเรียนจะเป็นชาวญี่ปุ่นมากกว่าประมาณ 80-85% แต่ว่าของ IDEA ACADEMIA จะมีชาติที่หลากหลายกว่าคือ ญี่ปุ่น มองโกเลีย รัสเซีย เกาหลี ไทย เวียดนาม อาหรับด้วย

แต่ IDEA CEBU จะเน้นไปที่คนญี่ปุ่น เด็กมัธยมปลายซะมากกว่า แต่ว่านักเรียนน้อยก็เลยทำให้สนิทกัน นักเรียนที่นี่จะสนิทกันมากกว่า IDEA ACADEMIA ไปไหนจะไปด้วยกันมากกว่า เพราะว่าอยู่หอด้วยกัน เจอกันทุกวัน ทำให้สนิทกันมากขึ้น ของ IDEA ACADEMIA ตกเย็นก็แยกย้ายกัน

• เมืองเซบู ภายนอกโรงเรียนน่ากลัวไหม ?

อาจจะดูน่ากลัวกว่าเมืองไทย แต่ถ้าเราเอาตัวรอดเก่ง เราใช้ภาษาอังกฤษได้ เรารู้จัก Safe ตัวเอง ผมว่าไม่มีอะไรน่ากลัว ไม่เอาตัวเองไปอยู่ในแหล่งที่มันไม่ปลอดภัย เช่น ตอนกลางคืนมันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วที่เราไม่ต้องไปเดินเพ่นพ่าน เพราะว่ามันอันตรายอยู่แล้วถึงแม้จะเป็นประเทศเรา หรือว่านั่งรถเมล์โดยที่เราไม่ได้ทำการบ้านไปก่อน หรือว่ามีคนแปลกหน้าเข้ามาคุยด้วยเราก็ไม่คุย มันเป็น common sense อยู่แล้วที่เราจะ protect ตัวเอง แต่ว่าทางที่ดีคือไปกันหลายๆคน พาเพื่อนไปด้วย ทำการบ้านไปก่อนว่าเราอยากจะไปไหน ถ้าเราเพิ่งมาใหม่ เราก็เลือกแท็กซี่ดีกว่า ไม่แนะนำให้ไปรถเดินทางสาธารณะเพราะว่าถ้าเราเป็นคนต่างชาติ เขาจะดูออก บางคน บางพื้นที่เขาจะเข้ามาหาเรา จากสังเกตเห็นที่ผมเคยไปเที่ยว จะมีเด็กบางคนจะเล็งกระเป๋าตังค์เรา ถ้าเราเผลอ เขาจะใช้โอกาสนั้นขโมย ที่นี่ใช้ Grab ได้ แต่จะแพงกว่าแท็กซี่ จะสะดวกตรงที่เขามารับได้เลย เราไม่ต้องไปเรียกแท็กซี่ ซึ่งบางจังหวะประมาณ หกโมง ถึงทุ่มนึง แท็กซี่ที่นี่จะหายากมาก ยืนเป็นครึ่งชั่วโมงก็ยังหาไม่ได้ ต้องเรียก Grab ราคาจะแพงเกือบสองเท่า แต่สะดวกกว่า

• ควรพก Pocket money เท่าไหร่ดี ต่อ 4 สัปดาห์ ?

ตัวผมออกเที่ยวทุกเสาร์ อาทิตย์เลยก็ใช้มากกว่า 10,000 Peso ก็ประมาณไม่ถึงหมื่นบาท

แต่ช่วงที่อยู่แต่โรงเรียนใช้น้อยมาก ใช้อาทิตย์ละไม่ถึง 1,000 Peso เพราะบางทีเราเบื่ออาหารโรงเรียนเราก็ออกไปกินอาหารข้างนอก มันก็ไม่ได้แพงมากของที่นี่ แค่มื้อละ 100 Peso ก็อิ่มแล้ว

ง. รีวิวทำงาน กับสถาบัน IDEA

• ทำไมถึงตัดสินใจเป็น Student Staff ที่สถาบัน IDEA CEBU ?

ตอนแรกจะกลับไปสอบ IELTS ที่เมืองไทย แต่ว่าก็ได้ข่าวว่า เหมือนจะมีช่วงที่ผมจะกลับเจ้าหน้าที่คนเก่าเขาจะกลับพอดี เลยคิดว่าจะอยู่ต่อดีไหมนะ ผมก็ยังเที่ยวไม่หมดเลย แล้วอยากจะสัมผัสฟิลิปปินส์ต่อ ก็เลยตัดสินใจอยู่ต่อแล้วกัน อยู่ต่อเราก็ทำงานด้วย แลกกับการมีที่อยู่ เรียนฟรี ก็ถือเป็นโอกาสที่ดีโอกาสนึง เหมือนเป็นโอกาสของเราได้ทำงานต่างประเทศด้วย ได้ค้นหาประสบการณ์ ได้ไปเที่ยวต่างประเทศ ได้เจอประสบการณ์แก้ปัญหากับชาวต่างชาติ ทำงานกับชาวต่างชาติ ชาวฟิลิปปินส์ ชาวญี่ปุ่น ก็เลยพัฒนาตัวเองไปอีกแบบนึง

• การทำงานให้กับสถาบันกับการเป็นนักเรียนแตกต่างกันยังไง ?

แตกต่างกันสิ้นเชิง พอเป็นนักเรียน เราจะโฟกัสแค่อย่างเดียวคือเรื่องเรียน ตื่นมาก็เรียน เสร็จแล้วก็พักผ่อน เราไม่ต้องแคร์อะไรมาก จะแคร์แค่คะแนนของเรากับเป้าหมายของเรา พอขยับมาเป็น Staff ปุ๊บ เรื่องเรียนก็ขยับเป็นเรื่องรองไป เพราะว่าเราเป็น Staff ออฟฟิศเต็มตัว ชาวญี่ปุ่นแต่ละคนเขาจะมีจุดอ่อน จุดแข็งแตกต่างกันไป คนฟิลิปปินส์ก็เหมือนกัน ซึ่งการเป็น Staff ก็เจอคนหลากหลายเชื้อชาติ เพราะ Student staff มีหลายเชื้อชาติ มีทั้งคนฟิลิปปินส์ คนญี่ปุ่น คนไต้หวัน คนจีน ทำให้เราเรียนรู้เยอะว่าแต่ละชาติเขามีความคิดยังไง แตกต่างกันยังไง สอนเยอะ ประสบการณ์เยอะ

 พัฒนาการภาษาอังกฤษในการเป็นนักเรียน และการเป็น Student Staff ในเดือนที่ 2 ?

ถ้าเป็นนักเรียนพัฒนาการมันดีขึ้นตลอดเวลา ถ้าเป็น Staff มันค่อนข้างลง เพราะว่าเราใช้ความรู้เดิมของเราในการติดต่องาน ถ้าเราอยากจะพัฒนามากขึ้นเราต้องขยันมากขึ้น เพราะการเป็น Staff มันจะมีช่วงเวลาว่าง และเวลาทำงาน ซึ่งบางคนอาจจะเอาเวลาว่างไปนั่งพัก นั่งเล่น แต่ถ้าอยากจะพัฒนาเราต้องเอาช่วงเวลานั้นมาทบทวนบทเรียน ซึ่งมันก็ปฏิเสธไม่ได้เพราะเราเรียนแค่ 3 คาบ (อังคาร-ศุกร์)  แต่ถ้าเป็นนักเรียนปกติจะเรียนประมาณ 8 คาบต่อวัน (จันทร์ – ศุกร์) พัฒนาการมันก็ต่างกันอยู่แล้ว

ฆ. รีวิว ประสบการณ์เรียนภาษาอังกฤษที่ฟิลิปินส์ กับก้อปันกัน

• ทำวีซ่า 59 วันที่ไทยยากไหม ?

ไม่ยากนะครับ เดินทางไปแถวทองหล่อ แลกบัตร แล้วก็เข้าไปในสถานทูต จริงๆแล้วทางคุณข้าว (เจ้าหน้าที่ก้อปันกัน) ให้เราเขียนกรอกข้อมูลไปเรียบร้อยแล้ว แค่ไปยื่นเอกสาร พอไปยื่นเอกสารปุ๊บ เขาก็รับเอกสาร ก็คือเสร็จแล้วก็กลับบ้านได้เลย ตอนแรกคิดว่าจะนาน แต่จริงๆ แล้วแป๊บเดียว

• รู้จักก้อปันกันได้ยังไง ?

รู้จักมานานมาก น่าจะรู้จักจาก Facebook ก็ด้วยการที่หาช่องทางไปเรียนต่อ แล้วบังเอิญก้อปันกันก็เด้งมาใน Facebook ด้วยความที่เราไม่ได้ปิดใจกับประเทศฟิลิปปินส์ก็เลยติดต่อกับก้อปันกันมาตลอด เราก็เป็นคนที่ตัดสินใจนาน เป็นคนที่เรื่องมาก เลือกเยอะ แต่ว่าก้อปันกันไม่เคยปฎิเสธที่จะตอบ ก็เลยมีความคิดบวกกับที่นี่ สุดท้ายแล้วก็เลือกก้อปันกัน

อยากให้นักเรียนไทยมาเรียนที่ฟิลิปปินส์เยอะๆ เพราะผมคิดว่าคนไทยอาจจะมองฟิลิปปินส์ไม่ค่อยดี ก็อยากให้ทางก้อปันกันทำงานหนักขึ้น อยากให้ส่งคนไทยมาเรียนที่นี่เยอะขึ้น เพราะผมคิดว่ามันน่าจะเป็นอะไรที่คุ้มกว่าไปเรียนที่ออสเตรเลีย หรือไปเรียนนิวซีแลนด์ เหมือนเอาความโก้กลับมา จากประสบการณ์ที่ทำงานที่สนามบิน มีพี่ที่เขาไปอยู่ที่ออสเตรเลียเกือบปี แต่ว่าเขาก็ไม่ได้เก่งภาษาอังกฤษอะไรกลับมา เหมือนเขาก็ไปเรียนเป็นกลุ่มตอนเช้า ทำงานตอนเย็น ซึ่งทำงานมันไม่ได้ใช้อยู่แล้ว ซึ่งถ้าเรียนที่ฟิลิปปินส์เป็นอะไรที่แตกต่างกันสิ้นเชิง 3 เดือนที่สัมผัสมา กลับไปนี่คล่องมากภาษาอังกฤษ ก็เลยอยากให้นักเรียนไทยมาเรียนเยอะๆ

• สิ่งที่อยากจะบอกถึงคนที่ตัดสินใจมาเรียนและอยู่ในขั้นตอนเตรียมตัวเดินทาง ?

ผมว่าสำคัญอย่างแรกก็คือยา เพราะว่าเจอกับตัวเลยคือไม่ได้เอาอะไรมาเลย กระเป๋าเขาให้น้ำหนัก 25 กิโล ผมเอามาแค่ 14 กิโล มีช่วงนึงไม่สบาย พอมาทานยาที่นี่ก็ไม่สบายหนักเข้าไปอีก ปวดหัวหนักเข้าไปอีก มารู้อีกทีว่า ของฟิลิปปินส์กับคนไทยมันไม่เหมือนกัน ดีกว่าถ้าเราจะคุ้นยากับเมืองไทยแล้วพกมา พวกไทลินอล หรือยาแก้ท้องเสีย เพราะถ้ามาซื้อที่นี่มันยาก บางทีมันอาจไม่เข้ากับเรา

เงิน แนะนำให้แลกมาจากที่ไทยไว้เลย ถ้ามีบัตรเดบิต ที่รูดเเล้วค่าธรรมเนียม 0% (ของผมทำ TMB All Free) บางที่ก็จะคิดค่าธรรมเนียม แต่ส่วนใหญ่ประมาณ 90% ไม่คิดค่าธรรมเนียม เรทถูกกว่าการไปกดธนาคาร ดีที่เราไม่ต้องเก็บเงินเยอะๆ ไว้กับตัวก็กลัวหายอีก อันนี้รูดบัตรเอา ค่อยโอนเงินจากบัญชีนึงไปบัญชีนึง แนะนำให้ทำดีกว่า เพราะดีกว่าไปกดตู้ ATM เพราะจะโดนคิดค่าธรรมเนียมการกด 250 Peso

เรื่องเรียน ถ้าเรารู้พื้นฐานตัวเองว่าภาษาอังกฤษก็ดี พอมาถึงก็บอกครูว่าเราอ่อนด้านนี้ ช่วยเน้นด้านนี้หน่อย เพราะถ้าเป็นเรียนตัวต่อตัว เรากำหนดได้เลยว่าเราอยากเรียนอะไร หรืออะไรไม่อยากเรียน เขาก็จะตัดให้เลย

อีกอย่างคือทำการบ้านเรื่องที่เที่ยวของเซบูมาก็ดี เพราะที่นี่มีเยอะมาก List รายการไว้เลยว่าเราอยากไปเที่ยวที่ไหน

• สิ่งที่อยากจะบอกกับคนที่กำลังตัดสินใจว่าจะมาเรียนที่ฟิลิปปินส์ดีรึเปล่า ?

ส่วนตัวผมเองคิดว่ามาเรียนที่ฟิลิปปินส์ ถ้าใช้เงินเทียบกับที่ไปเรียนออสเตรเลียหรือไปเรียนประเทศอื่น เอาเงินจำนวนนั้นมาเราสามารถเรียนภาษาอังกฤษได้เข้มข้นกว่า มีเรียนตัวต่อตัว และมีกรุ๊ปคลาสที่จำนวนนักเรียนน้อยกว่า และยังเอาเงินที่เหลือไปเที่ยวหาประสบการณ์ได้เยอะแยะต่างประเทศ เพราะฟิลิปปินส์ก็เป็นประเทศนึงที่เขาใช้ภาษาอังกฤษกัน 90% เราสามารถใช้เรียนในโรงเรียน และเอาภาษาอังกฤษที่เรียนนั้นไปใช้ตอนที่เราเที่ยว ตอนที่เราซื้อของกินข้าวได้เลย และมันจะเกิดกระบวนการที่จดจำไปเอง แล้วก็ที่ฟิลิปปินส์จะมีที่เที่ยวมากโดยเฉพาะธรรมชาติ ทะเล ปลาฉลาวาฬ หรือน้ำตก แล้วมันก็ไม่ไกลจากเซบูมาก

ส่วนตัวแล้วจบมหาวิทยาลัยหลายปีแล้ว แล้วก็ทำงานมาหลายปี แล้วมันก็เลยเจอสังคมที่เครียด เลยบ่นกับตัวเองตลอดเลยว่าอยากกลับไปเป็นเด็ก แต่พอได้มาเรียนที่นี่ก็ไม่ต้องเครียดไม่ต้องกังวลอะไร เราแค่โฟกัสกับเรื่องเรียนเหมือนกลับไปเป็นเด็กอีกครั้งนึง เสาร์ อาทิตย์ ไปเที่ยว วันจันทร์ถึงศุกร์เรียน ถ้าใครอยากพักผ่อน เบรกกับชีวิตวุ่นวายก็มาเรียนก็ได้ ได้ประสบการณ์การเรียน และได้ประสบการณ์ชีวิตอีก ผมคิดว่าดี ราคาก็ไม่ถือว่าแพงมากถ้าเทียบกับประสบการณ์ที่ได้

รับชมบทสัมภาษณ์คุณบีม

Credit : IDEA Education

เรียนภาษาอังกฤษกับ IDEA CEBU คลิก

# เรียนภาษาอังกฤษที่เซบู และทำงาน 
Photo Credits : รัชชานนท์  เนตรศรี (บีม) 

ขอรับคำปรึกษา

 

เรียนต่อแคนาดา อเมริกา

Line : @korpungun

เรียนภาษาที่ฟิลิปปินส์

Line : @kpglearn

คอร์สออนไลน์ KPG LIVE

Line : @kpglive

TEL: 094-883-8778

นัดหมายพูดคุยผ่าน