รีวิว เรียนหลักสูตร Software Development ที่แคนาดา
กับสถาบัน Bow Valley College โดยคุณแพท
อะไรทำให้ตัดสินใจมาเรียนต่อที่แคนาดา?
ตอนที่ตัดสินใจมาเรียนเพราะ ตอนที่อยู่ไทย เราไม่ค่อยได้ใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันเลยค่ะ ก็เลยอยากเปลี่ยนสภาพแวดล้อมที่เราสามารถได้ใช้ภาษาอังกฤษมากขึ้น พอจะได้พูดได้พัฒนา และสามารถทำงานในบริษัทต่างชาติได้ด้วย และที่เลือกแคนาดาเพราะเห็นว่ามีโปรแกรม Diploma 2 ปี และสามารถสมัคร PGWP เพื่อทำงานอยู่ที่แคนาดาต่อได้สูงสุด 3 ปี ก็คิดว่าตอนเรามาเรียนที่นี่ 2 ปี เราอาจจะพัฒนาภาษาอังกฤษขึ้นแล้ว และก็มีโอกาสได้หางานทำต่อที่นี่อีก
ทำไมถึงเลือกเรียนหลักสูตร Software Development ที่ Bow Valley College?
ตอนแรกเลือกเมืองก่อน ดูที่ค่าครองชีพไม่สูงมาก และตอนนั้นเมือง Calgary บูมมาก คนรีวิวกันเยอะเลยมองว่าเป็นเมืองที่น่าสนใจค่ะ บวกกับว่าก่อนที่จะมาที่นี่ เราเรียนจบทางด้านวิศวกรรม อิเล็กทรอนิกส์ แต่ได้มีโอกาสทำงานด้าน Software development ซึ่งเราต้องไปเรียนรู้ใหม่ทั้งหมดและก็ชอบ เลยเปลี่ยนสายมาเรียนต่อด้าน Software development ค่ะ
การเรียนการสอนในหลักสูตรนี้ได้เรียนเกี่ยวกับอะไรบ้างคะ?
หลักสูตรนี้ เขาจะเน้นไปที่การสอนเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ค่ะ ช่วงสองเทอมแรกจะเน้นไปที่ DEP application กับ Window application คือสอนตั้งแต่พื้นฐานเลย ส่วนเทอมสองจะเน้นให้เริ่มทำโปรเจคที่ใช้ความรู้จากเทอมแรกและเทอมสองรวมกันค่ะ ก็เลยคิดว่าคนที่ไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อนก็สามารถมาเริ่มต้นที่นี่ได้ค่ะ ตอนเข้าเขาใช้แค่ Transcript ม.ปลาย กับคะแนนภาษาแค่นั้นเลยค่ะ
หลังจากเรียนหลักสูตรนี้แล้วเป็นยังไงบ้าง อยากแนะนำหลักสูตรนี้ต่อให้กับคนอื่น ๆ ไหม?
ตอนนี้หนูเรียนมา 2 เทอมแล้วค่ะ ก็รู้สึกว่าโอเคดีนะคะ เพราะพอใกล้จะจบเทอมเขาจะมีไฟนอลโปรเจคให้เราได้ทำ ให้เรานำความรู้ทั้งหมดที่ได้เรียนมาใช้ค่ะ เหมือนเป็นการบังคับให้เราสร้าง Port ไปในตัว และถ้าเราตั้งใจสะสมผลงานดีดี ก็สามารถนำผลงานเหล่านี้ไปสมัครงานได้ค่ะ คิดว่าดีเลย
ส่วนใหญ่เทอมแรกจะเป็นงานเดี่ยว แต่ถ้าเป็นเทอมสองที่เริ่มทำโปรเจค พวกประยุกต์ หรือต้องใช้ความรู้ในหลาย ๆ ด้าน จะเป็นงานกลุ่ม แต่เราสามารถเลือกได้ว่าจะทำเป็นงานเดี่ยว งานคู่ หรืองานกลุ่มก็ได้ค่ะ แล้วแต่เราเลย อย่างหนูรู้สึกว่าถ้าทำงานเดี่ยวมันก็จะเป็นผลงานของเราคนเดียว เราจะสามารถนำไปใส่ใน portfolio ของเราได้ เราเลยจะเลือกทำเป็นงานเดี่ยวมากกว่าค่ะ
ส่วนเพื่อน ๆ ในคลาสจะคละกันเยอะมากค่ะ จะมีฟิลิปปินส์ อินเดีย บราซิลที่เยอะกว่าชาติอื่นหน่อยค่ะ ไทยไม่ค่อยมีเลยค่ะ หนูเป็นคนไทยคนเดียวในคลาส
ส่วนตัวน้องแพทคิดว่าหลักสูตรนี้ยากไหมคะ?
ด้วยความที่เราทำงานด้านนี้ที่ไทยมาก่อน เลยคิดว่าไม่ค่อยยากเท่าไหร่ แต่ถ้ามองในมุมของคนที่เพิ่งเริ่มเรียน คิดว่าเขาค่อนข้างไปเร็วเพราะเขาพยายามสอนให้ได้มากและครบถ้วนที่สุด เลยต้องกลับไปทบทวนเองด้วย ถ้าจะให้ทันตอนอาจารย์สอน คิดว่าไม่น่ายากเท่าไหร่ แต่เขาสอนหลากหลายดีค่ะ
เขาจะสอนเขียนเว็บ โดยภาษา HTML JAVA script แต่ถ้าเป็น Window application ที่ใช้ในคอมพิวเตอร์ จะใช้ภาษา C หรือ C# อยู่ที่ว่าเราจะพัฒนาโปรแกรมเพื่อใช้ทำอะไรค่ะ หลังจากเรียนจบสามารถทำงานเป็นคนพัฒนาเว็บไซต์ ทำแอปพลิเคชันในมือถือ หรือ คนเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ใช้ใน Window ทำเกม ทำ Database จัดการข้อมูล ทำได้หลายทางเลยค่ะ เพราะเขาจะสอนทั้งหมดเลย แล้วตอนก่อนจะจบเขาจะให้เราเลือกว่าอยากทำโปรเจคจบเป็นแนวไหน
อาจารย์ที่นี่ บางคนจะสอนไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่ อ่านสไลด์ให้ฟังเหมือนอาจารย์ที่ไทยเลยค่ะ อีกแบบนึงคือจะสอนทำ อธิบายเป็นขั้นตอนทีละบรรทัดเลยค่ะ อาจารย์ที่สอนไม่ดีเป็นแค่บางคนค่ะ เวลาลงทะเบียนเราสามารถเลือกได้ว่าจะลงเรียนกับคนไหน ซึ่งเราสามารถถามจากรุ่นพี่ที่เคยเรียนมาก่อนได้ หรือเราลองเข้าเรียนดูก่อน 2 สัปดาห์แรก ถ้าไม่โอเคเราสามารถเปลี่ยนคลาสไปลงกับคนอื่นได้ค่ะ
Bow Valley College มีบริการอะไร Support นักเรียนบ้างคะ?
ส่วนใหญ่จะเป็น Advisor เกี่ยวกับการเรียน หรือ Mental health การเวิร์คช็อป หรือชมรมค่ะ แล้วก็มีประกันสุขภาพ ห้องสมุด โซนเล่นเกม ด้วยความที่เป็นแคมปัสในดาวน์ทาวน์มันเลยไม่ได้มีพวกยิมให้ ส่วนใหญ่จะเป็นพวกคลาสเวิร์คช็อป หรือชมรมมากกว่าค่ะ ปกติหนูเข้าไปเล่นเกมในห้องสมุด เราสามารถไปยืมเล่นได้เลย แล้วก็เคยเข้าไปปรึกษาเกี่ยวกับการหางาน
ช่วยแชร์ประสบการณ์การหางานและการทำงานที่ Calgary ได้ไหมคะ?
ตอนนี้ทำพาร์ทไทม์อยู่ร้านอาหารไทย มีน้องคนไทยที่อยู่ที่นี่อยู่แล้วแนะนำมา เราไปเจอเขา เขาเลยแนะนำให้ไปทำพอดี เรทขั้นต่ำของที่ Calgary อยู่ที่ 15 CAD สำหรับหนูคิดว่างาน part-time ของที่นี่ ถ้าได้ภาษาและมีความมั่นใจ คิดว่าหาไม่ยากค่ะ แต่งาน full-time หนูยังไม่เคยมีประสบการณ์ค่ะ หนูได้ยินมาว่า ที่นี่เขามีอุตสาหกรรมด้านพลังงานเยอะค่ะ พวกน้ำมันและก๊าซ และก็อุตสาหกรรมการบริการ เพราะมีสถานที่ท่องเที่ยวเยอะพวก Banff
มีวิธีการหาที่พักที่แคนาดาอย่างไรคะ?
คือตอนแรกหนูเช่า Airbnb มาก่อน 1 สัปดาห์ จริง ๆ หาจากที่ไทยก่อน แต่ด้วยความที่เขาขอเอกสารส่วนตัวเยอะ แล้วเราก็กลัวสแกมด้วย เลยไม่ไว้ใจจะส่งเอกสารของเราไปให้ใครก็ไม่รู้ บวกกับไม่ได้รู้จักใครที่นี่ด้วย ก็เลยคิดว่าเราไป Airbnb แล้วค่อยไปหาทีหลังดีกว่า แต่ด้วยตอนนั้นที่มาถึงที่นี่ หิมะมันตกหนักมาก เดินทางลำบากทุกอย่าง ก็เลยหาไม่ได้เลย เลยลองคุยขอเช่าต่อกับเจ้าของ Airbnb อีก 6 เดือน รวมทุกอย่างเลยราคา 820 CAD/เดือน ค่อนข้างโอเคค่ะ แต่จะมีปัญหาตรงที่มันเป็นที่พักชั่วคราวที่มีคนเข้าออกเรื่อย ๆ เราเลยแค่รู้สึกว่ามันอาจจะไม่ปลอดภัย แต่ตอนนี้เราก็ได้ที่พักที่ดีและถูกกว่าแล้วค่ะ เป็น Shared-house หาผ่าน Facebook marketplace เจ้าของบ้านเป็นคนฟิลิปปินส์ ที่พักไกลจากโรงรียน แต่บ้านอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟเลย
เมือง Calgary เป็นยังไง หลังจากอยู่แล้วเมืองนี้มีข้อดีและข้อเสียอะไรบ้าง?
ระบบขนส่งสาธารณะจะมีรถไฟกับรถบัสและ Uber เราสามารถซื้อเป็นบัตรรายเดือนใช้ได้ทั้งรถไฟฟ้าและรถบัสเลยค่ะ ถ้าซื้อผ่าน college จะได้ส่วนลด แต่ถ้าคนทั่วไปราคาประมาณ 115 CAD ใช้ได้ไม่จำกัดรอบค่ะ เมืองนี้เป็นเมืองเล็ก ๆ ไม่วุ่นวาย ถ้าเทียบกับกรุงเทพ ที่เที่ยวส่วนใหญ่เป็นธรรมชาติ เป็นแม่น้ำและสวน ส่วนห้างหรือศูนย์การค้า คือธรรมดามากเลย ไม่ได้หรูเหมือนในกรุงเทพ มีไว้สำหรับซื้อของเฉย ๆ เลยค่ะ ไม่ได้เอาไว้เที่ยว แต่มันเป็นข้อดีในการประหยัดเงินด้วย ถ้าห้างใหญ่จะเป็น outlet อยู่แถวสนามบินเลย เดินทางลำบากค่ะ ถ้าไม่มีรถต้องขึ้นรถบัสที่สำหรับเดินทางข้ามเมืองค่ะ เพราะมันอยู่เหมือนจะเกือบอีกเมืองนึงแล้วค่ะ ถ้าจากบ้านหนูนั่งรถบัสไป outlet ก็ประมาณ 30-40 นาที แต่ที่นี่รถไม่ติดเลยค่ะ อากาศดี คนส่วนใหญ่ที่นี่จะนั่งเล่นที่สวนสาธารณะ วิ่งออกกำลังกาย อย่างหนูว่าง ๆ ช่วงแรก ๆ จะนั่งรถไฟเล่นไปสุดสายเลยค่ะ และก็นั่งรถบัสกลับ เหมือนไปสำรวจเมืองว่ามันมีอะไร อยู่ตรงไหนบ้างค่ะ
ข้อดีของเมืองนี้หนูคิดว่า อากาศดี ถ้าไม่ใช่ช่วงหน้าหนาว อากาศจะเย็นตลอดทั้งวันเลยค่ะ มันมีแดด แต่แดดไม่ได้ร้อนเหมือนที่ไทย แต่ช่วงเดือนกรกฎาคมอากาศจะร้อนเหมือนที่ไทยเลย ร้อนจนออกจากบ้านไม่ได้ อยู่บ้านก็ไม่ได้ด้วยต้องไปอยู่ห้าง ถ้าอากาศหนาวสุดของที่นี่คือ -30 องศาเลยค่ะ แต่ผู้คนก็ออกมาใช้ชีวิตปกตินะคะ ส่วนข้อเสียที่นี่หนูยังหาไม่เจอเลยค่ะ เพราะมันเหมือนแบบอยู่ได้เรื่อย ๆ ไม่ได้ไม่ชอบอะไร แต่มันอาจจะมีเบื่อหน่อย ๆ ค่ะ มันน่าเบื่อเพราะวัน ๆ เราไม่รู้จะไปไหนดี มันไม่ได้มีที่ให้ทำอะไรมาก
ก่อนมาแคนาดามีข้อกังวลอะไรบ้างไหม และมีวิธีการรับมือและแก้ไขปัญหายังไง?
กังวลเรื่องอากาศหนาวค่ะ เพราะเราอยู่ไทยและยังนึกภาพไม่ออกว่า จะมาอยู่ยังไง หิมะตกเยอะ กังวลเรื่องกาศอย่างเดียวเลยค่ะ หนูก็ต้องปรับตัวและทำตัวให้ปกติเหมือนกับคนอื่นที่นี่ค่ะ ตอนขึ้นรถบัสก็ดูว่าเขาใส่อะไรกันแบบไหน อันไหนต้องซื้อเพิ่มก็ไปซื้อตามเขาค่ะ
มีข้อคิด คำแนะนำอะไรสำหรับคนที่กำลังตัดสินใจอยากมาเรียนต่อหรือมาอยู่แคนาดาบ้างไหม?
ก็คิดว่าคนที่อยากมาเรียนต่อ อยากให้วางแผนดี ๆ ว่าเรามาเรียนแล้วอยากกลับไทย หรืออยากอยู่ทำงานต่อ ให้เลือกโปรแกรมเรียนให้เหมาะกับแผนที่เราต้องการ ยิ่งถ้าคนที่มีงบจำกัด ยิ่งต้องวางแผนให้รอบคอบค่ะ เพราะค่าใช้จ่ายในการใช้ชีวิตที่นี่สูงกว่าไทยเยอะอยู่ค่ะ เช่นเดือนแรก ๆ ที่หนูยังไม่ได้ทำงาน ก็ต้องใช้เงินที่เตรียมจากที่ไทยก่อน ซึ่งมันอาจจะอยู่หรือไม่อยู่ในแผนของบางคนก็ได้ค่ะ
รีวิวก้อปันกันให้ฟังได้ไหมคะ อะไรทำให้เลือกใช้บริการของก้อปันกัน?
ตอนแรกหนูติดต่อไปหลายที่ค่ะ ขอคำแนะนำ คำปรึกษาเรื่อง Bow Valley College แต่ว่าบางเอเจนซี่เขาก็ไม่มีข้อมูล เพราะหนูไม่ค่อยรู้อะไรเลยค่ะตอนนั้น แต่ก้อปันกันหาข้อมูลมาให้ครบทุกอย่างเลย หนูอยากรู้อะไรก็ส่งมาให้หมด หนูรู้สึกว่าก็ดีเลยค่ะ ตอนนั้นให้พี่เขาช่วยตั้งแต่สมัครเรียน เตรียมเอกสาร ยื่นวีซ่า รู้สึกว่าตอนนั้นไม่มีปัญหาเลย เหมือนทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนที่พี่เขาวางไว้หมดเลย และก็ชอบระบบ portal ที่มีเช็คลิสท์ให้ว่าเราต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง มันทำให้เราเห็นว่าเราอยู่ขั้นตอนไหนแล้ว ใกล้เสร็จรึยังประมาณนี้ค่ะ แล้วก็ตอนที่เพิ่งมาถึงที่นี่ พี่กันต์ให้พี่ที่อยู่ที่นี่พาทัวร์รอบดาวน์ทาวน์ ทำความรู้จักกับเพื่อน ๆ คนไทย ก็รู้สึกว่าโอเคเลยค่ะ อีกอย่างนึงที่หนูฝากคือเรื่องที่พักค่ะ ก็คือมันเป็นปัญหาอยู่นะ สำหรับคนที่เดินทางคนเดียว หรือไม่ได้รู้จักคนที่แคนาดา เผื่อทางก้อปันกันจะมีแผนรับหาที่พักด้วยก็น่าจะดีค่ะ แต่เรื่องอื่น ๆ หนูโอเคหมดทุกอย่างเลยค่ะ