ประสบการณ์เรียนภาษาอังกฤษ 3 เดือนที่เซบู
โดย พรกนก แนะแก้ว (จ๋า)
สถาบัน SMEAG (Sparta Campus)
หลักสูตร ESL
1.ก่อนไปพื้นฐานภาษาอังกฤษเป็นยังไงบ้าง ?
พี่จบอังกฤษธุรกิจมา พื้นฐานตอนที่เรียนก็โอเคนะ แต่พอมันไม่ได้ใช้มา 5-6 ปี ภาษาอังกฤษมันก็หายไปบ้าง ไม่ถึงขั้นเลวร้ายขนาดนั้นแต่ก็ไม่ได้ดีมาก ยังพอพูดได้นิดหน่อยแต่ฟังไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ แต่บางคำถามง่ายๆ ก็พูดโต้ตอบได้นะ
2. เป้าหมายในการเรียนภาษาอังกฤษคืออะไร ทำไมถึงอยากเรียนภาษาอังกฤษ ?
อันดับแรกเลย พี่อยากเอามาใช้ในงาน พี่มีร้านขายเครื่องประดับ เครื่องเงิน เลยต้องการเรียนภาษาอังกฤษเพื่อรับออเดอร์ของคนต่างชาติ และอีกเหตุผลนึง คือ เผื่อไปเที่ยวต่างประเทศก็ไม่ต้องใช้ไกด์ พอรู้ภาษาก็ไปเองได้เลย
3. สภาพแวดล้อมโรงเรียนเป็นยังไง ?
พี่รู้ทั้ง 3 แคมปัสเลย ของ Sparta สภาพแวดล้อมก็จะเหมือนรีสอร์ท มีพื้นที่ของหอพักและตึกเรียน ทั้ง 2 ตึกนี้จะอยู่คนละฝั่งกัน มีต้นไม้ มีสระว่ายน้ำ แต่มันออกไปข้างนอกไม่ได้ทุกวัน ออกได้แค่วันเสาร์ – อาทิตย์ สำหรับคนที่ต้องโฟกัสกับการเรียน ไม่เน้นเที่ยว แคมปปัสนี้เหมาะเลยนะ ครูที่นี่เฟรนด์ลี่มาก เฮฮาปาร์ตี้ มีความสุขกับการเรียน แคมปัสนี้จะไกลสุดจากทั้ง 3 แคมปัสแต่เขาจะย้ายไปอยู่ใกล้ๆแคมปัส Classic ในช่วงปลายปี พี่อยู่หอพักธรรมดาในโรงเรียนแต่ที่นี่จะมีหอพักแบบ Premium ในบ้านนึงจะมี 3 ห้องนอน 2 ห้องนอน จะมีครูประจำบ้าน 2 คน สภาพแวดล้อมก็สวยดี ดูใหม่กว่าหอพักในของ Sparta แต่มันจะอยู่ห่างจากโรงเรียนหน่อย ต้องนั่งรถโรงเรียนเข้ามา มียามพร้อม ปลอดภัย
แคมปัส Capital จะเป็นตึก ชั้น 1 – 2 เป็นพวก Office กับ ห้องอาหาร ส่วนชั้น 3 – 5 เป็นหอพัก ตอนนั้นพวกพี่ Transfer จาก Sparta ไป 6 คน อีกสัปดาห์นึงถัดมากลับมา 4 คนเลย ตอนนั้นพี่เครียดมากเลยย้ายกลับมา ถ้าเรียน ESL การเรียนการสอนไม่ค่อยต่างกันนะ แต่สภาพแวดล้อมที่นี่มันเครียดกว่า ในความรู้สึกส่วนตัวของพี่นะ พี่รู้สึกว่าตอนมาอยู่ที่ Capital ไม่ค่อยมีความสุขเท่าตอนอยู่ Sparta ครูที่นี่ค่อนข้างจริงจัง เขาไม่ค่อยยิ้มแย้ม เด็กนักเรียนที่นั่นก็เรียนกันจริงจังมาก มันดีสำหรับคนที่ต้องการทำคะแนนสอบพวก TOEIC, TOEFL จากที่พี่เคยสอบถามเพื่อน คนที่เคยอยู่ ESL Sparta แล้วย้ายไปพวก TOEIC เขาบอกว่ามันเครียดมาก ถึงมันจะออกข้างนอกได้ทุกวันก็เถอะแต่ที่นี่สะดวกสุดในการเดินทาง
แคมปัส Classic ก็ดีนะ ที่นี่จะมีพื้นที่ บริเวณของโรงเรียนเอาไว้ให้ทำกิจกรรมต่างๆด้วย
4. ความแตกต่างระหว่างไทยกับที่ฟิลิปปินส์ ?
เซบูมันไม่ใช่เมืองหลวงแต่มันจะคล้ายๆภูเก็ตบ้างเรา เป็นเมืองท่องเที่ยว ส่วนตัวพี่ไม่ค่อยชอบสภาพแวดล้อมเขาเท่าไหร่ มันคล้ายชุมชนแออัดบ้านเรา ถนนหนทาง การจราจรติดขัด แต่ถ้าถามว่าปลอดภัยมั๊ย พี่ก็ไม่เคยโดนอะไรนะ เคยออกไปข้างนอกกลางคืนคนเดียวก็ไม่เจออะไรนะ แต่ระวังตัวไว้ก็ดี มันก็เหมือนบ้านเราแหละแต่คนที่นี่เฟรนด์ลี่นะ ถ้ามีอะไรขอให้ช่วย เขาก็ช่วย แต่ไปไหนก็เป็นกลุ่มดีกว่า ปลอดภัยไว้ก่อน ถ้าอยากปลอดภัยก็นั่งแท็กซี่เอา เริ่มต้นที่ 40 เปโซ ใกล้เคียงกับบ้านเรา
ถ้าเป็นในตัวเมืองเซบูจะมีตึกสูง มากมาย สะอาด การเดินทางสะดวก มีรถให้เลือกหลายชนิด คล้าย กรุงเทพ แต่ถ้าออกชานเมือง บ้านเรือนก็จะเหมือนชนบททั่วๆไป มีสกปรก มีสวยงาม
5. การเรียนการสอน เรื่องสำเนียง ความใส่ใจของครูที่นั่นเป็นยังไง ?
สำเนียงจะมีออกไปทางตากาล็อคบ้าง แต่ไม่เป็นปัญหานะ บางคนกลัวมาแล้วจะติดสำเนียงเขา แต่ไม่เลย ไม่เห็นติดนะ พวกครูจะไม่ค่อยมีสำเนียงตากาล็อคมากเท่าไหร่ ถ้าคนทั่วไปข้างนอกเขาก็จะติดสำเนียงตากาล็อคอยู่ แต่มันก็ฟังไม่ยากเท่าไหร่ ที่นี่คนไทยไม่เยอะ ตอนพี่มามีพี่เป็นคนไทยคนเดียวเลย คนทั้งโรงเรียนรู้จักพี่หมดทั้งที่บางคนพี่ก็ไม่รู้จักเขานะ
แคมปัสสปาร์ต้า จะปรับตัวแค่ช่วงอาทิตย์แรกเอง ตอนแรกพอมาถึงพี่นี่อยากกลับบ้านเลย เรียนไม่รู้เรื่อง ฟังไม่ออก เพื่อนก็ไม่มี รูมเมทก็ไม่คุยด้วย จะตื่นตอนไหนก็ตามแต่เข้าเรียน 6 โมง 40 นาที ที่จริงทุกแคมปัสในช่วง 4 อาทิตย์แรกก็จะเรียนตารางแบบสปาร์ต้าหมด แต่ถ้าเรียน Sparta เขาจะบังคับให้เราเข้าเรียน Sparta เช้ากับเย็น แต่พอเราเริ่มปรับตัวได้ก็มีความสุขดี
6. สังคมที่โรงเรียนเป็นยังไงบ้าง ?
ส่วนมากเป็นคนเกาหลี ญี่ปุ่น ไต้หวัน จีน เวียดนาม ที่นี่เวียดนามเยอะนะ ช่วงแรกๆก็เกาหลีเยอะ แต่ตอนนี้พอๆกันเลย มีมองโกเลียกับรัสเซียด้วย แต่พี่ชอบเพื่อนญี่ปุ่น เวียดนามกับไต้หวัน น่ารักมาก นิสัยดี
7. ระดับภาษาอังกฤษของตัวเองตั้งแต่แรกจนถึงปัจจุบัน พัฒนาขึ้นไปมากน้อยขนาดไหน ?
ตอนมาแรกๆเราก็พูดได้แต่แบบ Simple คำถาม ประโยคทั่วไปแต่เรายังไม่สามารถเล่าเรื่องราวเป็นเรื่องๆได้ แต่ว่าตอนนี้เราก็สามารถอธิบายเหตุการณ์เป็นเรื่องราวได้ อาจไม่ตรงไวยากรณ์มาก แต่เราก็กล้าที่จะพูด ตอนแรกสอบวัดระดับได้ประมาณ 1M มันจะมี 1L 1M 1H 2L 2M 2H แล้วก็ขึ้นมานิดนึง พรุ่งนี้จะมีสอบเลเวลอีกที ตอนแรกพี่อยู่ Beginner ตอนนี้ก็ขึ้นมาเป็น Elementary ต่อไปจะเป็น Intermediate ไม่รู้จะได้ขึ้นรึเปล่า เดือนแรกเหมือนเรากำลังปรับตัวเรื่องภาษา พอมาเดือน 2 เริ่มสตาร์ท เดือนที่ 3 เหมือนเราพอได้แล้ว พี่ว่า 3 เดือนยังไม่พอหรอก แต่มันเหมือนเพิ่มความมั่นใจให้เรามากขึ้น
8. ทำไมถึงตัดสินใจไปเรียนที่ฟิลิปปินส์ ?
น่าจะเพราะว่าค่าใช้จ่าย มันเป็นการประหยัดไปในตัวเพราะเราจ่ายขนาดนี้ เราก็ไม่ต้องจ่ายอะไรเพิ่มอีกแล้ว เราเลยได้โฟกัสการเรียนอย่างเดียว ถ้าให้เด็กๆมาเรียนที่นี่ก็ดีนะ มันอยู่แต่ในโรงเรียน มีความปลอดภัย พ่อแม่ก็ไม่ต้องกังวลมาก
9. ชอบ หรือ ประทับใจอะไรในฟิลิปปินส์บ้าง ?
ถ้าเป็นพี่ พี่ก็ชอบทะเลนะ ทะเลมันสวย น้ำใส ไม่มีแบบกางเต้นท์มานอนกัน ไม่ได้เป็นโต๊ะพับ แต่ไม่ชอบอยู่อย่าง คือ จะทำอะไรก็คิดเป็นเงินเป็นทองหมดเลย อย่างบ้านเราถ้าเป็นทัวร์ 1,000 บาทก็รวมหมดเลยทุกอย่าง ค่าน้ำ ค่ากิน หมวก แว่น ค่าเรือ แต่ที่ฟิลิปปินส์ไม่ใช่ ถ้าสมมุติคิดค่าเรือ 1,000 ถ้าจะว่ายน้ำก็คิดเพิ่มอีก จะเอาแว่นก็เสียเพิ่มอีก กินข้าว ถ่ายรูปใต้น้ำก็คิดเพิ่มอีก ถ้าจะเที่ยวต้องเอาตังค์ไปเยอะๆ ถ้าเรามีทักษะการขี่มอเตอร์ไซด์ เราเช่ามอเตอร์ไซด์ก็ดีกว่า บางทีค่าเช่ารถมันแพง พอเห็นเป็นนักท่องเที่ยวก็ชอบคิดเหมา เหมือนบ้านเราอะ
ในเรื่องความประทับใจ พี่คิดว่า ทุกคนที่อยู่ที่นี่เฟรนด์ลี่ มันทำให้เราไม่กังวลและทำให้เรากล้าที่จะพูดมากขึ้น ครูทุกคนพร้อมจะสอน ผิดไม่เป็นไร ขอให้กล้าพูด กล้าแสดงออก ดีกว่านิ่งเงียบ ไม่มีใครปฎิเสธที่จะช่วยเหลือเรา เพื่อนๆที่มาเรียนที่นี่ก็นิสัยดี น่ารัก มันทำให้เราหายคิดถึงบ้านเลย ตอนพี่มาอาทิตย์แรกนี่อยากกลับบ้านมาก แต่ตอนนี้ไม่อยากกลับแล้ว
เรื่องประทับใจอีกอย่างที่ไม่รู้จะเรียกว่าประทับใจดีรึเปล่า คือ ถ้าเรานั่งแท็กซี่ เราต้องทำใจกับแท็กซี่ที่นี่นิดนึงเพราะเขาจะขับเร็ว แต่คนขับเขาจะไม่ด่านะ อย่างมากก็แค่บีบแตร ไม่ด่า ไม่ทะเลาะตบตีทะเลาะวิวาทกัน แค่บีบแตรแล้วผ่านไป ไม่มีการบ่นในรถด้วย ถ้าอย่างเป็นบ้านเรานี่ ด่าแรง บ่นในรถ แต่บ้านเขาไม่มี พี่นั่งหลายครั้งแล้วแต่ไม่เคยได้ยินเขาบ่นหรือด่าอะไรเลย แต่ขับหวาดเสียวมาก เหมือนนั่งเครื่องเล่น (หัวเราะ)
10. กิจกรรมในโรงเรียนได้ทำอะไรบ้าง ?
วันนี้มีแข่งวอลเล่ย์บอล แบบครูผสมกับนักเรียนในทีม เล่นไม่เป็นไม่เป็นไร ไปเอาความสนุกเฉยๆ และปกติจะมีจัดไปบริจาคให้เด็กกำพร้า คือ รวบรวมพวกของที่เขาบริจาคมา พวกเสื้อผ้า รองเท้า ไปยืนขาย 5 – 10 เปโซแล้วเอาเงินไปบริจาคให้เด็กกำพร้าต่อ สนุกดี เป็นประสบการณ์ ได้ใบประกาศด้วยนะ
11. สิ่งที่ประทับใจในก้อปันกัน ?
ครั้งแรกที่ขอข้อมูลได้รับข้อมูลกลับมารวดเร็วมากและใส่ใจในคำถาม พอเราถาม เขาก็หาข้อมูลมาให้เรียบร้อย ไม่รีรอ แล้วก็สตาฟหลายๆ คนที่นี่ สุภาพ นิสัยดี เป็นกันเองมากค่ะ
12. สิ่งที่อยากบอกต่อสำหรับคนที่อยากไปเรียนที่โรงเรียนนี้ ?
ถ้าต้องการเน้นพูด แคมปัสสปาร์ต้าตอบโจทย์มาก พอเด็กๆไม่สามารถออกจากโรงเรียนได้ ทุกคนไม่รู้จะไปไหน สุดท้ายเราก็ต้องอยู่ด้วยกัน หากิจกรรมร่วมกัน มันทำให้เป็นเร็ว พูดได้เร็วขึ้น แล้วทุกคนที่โรงเรียนก็พร้อมที่จะช่วย ต่อให้เราพูดไม่เก่ง เขาก็จะฟังเราด้วยความอดทน คนที่นี่เขาจะสนิทกันเร็วเพราะออกไปไหนไม่ได้ ที่นี่ก็มีให้ทำกิจกรรม มีห้องให้ดูหนัง ถ้าที่แคมปัส Capital จะเป็นแบบ Theatre เลย ตอนเย็นก็รวมกลุ่มกันไปเล่นน้ำ ที่นี่เขาจะมีบังคับโซน EOP คือ ไม่ให้พูดภาษาบ้านเกิด อย่างโซนห้องอาหาร ตึกเรียน ห้ามพูดภาษาบ้านเกิดตัวเอง พูดได้แค่ภาษาอังกฤษ หลายคนจะห่วงติดสำเนียงคนที่นี่ ก็ไม่เห็นติดนะ เกาหลี ญี่ปุ่น จีน ก็ไม่เห็นมีคนติดสักคน