รีวิว เรียนหลักสูตร Retirement Residence Management ที่แคนาดา
กับสถาบัน Humber College โดยคุณกิ๊ฟ
อะไรทำให้ตัดสินใจมาเรียนต่อที่แคนาดา?
พอช่วงโควิด แฟนกิ๊ฟทำงานตลอด แล้วพอผ่านพ้นช่วงโควิดมา มันหมดไฟ ตอนนั้นเลยอยากไปลองทำอะไรใหม่ ๆ ที่เปลี่ยนสภาพแวดล้อมดู เขาเลยตัดสินใจไปลงคอร์สเรียนระยะสั้นดู เรียน 3 เดือน ฝึกงาน co-op 3 เดือน ไม่ได้ตั้งใจอยู่ยาวเลยค่ะ แต่พอมาแล้ว เขาก็ว่าน่าสนใจดี และช่วงนั้นก็มีอินฟลูหลายคนแนะนำ และมีเพจย้ายประเทศกันเถอะ เราก็อยู่บ้านเฉย ๆ เพราะโควิด ก็หาข้อมูลไปเรื่อย และหางานที่ไม่ใช่ท่องเที่ยว ซึ่งก่อนโควิดกิ๊ฟทำอยู่สายการท่องเที่ยวมาก่อน และลูกค้ากิ๊ฟส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุเยอะ พอเจอโควิดอยากเปลี่ยนสาย แล้วก็ไปเจอว่ามีอุตสาหกรรมของผู้สูงอายุที่น่าสนใจ อย่างที่ยุโรปเป็นวิถีชีวิตของเขาผู้สูงอายุเมื่อเกษียณแล้วจะไม่ค่อยอยู่บ้านตัวเอง เขาจะขายบ้านและไปอยู่บ้านพักผู้สูงอายุ เพราะเขาไม่มีลูกหลานคอยดูแล ซึ่งคนที่เข้าไปอยู่จะต้องสามารถช่วยเหลือตัวเองได้นะ แต่มีคนเตรียมอาหาร ซักผ้าให้ อย่างที่ไทยผู้สูงอายุมักจะอยู่ที่บ้านตัวเอง มีแค่ที่บ้านบางแคมั้งที่เรารู้
ตอนนั้นก็หาที่เรียนหลักสูตรทางด้านนี้ ในตัวเลือกมีอังกฤษ เนเธอแลนด์ อเมริกา แต่ไม่ค่อยอินกับอเมริกาเท่าไหร่ เลยมาดูแคนาดา แล้วคิดว่าถูกจริตกับเรา แล้วก็ค้นหาจนไปเจอคุณกันต์ ตอนนั้นคุณกันต์พาตัวแทน Humber College มาพรีเซนต์โรงเรียนเขา เราฟังมาหลายโรงเรียนมาก แต่พอฟังของ Humber แล้วเราชอบ พอเข้าไปหาตัวหลักสูตร ก็เห็นว่าเขามีชื่อนี้เลย เป็นหลักสูตรที่เราอยากเรียน เป็นระดับสูงกว่าปริญญาตรีเราไม่อยากเรียนสองปีแล้ว อยากเรียนแค่ปีเดียว พอเจอและดูรีวิวคอร์ส บวกกับค้นหา Senior living ของแคนาดา เขาเป็นผู้นำตลาดเลยค่ะ เพราะประชากรผู้สูงอายุเขาเยอะมาก แต่ละ college เลยเริ่มเปิดสอนเพื่อรองรับตลาด อย่าง Humber college หลักสูตรที่กิ๊ฟเรียนเป็น รุ่นที่ 2 อาจารย์ที่มาสอนส่วนใหญ่ก็จะมาจากแต่ละองค์กรที่ดูแลผู้สูงอายุ ที่นี่จะไม่ใช่โรงพยาบาล แต่จะเป็นกึ่ง ๆ โรงแรม ทุกแบรนด์เขาต้องการเปิดตึกใหม่ เขาเลยต้องการคนในส่วนนี้เยอะมาก และกิ๊ฟก็ค่อนข้างมีความรู้สึกที่บวกกับผู้สูงอายุด้วยค่ะ
การเรียนการสอนในหลักสูตรนี้ได้เรียนเกี่ยวกับอะไรบ้างคะ?
จริง ๆ สำหรับคนที่สนใจแต่ไม่มีพื้นฐานอะไรมาก่อนเลยแบบกิ๊ฟ สามารถเรียนได้นะคะ มันคือการจัดการ Retirement home กิ๊ฟอธิบาย retirement home ก่อนนะคะ ปกติที่ผู้สูงอายุเข้ามาอยู่ เขาจะเลือกว่าบ้านนี้มี Facility อะไรให้เขาบ้าง อาหารกี่มื้อ ห้องเป็นประเภทไหน ในส่วนของ Wellness ก็จะมีพยาบาลมีแพทย์มานั่งตรวจ ซึ่งการรักษาพยาบาลของที่นี่ เป็นเหมือนที่ไทยคือ รักษาฟรี แต่ที่แคนาดาจ่ายค่ายาเอง ที่นี่คนไข้ต้องรักษากับคุณหมอประจำตัว แต่หมอประจำตัว คิวก็จะยาว ในแต่ละที่ จะมีหมอมานั่งให้คำปรึกษาอาทิตย์ละครั้ง เพื่อดึงดูดให้คนเข้ามาใช้บริการ และก็มีพยาบาล คอยดูแล คอยช่วยเหลือตอนกินข้าว กินยา มีกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อช่วยฝึกให้ผู้สูงอายุสามารถใช้ชีวิตอยู่ได้ด้วยตัวเองไปได้นานเท่าที่จะนานได้ เพราะฉะนั้นคนที่เรียนต้องเรียนทุกส่วนที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจด้านนี้ หัวใจหลักของการดูแลผู้สูงอายุคือ การบริการให้เขา กินดี อยู่ดี มีสภาพแวดล้อมที่ดี ซึ่งในส่วนสภาพแวดล้อมก็ต้องเรียนเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมแบบไหนที่เหมาะกับผู้สูงอายุ เรียนการจัดการการเงิน งบประมาณต่าง ๆ และต้องเข้าใจว่าอุตสาหกรรมนี้จะดำเนินไปในทิศทางไหน
หลังจากเรียนหลักสูตรนี้ แล้วเป็นยังไงบ้าง?
ก็ชอบนะ อย่างเดียวที่ไม่ชอบของ Humber คือมันไกล แต่เราเลือกที่จะอยู่ในเมืองเองแหละ กิ๊ฟเรียนอาทิตย์ละ 4 วัน ก็เลยต้องนั่ง subway ไปต่อรสบัส ทั้งหมดใช้เวลาไป-กลับ 1 ชม. เหนื่อยเดินทางค่ะ
ในคลาสส่วนใหญ่เป็นอินเดีย มีจีน ฟิลิปปินส์ แคนาดา เม็กซิโก หลังเรียนจบส่วนใหญ่จะไปทำในแต่ละ department คือถ้าเราเรียนจบและจะไปทำสาย management เลยจะยาก เพราะเรายังไม่มีประสบการณ์ก็ต้องเริ่มจากตำแหน่ง Junior ในแต่ละ department ทีนี้ในแต่ละ department อย่างเช่นถ้าเราจะไปทำในสาย wellness คือส่วนของ หมอหรือพยาบาล ก็ไม่สามารถทำได้ นอกจากเราจบหลักสูตร PSW มาถึงจะสามารถทำได้ อย่างกิ๊ฟสนใจ Hospitality ระหว่างเรื่องกินกับเรื่อง activity ต่าง ๆ ตอนฝึกงานก็เลยพยายามเก็บประสบการณ์ทางด้านที่เราสนใจ เราว่าเราคิดถูกนะที่เลือกมาเรียนหลักสูตรนี้ คือ มันทำให้เรามองเห็นภาพว่า อุตสาหกรรมเกี่ยวกับผู้สูงอายุในอนาคต ประเทศเราก็จะเป็นแบบนี้แหละ ผู้สูงอายุจะอายุยืนขึ้น เราต้องทำให้เขาช่วยเหลือตัวเองได้มากและนานที่สุด ไม่งั้นเราต้องหาคนมาคอยดูแลแต่ผู้สูงอายุตลอด แบบคนหนุ่มสาว 1 คน ดูแลผู้สูงอายุ 1 คน แบบ 1:1 ซึ่งมันเปลืองทรัพยากรคน เรารู้สึกว่าหนุ่มสาวควรไปทำอะไรที่ช่วยพัฒนาโลก เทคโนโลยีหรือนวัตกรรมใหม่ ๆ ดีกว่า
Humber College มีบริการอะไร Support นักเรียนบ้างคะ?
Humber เขามี 3 campus คือ North, Lakeshore และ International graduate school (ในเมือง) แต่ของกิ๊ฟอยู่ที่ North campus ข้อดีของที่นี่ มันใหญ่มาก มี Facility ให้ใช้เยอะมาก มีฟิตเนส สระว่ายน้ำใหญ่มากขนาดแบบโอลิมปิกเลยค่ะ มีสนามบาส มีฝังเข็มด้วย เพราะเขามีหลักสูตรแพทย์แผนตะวันออก นักเรียนสามารถจองใช้บริการได้ ราคาจะ cover อยู่ในประกันเรา มีคลินิกทำฟัน มีสวนหลังแคมปัสใหญ่มาก สามารถเดินเล่นได้ทุกฤดูเลย คุ้มมากที่นี่
ช่วยแชร์ประสบการณ์การหางานและการทำงานที่โทรอนโตได้ไหมคะ?
ในสายงานของ Senior living ค่อนข้างหางานยาก อาจารย์บอกตั้งแต่บท career development ว่าเราต้องสร้าง connection กับคนในอุตสาหกรรมนี้ และการไปทำ volunteer สำคัญมาก เราจะได้รู้จักผู้คนและถ้ามีโอกาสเข้ามาเราอาจจะได้งาน อันแรกที่กิ๊ฟได้งานคือ Belmont เคยเป็นที่พักของภรรยาทหารผ่านศึกมาก่อน ผู้หญิงที่สามีที่เป็นทหารไปรบแล้วเสียชีวิตสมัยก่อน เมื่อร้อยปีก่อน เขาก็อยู่รวมกันเป็น community และได้พัฒนามาเป็น senior living ในปัจจุบัน อีกที่คือ ฮาเซลตัน ค่อนข้าง high-end มีสิ่งต่าง ๆ ที่ให้บริการเหมือนโรงแรม 5 ดาวเลย คือจริง ๆ เขาให้ทำแค่ที่เดียว แต่เพราะที่แรกเราได้ทำแค่ส่วนของ dining คือ อาหารการกิน เราก็เลยไปปรึกษาอาจารย์ และด้วยอาจารย์เขาเป็น Regional manager ของที่พักผู้สูงอายุแห่งหนึ่ง เขาเลย reference เราให้กับ GM ของที่ฝึกงานที่สองของกิ๊ฟ ก็เลยได้มีโอกาสได้ฝึกงานทั้งสองที่เลยค่ะ ตอนนี้กิ๊ฟฝึกงานและเรียนจบแล้ว ตอนนี้รอแค่เอกสาร PGWP อนุมัติค่ะ
มีวิธีการหาที่พักที่แคนาดาอย่างไรคะ?
เริ่มต้นคือแฟนกิ๊ฟเดินทางมาก่อน เขาก็เช่าบ้านอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นตอนเรามาอยู่ก็เลยไม่ต้องหาอะไรเพิ่ม แต่ตอนที่เขาจะมาเราก็ช่วยเขาหา เวลาที่เรายังมาไม่ถึงแคนาดา เราก็ยังไม่รู้ว่าสภาพแวดล้อมจริง ๆ มันเป็นยังไง เลยเลือกเช่าสัญญาระยะสั้นก่อน ก็ได้ที่นึงเป็นบ้าน Shared house อยู่ชั้นสอง และแชร์ common area แต่ตอนนี้ย้ายเข้ามาอยู่ในเมืองแทน ใกล้ที่ทำงานเลย กิ๊ฟปั่นจักรยานมาทำงานค่ะ ส่วนเรทที่พักตอนนี้ คนละประมาณ 1,000 กว่า ๆ สองคน 2,000 CAD แต่ถ้าเช่าอยู่ห้องพักของตัวเองเลย ราคา 2,500 CAD แต่ห้องจะเล็ก แต่ละที่กิ๊ฟจะหาใน Facebook marketplace ต้องมาดูบ้านให้เห็นกับตาตัวเองก่อน ถึงค่อยทำสัญญาจ่ายเงินนะคะ ห้ามโอนเงินให้เขาก่อน เพราะ Scam เยอะมาก
เมือง Toronto เป็นยังไง หลังจากอยู่แล้วเมืองนี้มีข้อดีและข้อเสียอะไรบ้าง?
กิ๊ฟชอบนะ เพราะมันเดินง่ายเป็นบล็อกๆ หลัก ๆ ที่มาเมืองนี้เพราะ ขนส่งสาธารณะมันสะดวก กะไม่ซื้อรถอ่ะ อย่างคอนโดที่อยู่ล่าสุด เลือกเพราะมีร้านซุปเปอร์อยู่ข้างล่าง เราจะไม่เดินเยอะค่ะ 55555 นอกจากนี้ที่นี่ก็มี park เยอะ เครียด ๆ ก็ไปเดินเล่น มีแม่น้ำ ทะเลสาบ และที่นี่เขาเลี้ยงสุนัขกันจริงจังมาก ชอบไปนั่งเล่นดูสุนัขที่ park ส่วนกิจกรรมที่นี่ เขามีอะไรทำกันเยอะเลยค่ะ ปั่นจักรยาน เล่นกีฬา มีสระว่ายน้ำ มีสนามบาส มีห้องสมุด หรืออย่างที่บอกว่าที่นี่มันค่อนข้างอาศัย connection เราชอบหรือสนใจอะไรก็ไปขอ volunteer กับเขา อย่างเสาร์นี้กิ๊ฟจะไป Alzheimer society เป็นสถาบันที่เขาคอยดูแลผู้ป่วยสมองเสื่อมทั้งหมด และเวลาเป็นอาสากับที่นี่ เขาจะให้ไปดูแลผู้ป่วย และผู้ดูแลผู้ป่วย เขาจะมีกิจกรรม support ทั้งสองฝ่าย กิ๊ฟคิดว่าเราจะได้ทั้งความรู้และ connection จากที่นี่ค่ะ
มีข้อคิด คำแนะนำอะไรสำหรับคนที่กำลังตัดสินใจอยากมาเรียนต่อหรือมาอยู่แคนาดาบ้างไหม?
ให้ระวังเรื่อง subway เพราะมีคนแปลก ๆ เยอะ มันปลอดภัยนะ แต่ต้องดูแลตัวเอง มีเพื่อนกิ๊ฟคนนึงเป็นคนจีนเขาไม่ขึ้น subwayเลย ขึ้น Uber ตลอด อีกอย่างคิดว่าแคนาดาเปลี่ยนนโยบายตลอด พอเปลี่ยนรัฐบาลเขาน่าจะจำกัดผู้มาเรียนเยอะขึ้น ถ้ามีตัวเลือกอื่นลองพิจารณาตัวเลือกอื่น ๆ ดูก็ได้ค่ะ แต่ถ้าอยากมามาก ชอบแคนาดามาก ก็มาเลย ลองมาใช้ชีวิตดูค่ะ แต่ถ้าเป็นคนที่ไม่เคยออกจากประเทศเลย อาจจะ culture shock หรือเป็น homesick ได้ ลองไปเที่ยวดูก่อนก็ได้ ทริปสั้น ๆ นอกประเทศ หรือประเทศที่ใกล้ๆ ประเทศเรา ลองไปประเทศที่เขาไม่มีคนไทยเลย เราอย่าเพิ่งไปพึ่งร้านอาหารไทย เมื่อไปอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่มีคนไทยเลย เราจะหางานยังไง เอาตัวรอดยังไง แล้วค่อยคิดอีกทีว่าเราเดินทางข้ามทวีปมาเราจะไหวไหม และก็เรียนอะไรก็ได้ที่เรามี passion มันไปได้ไกลกว่า อย่าเลือกมาเรียนเพราะเขาบอกว่าง่าย เพราะมันไม่มีอะไรง่ายค่ะ 555555
รีวิวก้อปันกันให้ฟังได้ไหมคะ อะไรทำให้เลือกใช้บริการของก้อปันกัน?
อย่างที่บอกว่าหาข้อมูลเรื่องคอร์สเรียนและเข้ามาฟังคุณกันต์ตั้งแต่แรก ตัดสินใจใช้บริการเพราะความชอบ เรารู้สึกถูกจริตด้วย จากวิธีคิด วิธีการทำงานของเขา น่าจะคุยกันรู้เรื่อง เพราะการเตรียมตัวมาเรียนต่อไม่ใช่การซื้อบริการแล้วให้เขาทำให้ทั้งหมด เราก็ต้องเตรียมตัวในฝั่งของเราด้วย เราต้องรู้ข้อมูลต่าง ๆ ไม่ใช่เหมือนจะไปเที่ยวและให้เขาแพลนให้หมด เราต้องรู้ว่าจะไปอยู่ที่ไหน เรียนอะไร ต้องรู้ว่าเงื่อนไขตัวเองเป็นยังไงและจะไปยังไง ถ้ามีใครมาเรียนต่อก็แนะนำเลย และก็ชอบระบบการจัดการของเขาค่ะ ส่วนสิ่งที่อยากให้พัฒนาให้ดีขึ้น เรารู้สึกว่า KPG ไม่ค่อยยิงแอด อย่างเราเป็นคนที่สนใจอยู่แล้ว ยังไงก็กดเข้ามาดูหน้าเพจแน่ ๆ แต่สำหรับคนอื่น อาจจะไม่เห็นอัปเดตในเพจ คิดว่าควรทำการตลาดเพิ่มนิดนึง เราอยากให้เอเจนซี่ดีดี มีคนใช้เยอะ ๆ