[รีวิว] ประสบการณ์เด็กไทยไปเรียนภาษาอังกฤษที่ PELA : Portland เมืองฮิปสเตอร์ โดย เบล

ประสบการณ์เรียนภาษาอังกฤษที่ PELA โดย เบล

ประสบการณ์เรียนภาษาอังกฤษที่ PELA

ชื่อ : เบล อายุ : 21 ปี
สถาบัน :  Portland English Language Academy (PELA)
ระยะเวลา : 7 เดือน (ตุลาคม 2016 – พฤษภาคม 2017)
หลักสูตร : ESL 5 เดือน และ IELTS 2 เดือน

ทำไม ถึงอยากไปเรียนภาษาอังกฤษ ?

เบลเรียนมหาวิทยาลัยที่จีนมา 4 ปีค่ะ แล้วพอมาอยู่ที่นี่ มันไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเลย ก็เลยอยากไปรื้อฟื้น ไปเคาะฝุ่นภาษาอังกฤษตัวเองก่อนเรียนจบ

ทำไม ถึงเลือกไปเรียนที่ PELA : Portland English Language Academy ในอเมริกา ?

รู้สึกว่าชอบอเมริกาค่ะ อยากไปเที่ยวด้วย ส่วนที่เลือก PELA เพราะ ชอบพอร์ตแลนด์ค่ะ แล้วก็ราคาไม่แพงด้วย

สภาพแวดล้อม ของเมือง Portland เป็นยังไงบ้าง ?

อากาศก็ดีแต่ฝนตกเยอะไปหน่อยค่ะ อากาศก็ไม่ได้หนาวมาก เมืองก็สวย เราก็ดูมาก่อนว่า Oregon มันปลอดภาษีด้วย ตอนแรกก็คิดว่าคนไทยจะน้อยแต่พอไปคนไทยก็เยอะอยู่นะคะ

ความปลอดภัย และความสะดวกสบายในเมือง เป็นยังไง ?

ค่อนข้างปลอดภัยค่ะ แต่มันก็จะมีคนแปลกๆเยอะหน่อยในพอร์ตแลนด์ จะมีโฮมเลสเยอะอยู่ในดาวน์ทาวน์ แต่เขาก็ไม่ได้ทำอะไรคะ มีมาขอตังค์บ้าง มาตื๊อบ้าง แต่เราก็แค่ไม่ต้องไปสนใจเขา และอย่าไปไหนเปลี่ยวๆ ตอนกลางคืน และพวกกัญชาที่นี่เขาจะถูกกฏหมาย คนที่นี่ก็จะดูดกันทั่วเมืองเลย ถ้าได้กลิ่นก็พยายามเลือกที่จะไม่เข้าไปใกล้ (เพราะไม่ต้องการ) ครูเขาก็เตือนว่าบางทีเขาก็เอาใส่ขนมมาแจก ก็อย่าไปรับ

พอร์ตแลนด์เป็นเมืองที่มีการคมนาคมที่ดีที่สุดเลยค่ะ รถบัสทั่วถึงมาก ไปถึงเมืองข้างๆอะไรงี้ด้วย ส่วนใหญ่เบลจะชอบนั่งบัสมากกว่า เบลอยู่กับโฮสต์ค่ะ สำหรับเบล ถ้านั่งบัสจากบ้านโฮสต์ไปที่เรียนมันสะดวกกว่าค่ะ

สภาพแวดล้อม ภายในสถาบัน PELA เป็นยังไง ?

ก็มีทั้งคนไทยและต่างชาติค่ะ คนไทยก็เยอะ มีเพื่อนจากคนไต้หวัน ญี่ปุ่น ซาอุฯ ก็เยอะค่ะ คนที่มาจากฝั่งยุโรป หรืออเมริกาใต้ก็มีค่ะ เพราะว่าคลาสเรียนมันแยกกัน แต่ละเลเวลจะแยกกัน อย่างเช่น Listening อยู่ระดับ 4 แต่ Reading อยู่ระดับ 5 เราก็จะเจอเพื่อนแต่ละคลาสไม่เหมือนกันค่ะ เวลามีงานฮัลโลวีน หรือ Thanksgiving เขาก็จะมีปาร์ตี้กันหลังเลิกเรียนค่ะ

ระดับภาษาก่อนไปเรียน เป็นยังไงบ้าง ?

ก็คิดว่าไม่ได้แย่นะ แต่ว่าพอเราได้ไปอยู่ที่อเมริกา เราก็ได้พูดมากขึ้น เรื่องภาษาก็คล่องขึ้นค่ะ ก่อนไปเราพอพูดได้ เขียนได้ อ่านได้อยู่แล้ว แต่เราเหมือนไปพัฒนาภาษาให้ได้มากขึ้น

ตอนสอบวัดระดับก็มีสอบ Listening มีข้อกา และข้อเขียน Essay ข้อสอบก็อยู่ในระดับทั่วๆ ไปค่ะ ผลสอบออกมา เบลได้ประมาณเลเวล 4 กับ 5  จากทั้งหมด 6 เลเวล ที่ PELA เขาจะแบ่งการสอบแต่ละ Skill ออกเป็น Level เขาแยกเป็นวิชาๆ ออกไป เช่น Listening เราอยู่ระดับนี้ Reading ก็อาจจะอยู่อีกระดับนึง ตามผลคะแนน เราก็จะได้บางวิชาอยู่ระดับ 4 บางวิชาอยู่ระดับ 5

ความแตกต่าง ระหว่างการใช้ชีวิตที่จีนกับอเมริกา ต่างกันรึเปล่า ?

ต่างกันตรงการใช้ภาษาค่ะ ไลฟ์สไตล์เขาก็ต่างกัน อากาศก็คล้ายๆ กัน แค่ต้องพูดภาษาอังกฤษแทนภาษาจีน คนที่พอร์ตแลนด์เขาจะค่อนข้างเฟรนด์ลี่มาก

การเรียนภาษาอังกฤษที่อเมริกาและที่ไทย แตกต่างกันยังไง ?

ก็ต่างค่ะ บรรยากาศในห้องเรียนก็จะต่างกัน เรียนที่ไทยก็จะมีแต่คนไทย แต่ถ้าอยู่ที่อเมริกาก็จะมีคนต่างชาติเยอะ เขาจะมีกิจกรรมให้ทำเยอะกว่าที่ไทย บางทีก็มีกิจกรรม Outdoor ให้ไปทำด้วย อย่างเช่น พาไปสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ หรืองานเทศกาลประจำฤดูกาลค่ะ ไปกับคุณครูที่โรงเรียนเลยค่ะ บางทีโรงเรียนเขาก็จะจัดพาไป

แล้วเบลก็ลง Volunteering Class ด้วยค่ะ ไปเป็นอาสาสมัคร เราก็จะได้ออกไปทำกิจกรรมอาสาสมัครที่อื่น ได้คุยกับชาว Native Speaker มากขึ้น เขาจะมีกิจกรรมที่ให้ไปปลูกต้นไม้ ไป Beer Festival ช่วยเสิร์ฟเบียร์ หรือบางทีก็ไปทำอาหารให้คนป่วยค่ะ

บรรยากาศการเรียน หลักสูตร ESL และ IELTS แตกต่างกันรึเปล่า ?

ต่างค่ะ ถ้าเรียน IELTS คลาสเรียนจะไปกันเร็วมาก ครูเขาก็จะสอนเทคนิคการสอบ ให้ทำโจทย์แล้วก็จะทำข้อสอบซะมากกว่า ที่ลงเรียน IELTS ก็เพราะอยากลองดูค่ะ คิดว่าอาจจะได้สอบ IELTS ในอนาคต เพราะมีแพลนว่าอยากเรียนต่อปริญญาโทที่นั่น แต่ถ้าเป็นคลาสเรียน ESL เขาจะเน้นการพูด การสื่อสารในห้องเรียนมากกว่าค่ะ

การเรียนการสอนของครูที่ PELA เป็นยังไงบ้าง ?

อันนี้แล้วแต่ครูแต่ละคนเลยค่ะ ครูบางคนก็ติดตามตลอดเลย ครูบางคนก็อาจจะสอนน่าเบื่อนิดหน่อย แต่เขาก็เฟรนด์ลี่ดีค่ะ เราสามารถเข้าไปคุยกับเขาได้เวลาเรามีปัญหา หรือไม่เข้าใจอะไร ที่จริงการสอนก็ขึ้นอยู่กับครูแต่ละคนเลยค่ะ

การบริการนักเรียนนานาชาติเป็นยังไงบ้าง ?

ก็ดีนะคะ มีปัญหาอะไรก็ไปถามเขาได้ “ลุค” เป็นคนจัดการดูแลเรื่องนักเรียนนานาชาติของ PELA ค่ะ เราอาจจะต้องดูอารมณ์เขานิดนึง แต่เขาก็ให้ความช่วยเหลือเต็มที่ค่ะ

มีความประทับใจอะไรใน PELA บ้าง ?

ในโรงเรียนเราก็รู้จักกันหมด คุยกันได้ทุกคน ครูก็เป็นกันเองค่ะ

หลังจากเรียนจบที่ PELA ไปแล้ว รู้สึกว่าภาษาอังกฤษของเรามีความก้าวหน้ายังไงบ้าง ?

พูดได้คล่องขึ้นค่ะ ฟังรู้เรื่องมากขึ้นเวลาเขาพูดเร็วๆ ส่วนระดับภาษา ก็เรียนมาถึงระดับ 6 ค่ะ แต่เบลก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันยาก

มีแพลนในอนาคตว่ายังไงบ้าง ?

อยากจะต่อปริญญาโท ในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษค่ะ แพลนไว้ว่าน่าจะต่อด้าน MBA หรือพวกด้าน Business แต่ก็ยังไม่ได้มีแพลนที่แน่นอนค่ะ

มีคำแนะนำอะไรเพิ่มเติม ที่อยากแนะนำรึเปล่า ?

อยากไปก็ไปเลยค่ะ เบลมีเพื่อนบางคนที่เขาไป แล้วก็คบแต่กับคนไทย ภาษาเขาก็จะไม่ค่อยพัฒนาเท่าไหร่ สำหรับเบล เบลว่าเราก็คบกับคนไทยได้ แต่ถ้าเราไปอยู่ตรงนั้น แล้วมีแต่เพื่อนคนไทย เราก็จะได้แต่พูดภาษาไทย แต่ถ้าคบเพื่อนต่างชาติ เราก็จะได้ใช้ภาษาอังกฤษตลอดเวลาค่ะ แล้วก็ไม่ต้องกลัวที่จะพูดผิด ถ้าเราพูดผิดเขาก็จะแก้ให้เอง

มีฟีดแบคอะไรอยากฝากถึงก้อปันกันบ้าง ?

พี่เขาก็ให้คำปรึกษาดีค่ะ เขาก็ให้ไปซ้อมขอวีซ่า แล้วก็เบลก็มีเปลี่ยนโฮสต์ครั้งนึงเพราะบ้านโฮสต์เก่ามันไกล เบลก็ติดต่อให้พี่เขาช่วย พี่เขาก็ตอบกลับเร็วมาก

เรียนภาษาอังกฤษที่ PELA : Portland คลิกที่นี่

# ประสบการณ์เรียนภาษาอังกฤษที่ PELA : Portland English Language Academy
Photo Credits : เบล

ขอรับคำปรึกษา

 

เรียนต่อแคนาดา อเมริกา

Line : @korpungun

เรียนภาษาที่ฟิลิปปินส์

Line : @kpglearn

คอร์สออนไลน์ KPG LIVE

Line : @kpglive

TEL: 094-883-8778

นัดหมายพูดคุยผ่าน