[รีวิว] ประสบการณ์ใช้ชีวิตและเรียนภาษาอังกฤษใน Seattle ที่ Shoreline โดย เอ้

ประสบการณ์การเรียนภาษาในอเมริกาที่ Shoreline

ประสบการณ์การเรียนภาษาในอเมริกาที่ Shoreline CC

ชื่อ : เอ้
สถาบัน : Shoreline Community College
หลักสูตร : English as a second language
ระยะเวลา : 1 ปี
(พฤษภาคม 2016 – กรกฎาคม 2017)

ทำไมถึงเลือกไปเรียนภาษาอังกฤษที่อเมริกา ?

เหตุผล คือ ที่ทำงานเก่าที่เราเคยทำอยู่เขาเริ่มมีคนต่างชาติเข้ามาช่วยออกแบบโครงสร้างขององค์กรมากขึ้น แล้วตัวเอ้เองเป็นคนไม่ชอบภาษาอังกฤษเลยแต่ไหนแต่ไร ด้วยความที่ไม่ชอบก็เราก็เลยหลีกเลี่ยงมัน พอโตมากขึ้น เราเลยเข้าใจว่ามันสำคัญมากนะ เอ้รู้สึกว่าเราไม่ควรเอาความไม่ชอบของเราไปปิดกั้นโอกาส เพราะถ้าเราได้ภาษา เราก็ได้เปิดโลกใหม่ขึ้น การงานเราก็จะดียิ่งขึ้นด้วย

ถ้าเอ้เรียนภาษาอังกฤษที่ไทย ด้วยความที่เอ้ทำงาน เราจะต้องไปเรียนหลังเลิกงานแทน แล้วเราก็จะไม่ได้สื่อสารภาษาอังกฤษเท่าไหร่ มันอาจทำให้ได้ผลช้า เอ้เลยตัดสินใจว่า ถ้าเราอยากได้ภาษาจริงๆ เราควรไปอยู่กับเจ้าของภาษานะ เอ้ว่ามันน่าจะได้เร็วกว่าเลยตัดสินใจไปค่ะ

เอ้ว่าอเมริกามันค่อนข้างจะเป็นประเทศที่มีหลากหลายเชื้อชาติและเป็นประเทศใหญ่ เราน่าจะได้เรียนรู้วัฒนธรรมพวกเขาและอีกหลายๆวัฒนธรรม เอ้ว่ามันน่าจะเป็นประสบการณ์ที่ดีค่ะ

เล่าถึงการเตรียมตัววีซ่าให้ฟังหน่อยได้มั๊ย ?

ตอนแรกก็แอบกลัวว่าจะยากเหมือนกันค่ะ เราค่อนข้างลนนิดนึงเรื่องเอกสารแต่จริงๆแล้วถ้าเราเดินไปตามขั้นตอน เตรียมเอกสารให้ดีอย่างที่ก้อปันกันแนะนำก็ไม่ยากนะคะ พี่ๆก็แนะนำเรื่องของเอกสารและให้เราได้ฝึก ลองสัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษกับทางพี่ๆก้อปันกันค่ะ ก็เลยรู้สึกว่ามันก็โอเค ไม่ได้ยากอย่างที่เราคิดไว้ก่อนหน้านี้

ทำไมถึงเลือกไปเรียนภาษาที่ Shoreline ?

เอ้มีเพื่อนอยู่ที่ Shoreline คนนึง เขาก็แนะนำว่ามาเรียนที่นี่ก็ดีนะ บรรยากาศการเรียน ครู และนักเรียนเองก็เป็นกันเองดี เอ้ก็คิดว่าที่นี่น่าจะโอเค เราก็เลยไปดูจากรีวิวและในยูทูปว่าบรรยากาศของ Shoreline เป็นยังไง หลังจากนั้นก็ตัดสินใจไปที่นี่

สอบวัดระดับเป็นยังไงบ้าง ?

เอ้ได้ประมาณ 05 ค่ะ เริ่มต้น คือ 00 ระดับนี้จะเรียนเป็นแบบ A B C ส่วนของเอ้จะอยู่ประมาณช่วงกลางๆ เลเวลสูงสุดคือ 90 แล้วต่อด้วย 101 และ 102 ที่ใช้เข้าวิทยาลัย

ตอนไปเรียน ESL เป็นยังไงบ้าง ?

ตอนแรกตัวเอ้เองก็ยังเกร็งๆเพราะเรายังไม่เคยมาลองเรียนแบบนี้ แต่พอได้มาจริงๆ ครูและเพื่อนๆน่ารักมากค่ะ คุณครูก็เข้าใจว่านักเรียนแต่ละคนเพิ่งมาใหม่ ยังไม่เคยเรียนต่างประเทศมาก่อน ครูก็จะคอยซัพพอร์ทเรื่องที่เรียนและแนะนำสถานที่เที่ยว ทำให้เราก็เลยค่อนข้างจะปรับตัวง่ายด้วยความเป็นกันเองของครูและเพื่อนในคลาส

ภาษาอังกฤษของเราพัฒนามากน้อยขนาดไหน หลังจากไปเรียนมา 1 ปี ?

จากที่เราไม่เคยอ่านหนังสือภาษาอังกฤษที่เป็นเล่มๆ ได้ เราก็อ่านได้ค่ะ คุณครูเขาให้มาอ่านหนังสือนิยายที่อิงความจริงไปอ่านเป็นการบ้าน เราก็ต้องไปทำมา พออ่านจบเล่มแล้วก็รู้สึกว่าที่ผ่านมามันเป็นอคติเราเองที่ไม่ชอบเรียนภาษาอังกฤษ ตอนนี้เอ้ชอบภาษาอังกฤษมากกว่าเดิมมาก และอีกเรื่องที่พัฒนา คือ เรื่องของการพรีเซ้นท์งานหน้าห้องที่ Shoreline ทำให้เราพรีเซ้นท์เป็นภาษาอังกฤษได้ ครั้งแรกๆก็กลัวเพราะเราไม่เคยพรีเซ้นท์เป็นภาษาอังกฤษมาก่อน แต่พอได้ลองทำก็โอเคอยู่ค่ะ

สังคมใน Shoreline เป็นยังไงบ้าง ?

คลาสแรกที่เอ้ไปสนุกมากเลยค่ะ เพื่อนในวิทยาลัยมาจากหลากหลายเชื้อชาติและหลากหลายประเทศมากๆ มีตั้งแต่อายุ 17 จนถึง 60 ปีค่ะ เราก็รู้สึกว่าขนาดเขาอายุขนาดนั้นแล้วยังอยากพัฒนาตัวเองเลย มันก็ยิ่งเพิ่มแรงใจให้เรามากขึ้น แต่ส่วนใหญ่อายุโดยเฉลี่ยของนักเรียนจะอยู่ที่ประมาณ 17 – 20 ปีค่ะ

การสอนของครูเป็นยังไงบ้าง ?

คุณครูค่อนข้างเป็นกันเอง เขาไม่ได้ทำตัวเหมือนว่าครูเป็นครู แต่เหมือนเขาเป็นเพื่อนของเราด้วย ครูที่นี่จะคอยทำให้บรรยากาศห้องเป็นกันเองและจะคอยถามตลอดว่าใครไม่ได้ตรงไหนบ้าง การเรียนที่นี่เขาจะมีกิจกรรมต่างๆให้ทำ ไม่ใช่นั่งเรียนและจดอย่างเดียว กิจกรรมก็อย่างเช่น ไปจับคู่คนที่ไม่ได้มาจากประเทศเดียวกัน แล้วผลัดกันให้แนะนำตัวเอง

สภาพแวดล้อมของที่ Shoreline และ Seattle เป็นยังไงบ้าง ?

เอ้ว่าดีเลยนะคะ ด้วยตัวของ Shoreline เองก็มีต้นไม้เยอะแยะก็ดูสดชื่น ตึกเรียนก็ดี ส่วน Seattle เอ้มองว่าเป็นสังคมที่ค่อนข้างดีค่ะ เป็นกันเอง เวลาเราเดินไปไหนก็เซย์เฮลโหลวกันอยู่ คนค่อนข้างเฟรนด์ลี่และก็ไม่ค่อยอันตรายค่ะ

การเรียนภาษาอังกฤษที่อเมริกาและการเรียนภาษาอังกฤษที่ไทยแตกต่างกันยังไงบ้าง ?

แตกต่างกันพอสมควรเลยค่ะ อย่างการเรียนที่ไทยเราจะค่อนข้างฟังครูและทำตามที่ครูสั่งแต่ที่นั่นครูค่อนข้างจะเปิดกว้างในการรับฟังความคิดเห็นของนักเรียน จะมียกเคสตัวอย่างมาเล่า

การไปเรียนต่างประเทศครั้งแรกปรับตัวยากรึเปล่า ?

ตอนแรกก็ค่อนข้างปรับตัวยากและใช้เวลานิดนึงค่ะในเรื่องของการเดินทาง วิทยาลัยและวัฒนธรรมค่ะ แต่ก็ยังโชคดีที่มีเพื่อนคนไทยอยู่ด้วย เขาก็จะค่อนข้างไกด์ให้เราฟังว่าเป็นยังไง เอ้ก็ใช้เวลานิดนึงก็ปรับตัวได้ค่ะ

ได้ทำกิจกรรมอะไรในโรงเรียนบ้าง ?

มีที่ครูพาไป Space needle ค่ะ ข้อดีของที่นี่ คือ นักเรียนในคลาสไม่เยอะเลยทำให้ครูดูแลได้ทั่วถึง อย่างเช่น คลาส Speaking ของเอ้คนมันน้อย ครูก็เลยพาไปเที่ยวนอกสถานที่ได้ด้วยค่ะ ครูก็จะคอยเล่าว่าตรงไหนเป็นยังไง ดีมากค่ะ

ได้ใช้ภาษาอังกฤษในการทำงานบ้างรึเปล่า ?

อย่างที่เอ้ทำอยู่ในปัจจุบันจะเป็นองค์กรเอกชนที่เป็นหุ้นส่วนของต่างประเทศ การสื่อสาร ไม่ว่าจะทางอีเมลล์หรือการคุยในบางครั้งก็ใช้ภาษาอังกฤษค่ะ

มีฟีดแบคอะไรอยากฝากถึงก้อปันกันมั๊ย ?

อยากขอบคุณก่อนเลยค่ะ ถือว่าตัวเองโชคดีมากที่มีโอกาสได้พบก้อปันกันเพราะว่าเอ้ไปเจอเพื่อนที่ไปเรียนที่นู่น เขาก็บ่นๆเรื่องเอเจนซี่ของเขานิดหน่อย แต่เอ้รู้สึกว่าตัวเองโชคดีเพราะก้อปันกันแนะนำตั้งแต่เรื่องเอกสาร การทำวีซ่า การสัมภาษณ์ ทำให้การไปเรียนต่างประเทศของเอ้ครั้งนี้ไม่ได้ยากอย่างที่คิดก็เลยต้องขอขอบคุณมากๆเลยค่ะ

มีอะไรอยากแนะนำสำหรับคนที่อยากไปเรียนภาษาอังกฤษที่ต่างประเทศบ้างรึเปล่า ?

เอ้คิดว่าถ้ามีโอกาส การที่ได้ไปเรียนต่างประเทศมักจะช่วยทำให้เราเปิดกว้างในโลกทัศน์ของเรามากขึ้น เพราะถ้าเราอยู่แต่ที่ประเทศไทยอย่างเดียว เราก็มองไม่ออกว่าโลกของเราเป็นยังไง ไปถึงไหนแล้ว แต่การได้ไปอยู่ที่ต่างประเทศ มันทำให้เราได้เรียนรู้วัฒนธรรมท้องถิ่น แม้แต่การไปเที่ยวในที่ต่างๆ เอ้ว่ามันก็เป็นประสบการณ์ที่ดีค่ะ เพราะสถานที่ท่องเที่ยวและวัฒนธรรมของแต่ละที่มันไม่เหมือนกัน มันทำให้เราได้เรียนรู้มากยิ่งขึ้นและมีประสบการณ์โตมากขึ้น เอ้รู้สึกว่าตัวเองโตมากขึ้นกว่าตอนตัวเองอยู่ที่ไทย

เกี่ยวกับ Shoreline Community College คลิก

# ประสบการณ์การเรียนภาษาในอเมริกาที่ Shoreline CC
Photo Credits : เอ้

ขอรับคำปรึกษา

 

เรียนต่อแคนาดา อเมริกา

Line : @korpungun

เรียนภาษาที่ฟิลิปปินส์

Line : @kpglearn

คอร์สออนไลน์ KPG LIVE

Line : @kpglive

TEL: 094-883-8778

นัดหมายพูดคุยผ่าน