[รีวิว] เรียนต่อแคนาดา Langara College หลักสูตร Post Degree in Web and Mobile Application Design and Development โดย คุณเจี๊ยบ

อะไรทำให้ตัดสินใจมาเรียนต่อที่แคนาดา ?

จริง ๆ เริ่มจากมีกระแสโยกย้าย มันทำให้รู้ว่า อายุขนาดเราก็ยังสามารถไปเรียนต่อได้ ประกอบกับตอนเด็ก ๆ เราก็อยากมาใช้ชีวิตต่างประเทศนานแล้ว แล้วในสายงานที่เราทำ เราอยู่ในจุดที่พอใจกับสิ่งที่เราทำสำเร็จแล้ว ตอนนี้ก็เลยอยากเรียนต่อทางด้าน Programming และ Development เพิ่ม พอเปรียบเทียบกับสิ่งที่ตัวเองมีและเป็นอยู่ตอนนี้ ก็รู้สึกว่าเราน่าจะไปเรียนได้ ก็เลยเริ่มศึกษา หาข้อมูล แล้วพบว่าแคนาดาเป็นตัวเลือกที่ดี

ทำไมเลือกประเทศแคนาดา ?

เหตุผลแรกเลยคือ ความเป็นมิตรของผู้คนที่แคนาดา และเรามีสิทธิได้ Work Permit หลังเรียนจบ เรารู้สึกว่าประเทศแคนาดามีนโยบายรองรับผู้อพยพที่ดี เขาให้โอกาสสำหรับคนที่มาเรียนและมีศักยภาพทำงานต่อเพื่อช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศเขาได้ ซึ่งตัวเราไม่ได้มุ่งว่าจะต้องได้ PR แต่เป้าหมายตอนนี้คือตั้งใจทำ 5 ปี ที่อยู่ที่นี่ให้ดีที่สุดก่อน (มาเรียน 2 ปี ทำงานต่ออีก 3 ปี)

ทำไมถึงเลือกเรียน Web and Mobile Application Design and Development ที่ Langara ?

ตอนแรกเราเลือกคอร์สเรียนที่โรงเรียนอื่นก่อนแล้วเอาไปปรึกษาเพื่อนที่กำลังจะมาเรียนเหมือนกัน แล้วพอดีเพื่อนเราแนะนำคอร์ส Web and mobile application development ที่ Langara College เมือง Vancouver และอธิบายเรื่องนโยบายของรัฐที่รองรับสายงานด้านนี้ เราเลยเลือกคอร์สนี้ เราจะได้เรียนเกี่ยวกับพื้นฐานของการสร้างเว็บ ในด้านการ Design จะเรียน User Interface, User Experience และ การ Development จะเป็นส่วนการเขียนโค้ด HTML, CSCS, JAVA Script ตั้งแต่พื้นฐานเลย พอเทอม 2, 3 และ 4 เขาจะเริ่มแยกสายละว่าถ้าคุณเลือกสาย Design คุณก็จะเรียนลงลึกเกี่ยวกับ Advance Graphic, Advance UX, 3D, Video ส่วนฝั่ง Development ที่เราเรียนอยู่ เราก็จะแยกไปเรียนลึกขึ้นเกี่ยวกับภาษาแต่ละอย่างที่เราใช้พัฒนา Website หรือ Mobile และอื่น ๆ

ได้ยินว่าคุณเจี๊ยบได้รับรางวัลเรียนดี ช่วยเล่าเกี่ยวกับที่มาที่ไปของรางวัลนี้ให้ฟังหน่อยได้ไหมคะ ?

เราว่าอาจจะเป็นเพราะเราโชคดีด้วยมั้ง ด้วยสายที่เราเรียนมา เราเข้าใจงาน Design อยู่แล้ว ต้องบอกว่าเทอมแรกมันเป็นวิชาพื้นฐาน คือ นักเรียนจะเรียนรวมกัน ครึ่งหนึ่งเป็นวิชา Design อีกครึ่งหนึ่งเป็นวิชา Development และเรามีพื้นฐาน Design อยู่แล้ว และก่อนที่จะมาเรียน เราก็เตรียมตัวที่จะมาเรียน ไปเรียนคอร์ส HTML หรือ Java Script คือเตรียมตัวมาเยอะพอสมควร พอมาเริ่มเรียนเทอมแรกมันก็เลยทำให้เราเข้าใจทั้งสองส่วน อย่างที่บอกว่าเป็นคนชอบเรียน ตั้งใจมาเรียนเต็มที่ ทุกวิชาเลยได้ A+ ซึ่ง A+ ที่นี่คือ 95% ขึ้นไป ตอนแรกไม่รู้ว่าจะได้รางวัล แค่เราได้ A+ ก็ดีใจกับตัวเองรู้สึกเป็นเกียรติเป็นศรีกับชีวิตตัวเอง คือเรียนด้วยความอยากเรียนจริง ๆ แล้วมีอยู่วันหนึ่งมีอีเมลส่งมาบอกว่าเราได้ทุน ชื่อว่า Academic Success เทอมนึงจะมีรางวัลเดียว เขาบอกว่าได้รับทุน 1,500 เหรียญ เดี๋ยวจะส่งอีเมลมาให้เข้าไปรับเงินสัปดาห์หน้านะ เราก็แบบเห้ย ดีใจว่ะ เราไม่รู้ว่ามีรางวัลนี้ พอได้ก็รู้สึกเกินความคาดหวัง และก็รู้สึกเราตั้งใจว่ะ สิ่งนี้เป็นกำลังใจให้ตัวเราเอง เพราะเทอมสองเนื้อหาก็ยากขึ้นมาก

หลังจากเรียนแล้วคิดว่าได้อะไรจากที่นี่บ้าง มีอะไรที่ประทับใจหรือไม่ประทับใจเกี่ยวกับโรงเรียนนี้บ้างคะ ?

สิ่งที่เห็นได้ชัดเลยจากที่นี่ คือ อาจารย์เขารักในสิ่งที่เขาสอนอ่ะ เวลาเขาพูดถึงสิ่งที่เขาสอน ดวงตาเขาดูเป็นประกาย อันนี้เราว่าเป็นคุณสมบัติที่สำคัญมากสำหรับคนเป็นอาจารย์ อย่างวิชาล่าสุดที่เรียน คือ Programming ปกติทุกวิชาจะมีพัก 10 นาที แต่อาจารย์คนนี้คือไม่เบรก คือเขาสนุกกับสิ่งที่สอน สอน 2 ชั่วโมงยาวเลย บางทีก็สอนเกินเวลา คือเรารู้สึกได้ว่าเวลามาเรียน เราจะได้เรียนกับคนที่เขาอยากสอน

อีกอย่างที่ประทับใจคือ อาจารย์ที่นี่อาจจะเป็นเพราะความเป็นต่างชาติ หรือ ความเป็น Canadian มันไม่มีคำว่าอาจารย์อ่ะ เขาจะเรียกตัวเองว่า Instructor เวลาเรามีคำถามเกี่ยวกับ Material, Course Content หรือ Assignment บางทีอาจารย์ลืมเขียน หรือเขียนอะไรผิดไปในตัวเนื้อหา เราจะไม่กลัวที่จะไปทักท้วง คืออาจารย์เขาพร้อมที่จะฟังเรา เคยมีครั้งหนึ่งที่ทำการบ้าน เราโดนตัดคะแนนแล้วเราดูแล้วว่าอันนี้เราไม่ผิด เราก็จะรู้สึกไม่กลัวที่จะเดินเข้าไปบอกเขาว่า อันนี้เราไม่ผิด พอเข้าไปบอกเขา เขาก็ดูให้อีกรอบแล้วมันไม่ผิด เขาก็แก้คะแนนให้เลย เพราะระบบของเขาคือ บางวิชาอาจารย์เขาจะตรวจด้วยตัวเอง แต่บางวิชาเขาจะจ้าง Marker เราชอบในความที่เขาเปิดรับฟังในสิ่งที่นักเรียนทักท้วง หรือบางวิชา มันจะมีจุดที่เขาตอบไม่ได้ เขาจะบอกเราเลยว่า อันนี้ยังตอบไม่ได้นะ เดี๋ยวขอเวลาไปหาคำตอบให้ก่อน ถ้ามันเลยเวลาก็ไม่เป็นไร ให้คุณส่งงานมาก่อน แล้วเดี๋ยวเราค่อยว่ากัน ส่วนเรื่องที่ไม่ประทับใจ ไม่ค่อยเจอนะ อาจจะเป็นคนที่ไม่ค่อยไม่พอใจกับอะไรเท่าไหร่ 5555555

หลังจากมาอยู่ที่นี่แล้วชอบไหมคะ ประเทศนี้ เมืองนี้ มีข้อดี-ข้อเสียอะไรบ้าง ?

โอ๊ยยยแบบที่แวนคูเวอร์คือดีมาก เราแฮปปี้กับทุกอย่างยกเว้นค่าบ้าน คืออากาศดีมาก เป็นความหนาวที่ไม่หนาวมาก มันเป็นจุดที่อุ่นที่สุดในแคนาดา แล้วก็ถ้าอยู่ในแวนคูเวอร์ การคมนาคมค่อนข้างสะดวก รถบัสมาตรงเวลา ฟุตบาทกว้าง ถ้าสิ่งที่คิดถึงอย่างเดียวคือ อาหารที่ไทย สิ่งที่เราทำการบ้านมาว่าแวนคูเวอร์จะเป็นยังไง ก็เป็นแบบนั้นทั้งหมด ผู้คนก็อัธยาศัยดี อย่างการคมนาคมที่แน่นอนว่าสะดวกกว่าที่ไทย ถ้าอยู่ที่ไทยเราต้องมีรถยนต์ ต้องขับรถเข้ากทม. แต่อยู่ที่นี่ ไม่จำเป็นต้องมีรถ เราไม่คิดถึงการขับรถเลย ทั้ง ๆ ที่ปกติชอบขับรถมาก การเชื่อมต่อระหว่างรถไฟฟ้ากับรสบัสมันเป็นการเชื่อมต่อจริง ๆ ที่ไม่ใช่การเดินต่ออีก 2 กิโลเมตร แต่เดินต่ออีกแค่ 50 เมตรก็ถึงแล้ว การคมนาคมมันเอื้อให้คนได้อยู่อาศัย และฟุตบาท สวนสาธารณะ หรืออากาศ ก็เอื้อให้คนได้ออกมาเดินมากขึ้น

อีกจุดที่ชอบแวนคูเวอร์มากเลย คือเมืองเขาถูกออกแบบมาให้ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน เดินไปตรงจุดไหน จะมองเห็นภูเขา เราสามารถมองเห็นวิวจากอีกเกาะหนึ่งไปอีกเกาะหนึ่งได้เลย พอไปเที่ยวก็เช่นกัน เราไปขึ้นเขา มันดีมาก เดินทางแค่ 1 ชั่วโมงก็ถึงแล้ว บางทีเพื่อนมีรถ เลิกเรียนก็ขับรถพากันไปแค่ครึ่งชั่วโมงก็ถึงแล้ว ส่วนใหญ่เราไป Park เดือนละครั้ง จริง ๆ แวนคูเวอร์มี Park เยอะมากเป็นปกติอยู่แล้ว

หลังจากเรียนจบมี plan หรือ ตัดสินใจอย่างไรต่อ ?

แน่นอนเลยว่าจะทำงานเต็ม 3 ปี ตามที่เขาอนุญาตเลย จะเก็บเกี่ยวประสบการณ์ให้ได้มากที่สุด และดูเป็นขั้น ๆ ไปว่าถ้าสมัคร PR ได้ก็ทำ แต่หลัก ๆ ก็จะทำงานให้เต็มที่ก่อน

มีข้อคิด หรือคำแนะนำอะไรสำหรับ คนที่กำลังตัดสินใจอยากมาเรียนต่อ หรือมาอยู่แคนาดาบ้างไหมคะ ?

เรารู้สึกว่า ต้องทำการบ้านให้ดีก่อนจะมา เรามาเพราะอะไร ต้องแน่ใจในจุดประสงค์ที่จะมา ทำการบ้านให้เยอะ ๆ ว่า เรามาอยู่ที่นี่ เมืองเขาเป็นยังไง อากาศเป็นยังไง อย่างเรา เราโชคดีที่มาแล้วได้เจอกลุ่มเพื่อนดีดี แบบถ้าเราตั้งใจเรียน เราก็จะดึงดูดเพื่อนที่เขาตั้งใจเรียนเหมือนกันเข้ามา ดึงดูดคนดีดีเข้ามา แต่อย่างหนึ่งที่เรารู้สึกว่าเราขาดไป และอยากให้คนที่มา ทำได้ดีกว่าเราคือ ให้ออกไปเข้าร่วมคลับหรือทำกิจกรรมบ้าง ลองดูว่า มีกิจกรรมอะไรที่เราไปสร้าง connection หรือ ทำความรู้จักผู้คนได้

อีกอย่างที่รู้สึกอยากเล่าต่อคือ กลุ่มเพื่อนที่นี่ให้ความรู้สึกว่า เขาร่วมยินดีกับความสำเร็จของผู้อื่น และเพื่อนที่นี่เขาช่วยกัน อย่างเราไม่ถนัดเรื่อง การเขียน Code เขาก็ยินดีที่จะอธิบายเรา และเวลาที่เราได้รางวัลเขาก็ร่วมยินดีกับเรา มันให้ความรู้สึกถึง Good Energy มันไม่ใช่การแข่งขันแต่มันคือการที่ทำยังไงให้ทุกคนเข้าถึงเส้นชัยพร้อมกันให้ได้มากที่สุด ถ้ามาด้วยความตั้งใจเรียน เราว่ามันมีที่ของเราอยู่

อีกเรื่องหนึ่ง มีคนบอกเราว่า ส่วนที่ยากที่สุดในการมาแวนคูเวอร์ คือ การหาบ้าน แต่เราได้บ้านตั้งแต่ 1 เดือนก่อนที่จะมาที่นี่ คือคนอื่นบางคนมาที่นี่ เป็นเดือน 2 เดือนแล้วยังไม่ได้บ้านเลยก็มี เราว่าเป็นความโชคดีของเราหลายอย่าง เวลาหาบ้าน โอกาสในการทักไปมันมีแค่ครั้งเดียว เราเตรียม Resume เตรียม Reference เขียนจุดประสงค์ไปให้ครบว่า เราจะไปแคนาดาเพื่ออะไร พอเตรียมทุกอย่างไปครบ มันทำให้ผู้เช่าเขาพิจารณาเราง่ายขึ้น และไม่เสียเวลากันทั้งสองฝ่าย พอเราได้บ้านทุกอย่าง ก็จะง่ายละ

ใช้เวลาเตรียมตัวนานไหมคะ ที่จะมาแคนาดา ?

ทุกอย่างในชีวิต คือการส่งผลให้เรามาที่จุด ๆ นี้ การชอบภาษามาตั้งแต่เด็ก ๆ ได้ทำงานบริษัท Global ที่เราได้ใช้ภาษาอังกฤษ พอถึงเวลาที่สอบมันทำให้เราไม่ต้องไปเตรียมตัวอะไรเพิ่มเลย ถ้าถามว่า เตรียมตัวจริง ๆ คือ ทุกการตัดสินใจมันพาให้มาถึงจุดนี้ แต่ถ้าถามว่าเวลาที่ตัดสินใจเตรียมตัวจะมาแคนาดาจริง ๆ เวลาคิด พิจารณา หาข้อมูลทั้งหมด คือ 6 เดือน

หลังจากที่คิดเตรียมตัวมา 6 เดือน สุดท้ายอะไรทำให้เลือกใช้บริการของก้อปันกัน?

เออ คือจริง ๆ การเลือกเอเจนซี่ เป็นเรื่องที่ค่อนข้างเครียด สำหรับเรา ขั้นตอนการสมัครเรียนเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ถ้าเราเตรียมทุกอย่างมาพร้อมแล้ว แล้วถ้าตรงนี้มันผิดอ่ะ คือมันเหมือนก้าวสุดท้ายที่พลาด บางคนที่เก่งกว่าเรา เขาอาจจะสมัครด้วยตัวเอง แต่เราอยากใช้เอเจนซี่ เพื่อต้องการแน่ใจว่าทุกขั้นตอนที่สมัครมันถูกต้องและอยู่ในไทม์ไลน์ คือกระแสโยกย้ายมันเกิด แล้วบรรดาเอเจนซี่ก็เริ่มดังเหมือนกัน เราก็ค้นหา Google, Facebook จนไปเจอวีดีโอของก้อปันกัน ที่เขาพูดเรื่องการสมัครเรียนในแคนาดา วีดีโอรู้สึกจะยาวประมาณครึ่งชั่วโมงหรือ 1 ชั่วโมงประมาณนั้น คือเราไม่รู้ทำไมเวลาวีดีโอที่เขาพูดเรื่องสมัครเรียนมันจะมีความกั๊ก ๆ หน่อย ดูแล้วมันไม่เคลียร์ว่าตกลงแล้วเราต้องทำอะไรบ้าง แต่วีดีโอของคุณกันต์เป็นวีดีโอแรกที่เราดูจบแล้วแบบ อ๋อ ขั้นตอนมันมีแค่นี้เอง มันเคลียร์ในสิ่งที่เขาอธิบาย มีขั้นตอน 1,2,3,4,5 แล้วพอเราดูเขาจบ เราก็เห็นภาพว่าเราต้องทำอะไรบ้าง เราก็จดชื่อเอเจนซี่ไว้เลย แล้วพอเราไปคุยกับเพื่อนเรื่องที่สมัครเรียนที่ Langara เพื่อนเราเขาก็สมัคร Langara ผ่านเอเจนซี่ ก้อปันกัน เราเห็นว่าเป็นชื่อเดียวกับที่เราจดไว้ ก็คิดเลยว่า นี่ต้องเป็น Destiny แน่เลย 555555 ก็เลยติดต่อไป

สิ่งที่ประทับใจมาก ๆ คือระบบ Portal หลังบ้านของเขา บอกชัดเจน เป็นขั้นเป็นตอนมาก เขาต้องโปรโมทเรื่องนี้ให้มากกว่านี้ เราใช้แล้วมันทำให้เราเกิด Peace of mind เรารู้ว่าเราถึงขั้นตอนไหน ต้องทำอะไรต่อ เราไม่จำเป็นต้องติดต่อเขาตลอดเวลาว่าเราต้องทำอะไรต่อ สำหรับเรา มันทำให้เราจัดการเวลาง่าย มีอีกอย่างที่ชอบคือ เขาไม่ได้รีบรับเรา ที่นี่เขาต้องให้เรากรอกข้อมูลอย่างละเอียดก่อนถึงจะรับเรา ไม่ได้รีบรับลูกค้าเหมือนเจ้าอื่น คือเราทำงานมา เราเข้าใจเลยว่า ก่อนที่เราจะรับลูกค้า เราต้องรู้จักลูกค้า รู้จุดประสงค์ของเขา ลูกค้าพร้อมมากน้อยแค่ไหนก่อน ทั้งหมดนี้เป็นเหตุผลว่าทำไมเราประทับใจก้อปันกัน

นัดหมายพูดคุยผ่าน