[รีวิว] เรียนหลักสูตร Intensive ESL ที่ฟิลิปปินส์ กับสถาบัน Cebu Blue Ocean Academy โดยคุณต่าย

หลักสูตร Intensive ESL เรียนเป็นอย่างไร

ตอนแรกพี่กังวลมาก เพราะคิดว่าต้องเจอเพื่อนร่วมคลาสที่จำบทเรียนได้ดี ต่างคนต่างแย่งตอบคำถาม แต่พอไปถึงได้เรียนจริง ๆ โรงเรียนเขามีการวัดระดับก่อนเรียน ทำให้พี่ได้อยู่ในกลุ่มที่ระดับเดียวกัน ไม่ต้องกังวลว่าจะตามคนอื่นไม่ทัน พี่ยังได้ช่วยเพื่อนในกลุ่มที่ยังไม่ค่อยเข้าใจภาษาอังกฤษอีกด้วย ทำให้รู้สึกดีและสบายใจ

สำหรับคลาสเดี่ยว ครูใส่ใจมาก เขาจะเลือกคำที่ง่ายที่สุดมาสอน และพยายามทำให้พี่เข้าใจทุกอย่าง การที่อยู่ในคลาสแค่ 2 คนทำให้พี่กล้าถามคำถามมากขึ้น ไม่ต้องอาย เพราะไม่มีใครมานั่งฟัง อีกอย่างที่พี่ชอบมากคือ ครูที่นี่ไม่เน้นวิชาการเกินไป ทุกครั้งที่เริ่มคลาส ครูจะถามเรื่องเบา ๆ อย่างเช่น เมื่อเช้ากินอะไรมา ทำอะไรเมื่อวาน เพื่อผ่อนคลายก่อนเข้าสู่บทเรียน ทำให้คลายเครียด ไม่รู้สึกว่าเรียนตลอด 50 นาทีทุกชั่วโมงมันหนักเกินไป

พี่รู้สึกว่าครูที่นี่เก่งและตอบได้ทุกคำถาม ไม่ว่าจะเป็นวิชาหลักหรือวิชาอื่น ๆ เขายังเข้าใจการพูดของเราที่อาจจะไม่เป๊ะมาก แต่ก็ไม่เคยดูถูกหรือทำให้เรารู้สึกแย่ ซึ่งต่างจากบางที่ที่เคยเจอ ทำให้พี่รู้สึกสบายใจและมีความมั่นใจในการสื่อสารมากขึ้น

10 สัปดาห์ กับพัฒนาการที่เห็นได้ชัด

หลังจากเรียนไปได้สักพัก พี่เริ่มรู้สึกว่าตัวเองพัฒนาขึ้นมาก ทั้งในเรื่องการฟังและการพูด ก่อนที่จะรู้สึกแบบนี้ได้ พี่ต้องเตรียมตัวทุกวิชาเลย เพราะพี่ไม่เก่งภาษาอังกฤษ ต้องอ่านหนังสือทั้ง 7 เล่ม เพื่อเตรียมพร้อมก่อนเข้าเรียนทุกครั้ง การทำแบบนี้ช่วยให้เราถามครูได้มากขึ้น พี่เป็นคนชอบถาม เพราะสงสัยหลายเรื่อง ถ้าเตรียมตัวดีเราจะมีเวลาในการถามตอบกับครู และมันก็สนุกขึ้น แต่ถ้าไม่เตรียมตัวก็จะงง ทำให้การเรียนยากขึ้น จริง ๆ ภาษาอังกฤษไม่ได้ยาก ถ้าเราตั้งใจเตรียมตัวดี ๆ แถมครูก็เสริมความมั่นใจและบอกว่าเขาจะช่วยทำให้พี่พัฒนาภาษาอังกฤษให้ได้มากว่านี้อีก สิ่งที่ครูพูดทำให้พี่มีความกล้าและไม่รู้สึกกลัวที่จะสื่อสารกับคนต่างชาติอีกต่อไป การที่สามารถถามคำถามได้ทุกเรื่อง และครูพยายามทำความเข้าใจในสิ่งที่พี่สื่อ ทำให้พี่กล้าที่จะพูดและไม่ต้องพึ่งพาการยิ้มเฉยๆ เหมือนที่ผ่านมา สิ่งนี้ทำให้พี่มีความมั่นใจมากขึ้นในการใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน

สำเนียงและเทคนิคการสอนของครูฟิลิปปินส์

สำหรับพี่นะครูส่วนใหญ่มีสำเนียงที่ดี บางคนอาจติดสำเนียงฟิลิปปินส์เล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบมากนัก เพราะครูที่สอนทักษะการฟังและพูดให้พี่ มีสำเนียงที่เป๊ะมาก เทคนิคการสอนของครูที่พี่ชอบที่สุดเลยคือการสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลาย และไม่กดดันนักเรียน ทำให้พี่รู้สึกสนุกกับการเรียนและไม่เครียด

มีวิชาที่ชอบและไม่ชอบไหม?

วิชาที่พี่ชอบมากที่สุดคือ Listening เป็นการฝึกฟังจาก Radio และคอมพิวเตอร์ ครูจะเปิดบทสนทนาต่าง ๆ เช่น การรับโทรศัพท์ นัดเจอ หรือพูดคุยเกี่ยวกับอาชีพและกิจกรรมต่าง ๆ พี่ต้องฟังและจับประเด็นสำคัญเพื่อตอบคำถามหรือเติมคำตอบลงใน Choice ซึ่งพี่รู้สึกว่าสนุกมาก เหมือนเป็นการฝึกการฟังและสรุปเนื้อหา ส่วนวิชาที่ไม่ชอบนั้น พี่ไม่มีเลย รู้สึกว่าคุ้มค่าทั้งเวลาและเงินที่จ่ายไป เรียนแล้วถูกใจมากค่ะ!

การใช้ชีวิตในเมืองเซบูเป็นอย่างไร ปลอดภัยไหม

สภาพแวดล้อมในเมืองนี้เหรอ พี่ว่าถนนค่อนข้างแคบและรถเยอะ ทำให้มีฝุ่นมาก แล้วที่นี่ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด ค่อนข้างปลอดภัยนะ สิ่งที่สังเกตได้คือ ผู้หญิงญี่ปุ่น จีน เกาหลี มักจะชอบแต่งตัวสวย ๆ และไปเที่ยวกัน แต่ที่แปลกคือผู้ชายฟิลิปปินส์ในละแวกนี้เขาไม่จ้องผู้หญิงเหมือนที่คนไทยบางคนทำ เขามองแค่เป็นเพื่อนร่วมทาง ไม่เสียมารยาทในการมอง ซึ่งต่างจากคนไทยที่บางทีจ้องจนรู้สึกอึดอัด ข้อดีคือ Cebu Blue Ocean Academy ใกล้กับซุปเปอร์มาร์เก็ต มีร้านขายของใช้จำเป็น อาหาร ขนมต่าง ๆ เดินไปซื้อได้ง่าย ๆ นอกจากนี้ยังมีอาหารหลากหลาย ทั้งอาหารญี่ปุ่นและอาหารทะเลที่อยู่ไม่ไกล แค่ขับรถประมาณ 10 นาที ก็ถึงไนท์มาร์เก็ตแล้ว ทำให้สะดวกในการหาของกิน แต่อาหารในเมืองนี้จะเค็มและหวานเพราะใช้เกลือแทนน้ำปลา ซึ่งบางครั้งไม่ค่อยถูกปาก ส่วนอีกเรื่องที่ไม่ค่อยดีคือ WiFi ในห้องพักสัญญาณไม่ดี บางทีถึงกับหายไปเลย โดยเฉพาะเวลาที่ต้องประชุมออนไลน์ช่วงเย็น ทำให้ต้องออกไปใช้ WiFi ในห้องอ่านหนังสือหรือตามคาเฟ่แทน นักเรียนหลายคนมักบ่นเรื่องนี้ รวมถึงเรื่องอาหารด้วย

ปรับตัวยากไหมในการไปเรียน เเละใช้ชีวิต

การปรับตัวในการไปเรียนและใช้ชีวิตที่นั่นไม่ยากมากสำหรับคนไทยนะพี่ว่า เพราะวัฒนธรรมมีความคล้ายคลึงกัน ทำให้ไม่ต้องปรับตัวมากนัก แต่เรื่องอาหารพี่ว่าคนไทยมักจะมีปัญหาเรื่องรสชาติที่ไม่คุ้นชิน แต่สำหรับเพื่อนๆ จากเกาหลี ญี่ปุ่น หรือจีน มักจะสามารถปรับตัวได้ง่าย เพราะอาหารที่พวกเขากินก็มีรสชาติใกล้เคียงกับบ้านของเขา

แต่สำหรับเพื่อนต่างชาติ อาจจะต้องปรับตัวในเรื่องอุณหภูมิและสภาพแวดล้อม เนื่องจากประเทศที่เขามาจากอาจมีสภาพอากาศที่แตกต่างจากที่นี่ แต่โดยรวมแล้ว การใช้ชีวิตและความเป็นอยู่ถือว่าไม่มีปัญหาอะไรค่ะ

ที่โรงเรียนมีสิ่งอำนวยความสะดวกอะไรบ้าง

ก็มีทุกอย่างนะคะ ยิม สระว่ายน้ำ คาเฟ่ ห้องอาหาร ครบเลยล่ะ แต่ห้อง Self Study มันเล็กไป นักเรียนส่วนใหญ่จะไปใช้ห้องนี้เพื่อใช้ WiFi แต่บางครั้งก็ไม่มีที่นั่ง เพราะนักเรียนเยอะมาก มันกลายเป็นปัญหาเรื่องพื้นที่ใช้สอยไม่เพียงพอต่อนักเรียน แต่พี่ได้ยินว่าเขากำลังจะขยายห้องเพิ่มนะ เห็นว่าตอนนี้กำลังปรับปรุงห้องอยู่ คาดว่าจะย้ายโซนซักผ้าออกไป แล้วทุบขยายห้องเพื่อเพิ่มพื้นที่ให้มากขึ้น

เพื่อนๆ ที่โรงเรียนเป็นอย่างไรบ้าง? มีสัญชาติไหนบ้าง

เพื่อนๆ ที่โรงเรียนมีหลากหลายชาติเลยค่ะ ส่วนใหญ่จะเป็นเพื่อนเกาหลีและเพื่อนจีน เริ่มแรกพี่มีเพื่อนเกาหลีที่สนิทที่สุด ช่วงที่ไปก็มีเพื่อนคนไทยด้วยนะแต่ไม่ค่อยสนิทเท่าไหร่ เพราะเป็นผู้ชาย ทำให้ไม่กล้าคุยกันมากนัก มักจะถามแค่เรื่องหนังสือเรียน พอเพื่อนเกาหลีจบไปแล้ว ก็มีเพื่อนคนจีนเข้ามาใหม่ และพี่ก็มีเพื่อนฟิลิปปินส์ด้วยนะ ซึ่งก็เป็นครูในโรงเรียนนี่แหล่ะ ส่วนญี่ปุ่นก็มีนะแต่จะมาเป็นเพื่อนในช่วงท้ายๆ ละ ช่วงที่เรียนทำให้พี่มีเพื่อนหลากหลายวัฒนธรรม ซึ่งถือว่าเป็นการเรียนรู้ที่ดีค่ะ

มีอะไรอยากแนะนำเพื่อนๆ น้องๆ ที่กำลังจะไปเรียนไหม

พี่แนะนำเพื่อนๆ ที่สนใจไปเรียนที่ฟิลิปปินส์ว่าอย่าลืมให้เวลากับการเที่ยวด้วยนะคะ การไปเรียนไม่จำเป็นต้องซีเรียสเกินไป เพราะการเรียนรู้จะสนุกมากขึ้นถ้าเราได้สัมผัสกับวัฒนธรรมและท่องเที่ยวไปพร้อมกัน ฟิลิปปินส์อาจจะไม่เจริญเท่าประเทศไทย แต่ก็มีเสน่ห์และความสุขในการใช้ชีวิต มีสถานที่สวยๆ ให้เที่ยวมากมาย ควรเปิดใจและใช้โอกาสนี้ในการเรียนรู้และสนุกสนานไปพร้อมๆ กันค่ะ!