เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ เพื่อเตรียมศึกษาต่อ กับ ILAC KISS
คลาสสด กับครูแคนาดา และเพื่อนต่างชาติ
หลักสูตร University Pathway 4 สัปดาห์
[รีวิว] โดย ณัฐินี อุดมศิลป์ (น้องไบร์ท)
…
น้องไบร์ทสอบเทียบ GED เพื่อสอบจบเทียบเท่าระดับชั้นมัธยมปลาย และได้สมัครศึกษาต่อหลักสูตร University Transfer ไว้กับ Shoreline Community College รัฐ Washington ประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อที่จะ transfer เข้าศึกษาต่อมหาวิทยาลัยระดับปริญาตรีในประเทศแคนาดา ถึงแม้ว่าน้องไบร์ทจะมีผลสอบ IELTS ถึงเกณฑ์ที่วิทยาลัยกำหนดแล้ว (IELTS Overall 5.5 ) แต่คุณแม่อยากให้น้องไบร์ทได้เตรียมตัวด้านภาษาอังกฤษเพิ่มเติม พร้อมกับใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ในช่วงที่รอวิทยาลัยเปิดเรียน น้องไบร์ทจึงได้ลง เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ เพื่อเตรียมศึกษาต่อ กับ ILAC KISS หลักสูตร University Pathway โดยการสร้างความคุ้นเคยกับการใช้ภาษาอังกฤษเชิงวิชาการ (Academic English)
สำหรับคนที่กำลังมองหาคอร์สเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ เพื่อเตรียมศึกษาต่อ ที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน เหมือนกับการเดินทางไปเรียนในต่างประเทศ สามารถอ่านประสบการณ์ของน้องไบร์ท เพื่อศึกษาและพิจารณาตัดสินใจได้เลย
ก้อปันกัน
เรียน ILAC KISS หลักสูตรไหน ?
เรียนหลักสูตร University Pathway (Academic English) ค่ะ ไบร์ทมีคะแนน IELTS overall band 5.5 ส่วน Writing ได้ 6.0 ค่ะ เลยได้อยู่ที่ระดับ Pathway 2.2 ค่ะ ในช่วงของการเรียน 4 สัปดาห์ จะมีการสอบทุก 2 สัปดาห์ ไบร์ทก็ได้สอบ 2 ครั้งค่ะ
ทำไมถึงเลือกเรียนออนไลน์กับ ILAC KISS ?
คุณแม่อยากให้เตรียมตัว เพราะไบร์ทต้องเรียนออนไลน์กับทาง Shoreline แล้ว แม่ก็อยากให้เรียนออนไลน์เป็นภาษาอังกฤษบ้างค่ะ แล้วคอร์สนี้ก็น่าสนใจดี เรียนจบปุ๊บก็ได้ Cerificate ที่สามารถใช้แทนผลสอบ TOEFL / IELTS สำหรับการศึกษาต่อในแคนาดาได้ด้วย แม่เลยอยากให้เรียนค่ะ ?
บรรยากาศคลาสเรียนวันแรกเป็นยังไง ?
จริงๆ ILAC KISS จะมีตารางเวลาให้เราเลือกเรียน ของไบร์ทจะเป็น 1 ทุ่มครึ่ง – สี่ทุ่มครึ่ง ตามเวลาไทย ตอนที่ไบร์ทเข้าไป teacher เขาก็แนะนำตัว ว่าเขาเป็นคนเกาหลีนะ อยู่ที่โน่นมา 22 ปีแล้ว
แล้วก็ให้เด็กในห้องแนะนำตัวกัน มีหลากหลายชาติมากเลยค่ะ มี โคลัมเบีย อินเดีย เป็นต้น ในห้องก็จะมีประมาณ 10 คนค่ะ ไม่เกินนี้
teacher เขาก็จะแบ่งห้องให้เรากับเพื่อนประมาณ 4-5 คนได้พูดคุยกันก่อน ว่ามาจากไหน เป็นยังไงบ้าง ทำไมถึงมาเรียน เป็นครั้งแรกที่ได้เรียนรึเปล่า ให้เราได้ทำความรู้จักกันก่อน จริงๆ วันแรกไบร์ทเกร็งนิดนึง เพราะว่าเป็นการเรียนออนไลน์ครั้งแรกผ่าน Zoom แล้วก็ต้องเห็นหน้ากัน ก็เกร็งๆ นิดนึง พอเรียนไปได้ประมาณ 5 วันไบร์ทก็เริ่มปรับตัวได้ หลังจากนั้นก็เริ่มคุยกับคนอื่นได้มากขึ้นค่ะ
เนื้อหาของหลักสูตร University Pathway เป็นอย่างไร ?
จริงๆ เขาจะเน้นไปที่ TOEFL ค่ะ ก็คือ ถ้าจะผ่าน Pathway 1 ขั้น เราจะต้องสอบให้ได้ตามข้อกำหนดของเขา อย่างเช่นจะต้องทำการบ้านให้ได้ 90% ต้องได้คะแนน TOEFL 75 คะแนนขึ้นไป ถึงจะผ่านเลเวล เขามีข้อกำหนด ส่วนมาก teacher จะให้ทำแบบฝึกหัด TOEFL ทำ Listening ทำ Writing ทำ Reading แล้วก็สอนเทคนิคว่า เวลาจะเขียน Essay (เรียงความ) ควรจะมีแนวทางแบบไหน จะต้องสรุปประมาณไหน หรือเริ่มต้นอย่างไร รวมถึง สอนเทคนิคการฟัง เช่น อันไหนที่ผู้สอนพูดซ้ำหรือเน้น ให้จดเอาไว้ เพราะว่ามันจะเป็น Keyword
เขามีให้ทำหลายอย่างนะ เช่น สอนให้เราทำข้อสอบ TOEFL มีการบ้าน Essay ให้ด้วย จะเป็น reserch essay ให้เราได้ลองเขียนเรียงความที่เราอาจจจะต้องใช้ในมหาวิทยาลัยจริงๆ จะได้รู้ก่อนว่ามันเป็นแบบนี้ เพื่อที่เราจะได้คุ้นชินกับงานที่เราจะต้องได้ทำในมหาวิทยาลัยค่ะ
จากที่ไบร์ทเรียนมา จะเข้าคลาสตอนทุ่มครึ่ง แล้วจะพักประมาณสามทุ่มค่ะ พัก 10 นาที แล้วก็เรียนต่ออีกประมาณชั่วโมงยี่สิบ จบที่สี่ทุ่มครึ่ง เขาก็จะมีการบ้านให้นะ แต่ก็ส่งเมลคุยกัน เขาก็จะส่งฟีตเเบ็คกลับมา ไบร์ทรู้สึกว่า teacher เขาก็ยังให้ความสำคัญกับเรา เราอีเมลไปเขาก็ยังตอบกลับ ?
รู้สึกว่ามีคนช่วย ไม่ได้รู้สึกโดดเดี่ยวขนาดนั้น
บางทีเรียนออนไลน์นั่งอยู่คนเดียว ทำการบ้านคนเดียว มันจะรู้สึกเหมือนไม่มีเพื่อนในคลาส แต่ส่งอีเมลไปหาทีชเชอร์แล้วเขาอีเมลตอบกลับมา เราก็รู้สึกว่า อย่างน้อยก็ยังมีคนช่วยเราทำงาน มีคนช่วยซัพพอร์ทเรา
ใช้เวลาทำการบ้านเยอะไหมในแต่ละวัน ?
ไบร์ทใช้เวลาทำประมาณ 1-2 ชั่วโมง เราจะได้งานตั้งแต่วันแรกที่เราเจอกัน เขาก็เริ่มแจกแจงเลยว่า คุณจะมี research essay นะ คุณต้องทำประมาณนี้นะ จะมี guideline มาให้ ให้เราเลือกหัวข้อก่อน แล้ววันต่อไปเขาก็คอยถามว่า คุณเลือกหัวข้อได้รึยัง เริ่มได้แล้วนะ มันก็เลยค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไป ไม่ได้ทำวันเดียวห้าชั่วโมง ส่งพรุ่งนี้ ทีชเชอร์เขาก็คอยตามทุกๆ วัน ก็โอเคค่ะ เพราะเขาก็มีเวลาให้ทำสองสัปดาห์ค่ะ
ส่วนการบ้านเล็กๆ สมมติว่าเขามีคำศัพท์มาให้เรา เขาก็ให้เราไปคิดประโยคที่มีคำศัพท์พวกนี้ใส่เข้าไป แล้วพรุ่งนี้ก็เอามาแชร์กันในคลาสคนละ 1 ประโยค เขาก็พิมพ์เข้าไปใน zoom จะได้แชร์ความคิดเห็นกัน หรือบางทีก็ให้เราคิดคำถามดูว่าจะถามยังไง แล้วพรุ่งนี้ค่อยเอามาแชร์กันค่ะ
เราคิดว่า IELTS กับ TOEFL ต่างกันยังไง ?
ไบร์ทว่า TOEFL มันไม่ได้ยากขนาดนั้นแต่มันอาศัยความเยอะ คือ อย่าง IELTS มันยาก แต่ข้อสอบมันจะไม่เยอะเท่าไหร่ อาจจะมี 10 ข้อแต่ยากมาก แต่ TOEFL ทำนานมากแต่ข้อสอบไม่ได้ยากขนาดนั้น ใครที่สมาธิดีมากๆ สามารถนั่งฟัง Listening ได้นานๆ โดยไม่หลุดโฟกัส ไบร์ทคิดว่า สอบ TOEFL น่าจะเหมาะกว่า เพราะว่าที่ไบร์ททดสอบ 2 อาทิตย์แรก โอ้โห นั่งฟังนานมาก มี เลคเชอร์ 4 เลคเชอร์ มีบทสนทนา 2 อัน ไบร์ทนั่งฟังนานมากๆ สมาธิไบร์ทสั้นนิดนึง ไบร์ทก็เลยรู้สึกว่ามันยากค่ะ
แต่ที่นี่ดีคือ teacher เขาช่วยเราค่ะ สมมติว่าบางทีเด็กฟังไม่ทันจริงๆ เขาก็ส่งข้อความส่วนตัวไปหาทีชเชอร์ว่าเมื่อกี๊ฟังไม่ทันจริงๆ หรือโจทย์ที่มันยากทีชเชอร์เขาก็อธิบายให้ได้บ้าง อย่างน้อยก็มีคนช่วยค่ะ
คอร์สเรียนออนไลน์ ILAC KISS ช่วยพัฒนาเราเรื่องไหนบ้าง ?
ไบร์ทว่าช่วยเรื่อง Writing ค่ะ เพราะว่าเขาจะมีการบ้านใหญ่ๆ 2 อัน คือ Essay กับ Presentation
อย่างไบร์ทตั้งแต่เรียนที่โรงเรียนในไทย ไบร์ทไม่เคยได้ทำ Essay ที่ต้องค้นคว้าหาข้อมูลแบบนี้ เลยรู้สึกว่าเป็นครั้งแรกที่โอเคเลย อย่างเรียนที่มัธยมเราก็จะใช้กูเกิ้ล วิกิพีเดีย ธรรมดา แต่ teacher บอกว่าข้อมูลแบบนั้นมันไม่น่าเชื่อถือนะ เราต้องใช้เว็บนี้ อ้างอิงแบบนี้ จะต้องเขียนแบบนี้ ไบร์ทก็เลยรู้สึกว่ามันช่วยเราในเรื่องการเขียนมากๆ เลย
เพราะไบร์ทก็ไม่ใช่คนเขียนเก่ง ทีชเชอร์เขาก็แนะนำ อันไหนที่เราไม่มั่นใจ เราก็ส่งอีเมลไปถามทีชเชอร์ได้ ว่า อันนี้โอเคไหมคะ ต้องแก้ตรงไหนบ้าง เขาก็ส่งกลับมาว่าเราต้องแก้ตรงนี้นะ
จริงๆ ไบร์ทว่าพาร์ทอื่นๆ มันก็น่าจะดีขึ้นเหมือนกัน เพราะได้ทำแบบฝึกหัดยังไงก็พัฒนาอยู่แล้ว แต่ที่เห็นชัดๆ ก็เป็น Writing เพราะว่าไบร์ทสามารถเขียนได้เร็วขึ้น ปกติไบร์ทเขียนช้า แต่ตอนนี้ก็เขียนได้เร็วขึ้น เขาจะสอบทุกๆ สองสัปดาห์ จะมีสอบ Listening, Reading, แล้วก็ Writing ค่ะ คะแนนไบร์ทเยอะขึ้นนะ ถ้าจำไม่ผิด TOEFL คะแนนจะเต็ม 120 สอบครั้งแรกได้ 76 สอบครั้งที่ 2 ไบร์ทได้ประมาณ 80 กว่า มันก็พัฒนาขึ้นนะ ไบร์ทน่าจะจับจุดได้บ้างแล้วค่ะ
เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ เหมือนหรือต่างจากที่เคยเรียนภาษาอังกฤษในไทยยังไง ?
ในไทยไบร์ทเคยเรียนติวเพื่อสอบ IELTS ค่ะ ไบร์ทว่ามันต่างนะ เพราะที่ไทยไบร์ทเรียนแบบตัวต่อตัวกับ teacher เลย เขาเน้นทำแบบฝึกหัดไปเลย ติวเพื่อสอบเลย ไบร์ทก็ไม่รู้ว่ามันจะเทียบกันได้ไหม แต่เรียนออนไลน์เขาก็ยังมีเกมส์มาให้เล่นบ้าง มีสอนคำศัพท์ สอนนู่น สอนนี่ค่ะ
ระหว่างที่เรียน ILAC KISS รู้สึกว่าครูเข้าไม่ถึงเรา เราเข้าไม่ถึงครูตอนเรียนออนไลน์บ้างไหม ?
จริงๆ ไม่นะคะ เพราะคลาสมันเล็กมาก มีนักเรียน 9 คน ครู 1 คน แล้ว teacher ก็สามารถจำนักเรียนได้ทุกคน เขาก็สามารถพูดเนื้อหาที่เรียนให้เชื่อมโยงถึงนักเรียนได้ทุกคน เช่น วันนั้นเรียนเรื่องอาหาร เขาก็ถามว่า คุณมีความคิดเห็นยังไงเกี่ยวกับอาหารไทย หรือที่โคลัมเบียคุณกินอาหารแบบไหน ตุรกีคุณกินยังไง เขาก็จำชาติและชื่อนักเรียนได้ ให้ผู้เรียนได้มีส่วนร่วมในการตอบคำถาม คลาสมันเล็กมั้งคะ เขาก็เลยจำได้ ก็ได้พูดคุยกับ teacher ปกติเลย เลยไม่ได้รู้สึกว่า teacher ไม่สนใจค่ะ
แล้ว teacher เขาก็จะให้ทำงานกลุ่มในคลาสด้วยนะคะ แบ่งนักเรียนออกเป็นห้องๆ เช่นห้องนี้สามคน ห้องนี้สองคน แล้วก็ให้นักเรียนคุยกัน ว่าปัญหานี้เป็นยังไง ก็ได้ฝึก speaking ด้วย เผื่อใครไม่ได้อยากอยู่ในกลุ่มใหญ่ๆ ตลอดเวลา ซึ่งมันก็ไม่ได้อยู่ในกลุ่มใหญ่ๆ ตลอดเวลาอยู่แล้วค่ะ
ในชั้นเรียน ILAC KISS เจอเพื่อนชาติไหน อายุเท่าไหร่บ้าง ?
มีจีน ญี่ปุ่น อินเดีย โคลัมเบีย รัสเซีย แล้วก็มีอีกค่ะ แต่ไบร์ทจำได้แค่ 5 ชาตินี้
ไบร์ทเด็กที่สุดในคลาสเลย ? ที่จริงอายุหลากหลายมากเลย คนอายุสิบหกเท่าไบร์ทคนนึง เรียนด้วยกันสองอาทิตย์แรก พอสองอาทิตย์ถัดไปเขาน่าจะข้ามขั้นไปแล้ว แต่ว่าส่วนมากจะอายุประมาณ 19-20 คนที่กำลังจะเข้ามหาวิทยาลัย หรือผู้ใหญ่ที่มีลูกแล้วก็มี
ทีแรกไบร์ทก็รู้สึก โห ไบร์ทเป็นเด็กคนเดียวเลย ทุกคนเป็นผู้ใหญ่กันหมดแล้ว แต่พอเรียนไปสักพักนึงก็โอเคค่ะ teacher เขาก็เห็นว่าเราเป็นนักเรียนเหมือนทุกคน ก็เลยไม่ได้รู้สึกว่าเราเป็นเด็กน้อยอยู่คนเดียวค่ะ เพื่อนเป็นชาติอื่นหมดเลย ไบร์ทเป็นคนไทยคนเดียว แต่ชาติอื่นเขาก็มีที่เป็นชาติเดียวกัน แต่ส่วนมากที่ซ้ำๆ กันก็จะเป็น โคลัมเบีย อินเดีย ตุรกี ค่ะ
มีอะไรที่เราอยากให้สถาบันปรับปรุงไหม ?
จริงๆ สองอาทิตย์แรกมันเป็นการเรียนอย่างเดียวเลย เขาก็จะมี Google Forms มาให้เรากรอกเพื่อติชม teacher มีอะไรที่จะแนะนำในคลาสไหม ไบร์ทก็เขียนไปว่า ไบร์ทรู้สึกว่าอยากได้เกมมากขึ้นหน่อย เพราะไม่อย่างนั้นก็เนิบๆ ไปทั้งคลาส ไบร์ทอยากได้เกมส์ สักเกมส์ สองเกมส์ อาทิตย์ถัดมาทีชเชอร์เขาก็มีเกมส์มาให้เล่น ทุกคนก็เอ็นจอยค่ะ คือเขารับฟังนักเรียนนะ ไบร์ทคิดว่าเขาน่าจะอ่านฟอร์มที่ไบร์ทส่งไป ก็โอเคเลยค่ะ
คะแนนเต็ม 10 ให้เท่าไหร่ ?
ให้สัก 8 แล้วกัน เพราะไบร์ทก็ยังไม่ได้ชินกับการเรียนออนไลน์ด้วยค่ะ
คิดว่าสิ่งที่เรียนมาจะช่วยเราในการเรียนต่อที่ Shoreline ไหม ?
คิดว่าช่วยนะ เพราะมันคือภาษาอังกฤษเลย อย่างตอนที่ทำ Listening มันเป็นเนื้อหาเลคเชอร์ในคลาส มันก็น่าจะช่วย เวลา teacher เขาสอนแล้วทำให้เราเลคเชอร์ได้เข้าใจมากขึ้นนะคะ แล้วก็น่าจะพูดกับเพื่อนได้ แล้วก็ได้ทำความคุ้นชินกับภาษาอังกฤษที่ต้องเรียนผ่านคอมฯ ไม่ได้เรียนกับ teacher แบบเจอกันตัวเป็นๆ (in person)
ข้อดี ข้อเสียในการเรียนออนไลน์ ?
ข้อเสียก็คือ บางทีตอนเราอยู่ในคลาสใช่ไหมคะ ทุกคนได้การบ้านเหมือนกันหมด แต่พอเลิกคลาส ออกจากระบบ Zoom ที่เรียน สุดท้ายก็เหลือแค่เราที่ทำการบ้านอยู่คนเดียว มันก็เหงาๆ นิดนึงค่ะ ? แต่ถ้าอยู่ในคลาสเรียนจริงๆ สมมติว่า ทีชเชอร์สั่งให้ทำงานชิ้นนี้ พอจบคลาสเพื่อนก็ยังอยู่ เราก็ยังได้คุยกับเพื่อนที่นั่งข้างๆ เราได้ แต่พอเป็นออนไลน์ ปิดคอมปุ๊บ ก็เหงาๆ ค่ะ
ส่วนข้อดี ไบร์ทคิดว่าสะดวกดีนะ อยู่ที่บ้านก็เรียนได้ อยู่ร้านกาแฟก็เรียนได้ มันไม่จำเป็นต้องไปเรียนที่โรงเรียน แต่ไบร์ทว่า อย่างไบร์ทเป็นวัยที่ไปโรงเรียนเป็นปกติอยู่แล้ว ไบร์ทคิดว่ามันอาจจะเหมาะกับผู้ใหญ่ที่อาจจะไม่ว่าง แค่อยู่บ้านก็สามารถเรียนได้แค่มีคอมฯ ค่ะ ??