แนะนำเรียนภาษาอังกฤษที่ Nelson NZ – เมืองเล็กอบอุ่น กับสถาบันคุณภาพที่คุณอาจหลงรัก

แนะนำเรียนภาษาอังกฤษที่ Nelson NZ

ประสบการณ์เยี่ยมเมือง Nelson ครั้งแรก : ช่วงเดือนเมษายน 2568 หลังเสร็จสิ้นภารกิจในโอ๊คแลนด์ ผมก็เดินทางต่อไปยังเมืองเนลสัน (Nelson) ที่เกาะใต้ของนิวซีแลนด์ เพื่อร่วม Fam Tour (ทัวร์เยี่ยมชมโรงเรียนสำหรับเอเจนต์) ของสถาบัน Nelson English Centre เพื่อแนะนำเป็นตัวเลือกสำหรับการเรียนภาษาที่นิวซีแลนด์ครับ

ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าเนลสันเป็นเมืองเล็กๆ ริมทะเลที่ขึ้นชื่อว่าอากาศดีที่สุดเมืองหนึ่งในนิวซีแลนด์ (เค้าว่าเป็นเมืองที่มีแดดออกเยอะที่สุดแห่งนึงเลย) ตอนเครื่องบินแตะสนามบินเนลสันก็สัมผัสได้ถึงบรรยากาศสงบๆ ผู้คนน้อยๆ ต่างจากโอ๊คแลนด์แบบคนละฟีล แต่วิวภูเขาและชายฝั่งทะเลสวยงามมาก

โปรแกรม Fam Tour ที่ทีม Nelson English Centre จัดให้พวกเรานั้นจัดเต็มมาก สองวันในเนลสันนั้นเต็มไปด้วยกิจกรรมประทับใจที่ทำให้เราได้ซึมซับทั้งธรรมชาติและวัฒนธรรมของที่นี่อย่างเต็มที่

กิจกรรมวันแรก

ไฮไลท์แรกสุดคือ กิจกรรมพายเรือแคนูแบบเมารี เราออกเดินทางแต่เช้าตรู่ขับรถไปชายหาด Kaiteriteri (ไคเทอริเทอริ) ซึ่งเป็นประตูสู่อุทยานแห่งชาติ Abel Tasman ที่มีชื่อเสียง จากนั้นเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นที่เป็นชาวเมารีก็ต้อนรับเราด้วยการทักทายว่า “Kia Ora!” และพาเราลงเรือ Waka ซึ่งเป็นเรือแคนูแบบดั้งเดิมของชาวเมารี ตัวเรือยาวใหญ่จุคนประมาณสิบคนได้

เราช่วยกันพายออกไปในทะเลช่วงพระอาทิตย์กำลังขึ้น แสงแดดอ่อนๆ ยามเช้ากระทบผืนน้ำระยิบระยับ สวยเกินบรรยายจริงๆ ครับ ตอนพายก็เหนื่อยเอาการอยู่แต่สนุกมาก ทุกคนต้องพายพร้อมเพรียงกันตามจังหวะที่ไกด์ชาวเมารี ร้องคำขานนำ เราได้เรียนรู้คำศัพท์เมารีง่ายๆ เช่น คำนับจังหวะ และได้ฟังเรื่องเล่าตำนานท้องถิ่นระหว่างที่พายไปด้วย

พายไปสักพักก็ถึงจุดไฮไลท์คือหินก้อนยักษ์กลางทะเลที่แตกออกเป็นสองซีกที่เรียกว่า Split Apple Rock (ดูเหมือนแอปเปิ้ลผ่าครึ่งจริงๆ สมชื่อเลยครับ) เราหยุดพายให้เรือลอยนิ่งๆ ชื่นชมวิวและถ่ายรูปกันตรงนั้น บรรยากาศเงียบสงบ มีเสียงนกเสียงลมเบาๆ กับเสียงคลื่นกระทบเรือเบาๆ ในใจนี่แบบฟินสุดๆ ถือเป็นประสบการณ์ที่ไม่มีทัวร์เที่ยวธรรมดาทั่วไปไหนเหมือนเลย เพราะได้ทั้งออกกำลัง ผจญภัย และเรียนรู้วัฒนธรรมชาวพื้นเมืองไปพร้อมๆ กัน

หลังจากพายเรือและเที่ยวอุทยานกันทั้งวัน ตอนเย็นทางทีมงานก็พาพวกเราขึ้นเรือใบลำใหญ่เพื่อดินเนอร์ชมพระอาทิตย์ตกกลางทะเลด้วยครับ โรแมนติกสุดๆ เรือใบแล่นออกจากท่าช้าๆ มีลมทะเลพัดเอื่อยๆ ทุกคนได้จิบเครื่องดื่ม พูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์ที่เจอมาทั้งวัน ส่วนผมนี่นั่งมองท้องฟ้าเปลี่ยนสีส้มชมพูตอนพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าเหนือผิวน้ำแล้วรู้สึกว่าช่วงเวลานั้นช่างพิเศษจริงๆ เป็นการปิดท้ายวันแรกในเนลสันที่ประทับใจไม่รู้ลืม

กิจกรรมวันที่สอง

ตอนเช้าเรามีโอกาสได้เดินขึ้นเขาไปยัง the Center of New Zealand คือ จุดศูนย์กลางของประเทศนิวซีแลนด์ที่อยู่ที่ Nelson นี่เอง เพื่อดูบรรยากาศเมือง โดยการเดินไปนั้นจะผ่านบ้านพักอาศัยของผู้คน และมีสวนสาธารณะขนาดใหญ่ตรงทางขึ้น ซึ่งเป็นสถานที่ที่สถาบันสอนภาษา Nelson มักจะมาใช้จัดกิจกรรมกับนักเรียนด้วย และการเดินขึ้นเขานั้นเป็น short hike ใช้เวลาประมาณ 20-25 นาทีก็ถึงด้านบนสุดแล้ว

ช่วงเที่ยงเราได้ไปเยี่ยม Nelson English Centre (NEC) อย่างเป็นทางการ โรงเรียนตั้งอยู่ในตัวเมืองเนลสันซึ่งเป็นเมืองเล็กๆ เดินไปไหนมาไหนสะดวก อาคารเรียนของ NEC เป็นตึกสองชั้นสีขาวสะอาดตา มีประมาณสิบกว่าห้องเรียน ไม่ใหญ่โตอลังการเท่าโรงเรียนในเมืองใหญ่แต่ดูอบอุ่นเป็นกันเอง พอเดินเข้าไปก็เจอทั้งครูและนักเรียนยิ้มทักทาย สวัสดีต้อนรับเราด้วยความเป็นมิตร (แอบรู้มาว่ามีนักเรียนไทยเรียนอยู่ที่นี่สองสามคน เขาก็มาช่วยต้อนรับและเล่าประสบการณ์ให้ฟังด้วยภาษาไทยผสมอังกฤษแบบน่ารักๆ)

เรานั่งคุยกับทีมผู้บริหารและคุณครูของโรงเรียน เขาเล่าว่า Nelson English Centre เปิดมาร่วมๆ 25 ปีแล้ว เป็นโรงเรียนขนาดกลางที่ตั้งใจจะดูแลนักเรียนทุกคนเหมือนคนในครอบครัว มีบริการครบวงจรทั้งเรื่องเรียน เรื่องกิจกรรม และเรื่องความเป็นอยู่ นักเรียนส่วนใหญ่มาจากยุโรป ญี่ปุ่น และอเมริกาใต้ ทำให้บรรยากาศในคลาสค่อนข้างนานาชาติจริงๆ

ช่วงที่เราไป นักเรียนมีประมาณ 80-100 คนเท่านั้นเองต่อชาติคละกันไปหลายชาติ ถือว่าเล็กเมื่อเทียบกับโรงเรียนในโอ๊คแลนด์ แต่ข้อดีก็คือทุกคนรู้จักกันหมด ดูอบอุ่นมากครับ นักเรียนหลายคนก็เข้ามาคุยกับเราซึ่งเป็นแขกเยี่ยมชม เล่าให้ฟังว่าชอบเนลสันเพราะเมืองสงบ ผู้คนเฟรนด์ลี่ และที่สำคัญ คือ คนไทยยังน้อยมาก ทำให้ได้ฝึกภาษาเต็มที่ บางคนบอกตอนมาแรกๆ พูดไม่ได้เลย อายด้วย แต่มาอยู่เมืองนี้ไม่มีใครพูดภาษาเรา ก็ต้องฮึบสู้ใช้ภาษาอังกฤษตลอด ตอนนี้ผ่านไปสองสามเดือนคล่องขึ้นเยอะ มีความมั่นใจขึ้น ซึ่งทีมคุณครูก็คอยช่วยเหลือตลอดทั้งในและนอกคลาส

ช่วงบ่าย ผมมีโอกาสได้ทดลองเรียน 2 คาบ รวมถึงคาบเรียนระดับ Intermediate และ elective class ซึ่งผมเข้าเรียน paint ได้ ซึ่งผมประทับใจความเป็นกันเองและความหลากหลายทางเชื้อชาติและ background ของเพื่อนร่วมชั้นเรียน ตลอดจนความเป็นมืออาชีพ ความใส่ใจและความเป็นกันเองของครูผู้สอนด้วยครับ

แนะนำสถาบัน Nelson English Centre (NEC)

โรงเรียนบรรยากาศอบอุ่น English Only จริงจัง

ที่ตั้ง:

โรงเรียน Nelson English Centre (NEC) ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเนลสัน บนถนน Selwyn Place ซึ่งเป็นย่านศิลปวัฒนธรรมของเมือง ตึกเรียนของ NEC เป็นอาคารสองชั้นขนาดกลางที่ตกแต่งทันสมัย อยู่ใกล้กับ Nelson Central Arcade (แหล่งร้านค้าในเมือง) และเดินไม่กี่นาทีก็ถึง ตลาดกลางเมือง (Nelson Market) และ โบสถ์ Nelson Cathedral อันเป็นแลนด์มาร์ก

ด้วยความที่เนลสันเมืองเล็ก เราจึงสามารถเดินหรือขี่จักรยานไปไหนมาไหนสะดวกมาก – นักเรียน NEC หลายคนเช่าจักรยานปั่นมาเรียน โรงเรียนมีที่จอดให้ ระยะห่างจากชายหาด Tahunanui Beach ก็เพียงประมาณ 3 กิโลเมตร เรียนเสร็จบ่ายๆ ปั่นจักรยานไปเดินเล่นริมหาดได้เลย ฟังดูชีวิตชิลมากใช่ไหม?

จุดเด่นสำหรับนักเรียนไทย:

• English Only ของจริง: หากเป้าหมายหลักคือพัฒนาภาษาอังกฤษให้ไวที่สุด เมืองเนลสันและ NEC เป็นคำตอบที่เพอร์เฟ็กต์ ด้วยสภาพแวดล้อมที่ไม่มีภาษาไทยหรือภาษาบ้านเกิดอื่นๆ ให้ใช้ (นักเรียนส่วนใหญ่ที่นี่มาจาก ยุโรป ญี่ปุ่น บราซิล เกาหลี ฯลฯ ซึ่งก็ต้องสื่อสารกันด้วยอังกฤษเท่านั้น) รวมกับนโยบายโรงเรียนที่เข้มงวด คือ หากใครพูดภาษาอื่นที่ไม่ใช่อังกฤษจะโดนปรับ $NZ 1 ซึ่งสถาบันจะนำเงินไปบริจาคให้มูลนิธิเพื่อการกุศล (ซึ่งจากในบรรดาสถาบันต่างๆ ที่ได้ไปมา รู้สึกว่าที่ NEC นักเรียนร่วมมือดีมาก เพราะสถาบันจริงจังมาก … ขนาดเพื่อนฝรั่งเศสผมที่เป็นเอเจนท์พูดภาษาฝรั่งเศสกับนักเรียนของเขายังโดนตักเตือนเลย ฮ่าๆ)

• บรรยากาศครอบครัวและปลอดภัย: น้องๆ ที่อาจกังวลกลัวคิดถึงบ้าน – มาเนลสันอาจจะไกลบ้านกว่าเมืองใหญ่ แต่ความเป็นกันเองของผู้คนจะทำให้เราหายเหงาเร็วมาก พี่ๆ ที่โรงเรียนสนิทกับเราจนเหมือนญาติ พาเที่ยว พาปาร์ตี้ ดูแลอย่างดี ยิ่งเมืองนี้คนไทยน้อย ชุมชนท้องถิ่นจะยิ่งสนใจเรา (บางทีเดินตลาดมีคนรู้ว่าเราเป็นนักเรียนต่างชาติก็ทักทายถามไถ่) รู้สึกอบอุ่นใจ ปลอดภัยหายห่วง ความเครียดต่ำทำให้เรียนรู้ได้ดี

• กิจกรรมกลางแจ้งสุดปัง: ใครสายธรรมชาติ สายลุย ที่นี่จะฟินมาก ช่วงบ่ายหลังเลิกเรียนถ้าอากาศดี (ซึ่งส่วนใหญ่เนลสันแดดออกฟ้าใส) นักเรียนกับครูจะนัดกันไปทำกิจกรรมเสมอ ทั้งเดินป่าขึ้นเขาเล็กๆ ใกล้โรงเรียน, เล่นกีฬาชายหาด, ปั่นจักรยานเสือภูเขา ฯลฯ สนุกและสุขภาพดีไปในตัว ที่สำคัญคือได้ฝึกภาษาตลอดเวลา กิจกรรมพวกนี้แหละช่วยให้เด็กไทยที่มาแรกๆ ยังพูดไม่เก่ง พอได้เม้ามอยระหว่าง hiking กับเพื่อนชาวสเปน ญี่ปุ่น เกาหลี ไปสักพัก จะพูดได้คล่องไม่รู้ตัว!

• จัดกิจกรรมหลังเลิกเรียน 90% โดยให้เจ้าหน้าที่หรือครูนำกิจกรรมเอง เช่น พาเดินป่า (Tramping), ไปตีแบดมินตัน, เล่นวอลเลย์บอลชายหาด, ปาร์ตี้บาร์บีคิว ฯลฯ ซึ่งฟรีเกือบทั้งหมด และช่วงสุดสัปดาห์ก็มักมีทริปที่ครูสมัครใจขับรถพานักเรียนไปเที่ยว (แชร์ค่าน้ำมันกัน) – บรรยากาศโคตรกันเองและเป็นกันเองสุดๆ นักเรียนไทยที่นี่บอกเลยว่าจะได้รับเชิญชวนให้เข้าร่วมทุกกิจกรรมจนบางทีปฏิเสธไม่ทัน (เพราะบางคนสายชิลอยากพักแต่ครูไม่ยอม อยากให้ไปสนุกด้วยกัน)

• ค่าครองชีพถูกและได้ฝึกงานง่าย: เนลสันค่ากินอยู่ถูกกว่าโอ๊คแลนด์มาก อย่างค่าโฮมสเตย์รายสัปดาห์หรือห้องเช่าที่นี่ถูกกว่าราว 15-20% แถมไม่มีสิ่งยั่วยวนให้ช้อปปิ้งฟุ่มเฟือยเยอะ ทำให้ประหยัดงบประมาณได้ นักเรียนไทยบางคนที่อยู่เกิน 14 สัปดาห์ (ได้สิทธิทำงาน) ก็หางานในเมืองเล็กนี้ได้ เช่น งานร้านกาแฟ ร้านอาหาร NEC เองก็ช่วยแนะแนวและส่งประกาศรับสมัครงานท้องถิ่นให้เด็กๆ ตลอด ด้วยความเป็นเมืองเล็กใครขยันก็กลายเป็นที่รักของนายจ้างอย่างรวดเร็ว

หลักสูตรที่เปิดสอน:

• General English ซึ่งผู้เรียนส่วนใหญ่มาเรียนที่นี่ในหลักสูตรนี้ มีตั้งแต่ระดับเริ่มต้นถึงระดับสูง โดยจุดเด่นคือ คลาสเล็ก (เฉลี่ย 8-12 คนต่อห้อง)

• Full-time IELTS Preparation ซึ่งโรงเรียนนี้เชี่ยวชาญมากเพราะเป็น ศูนย์สอบ IELTS ประจำภูมิภาคเนลสันด้วย (ไม่ต้องนั่งเครื่องไปสอบไกล) 

• คอร์สเตรียมสอบ Cambridge FCE/CAE เป็นระยะเมื่อมีคนสนใจพอ (มักปีละครั้ง) โดยนำครูผู้เชี่ยวชาญการสอบนี้มาสอน

เลือกดูรายละเอียดคอร์สเรียนได้ที่ :
https://www.english-school.ac.nz/academic

ข้อคิดเห็นโดยรวม:

จากที่ได้เห็น ผมรู้สึกว่า Nelson English Centre แม้จะไม่ได้ใหญ่โตไฮเทค แต่ก็มีความพร้อมในทุกด้านสำหรับนักเรียนต่างชาติ ที่สำคัญคือความเอาใจใส่ของเจ้าหน้าที่และคุณครูที่สัมผัสได้จริง นักเรียนทุกคนดูแฮปปี้และใกล้ชิดกับโรงเรียนเหมือนครอบครัวเดียวกัน สมกับสโลแกนของเขาที่ว่า “Study English – Where Kiwis Love to Live” จริงๆ

สำหรับเพื่อนๆ ที่ชอบบรรยากาศเมืองเล็กปลอดภัย ผู้คนน่ารัก และใกล้ชิดธรรมชาติ เนลสันถือเป็นตัวเลือกที่ดีมากเลยครับ การมาเรียนภาษาในเมืองเล็กแบบนี้ข้อดีคือเราได้ฝึกภาษาแบบเข้มข้นเพราะโอกาสเจอคนไทยหรือใช้ภาษาไทยแทบไม่มีเลย (ต้องพูดอังกฤษอย่างเดียวจนชินไปเอง) แถมได้ซึมซับวัฒนธรรมท้องถิ่นแบบเต็มที่ เช่น การอยู่กับโฮสต์แฟมิลี่ที่นี่ก็จะได้ใช้ชีวิตแบบชาวกีวีแท้ๆ เลย แต่ทั้งนี้ ชีวิตสงบๆ เมืองเล็กก็อาจไม่หวือหวาเท่าเมืองใหญ่ ใครที่ติดชีวิตเมือง ศูนย์การค้า ร้านรวงเยอะๆ อาจจะรู้สึกเงียบไปนิด ช่วงแรกๆ อาจต้องปรับตัว แต่ถ้ามองเป็นโอกาสก็จะได้ฝึกทำกิจกรรมใหม่ๆ เช่น ออกไปเดินเขา ปั่นจักรยาน หรือทำกิจกรรมกลางแจ้งที่มีให้เลือกเยอะมาก เพราะเนลสันรายล้อมด้วยธรรมชาติสวยงาม ช่วงสุดสัปดาห์ก็จัดทริปสั้นๆ ไปเที่ยวอุทยาน Abel Tasman หรือไปไร่องุ่น ทำให้ชีวิตมีสีสันในแบบของตัวเองครับ

สนใจไปเรียนภาษาอังกฤษที่เนลสัน หรือเมืองอื่นในนิวซีแลนด์?

เนลสันอาจจะเป็นเมืองเล็ก แต่เต็มไปด้วยประสบการณ์ยิ่งใหญ่ และถ้าคุณกำลังคิดอยากเริ่มต้นการเรียนภาษาอังกฤษในบรรยากาศที่ปลอดภัย ใกล้ชิดธรรมชาติ และฝึกภาษาได้อย่างจริงจัง KPG (ก้อปันกัน) พร้อมเป็นพี่เลี้ยงให้คุณทุกขั้นตอน

ตั้งแต่แนะนำสถาบัน จัดทำเอกสาร ไปจนถึงขอวีซ่า และแนะนำก่อนเดินทาง — เรามีทีมที่เคยไปเยี่ยมสถาบันด้วยตัวเอง

แอด LINE มาคุยกับทีม KPG ได้เลยที่ LINE : @korpungun

ติดต่อขอรับคำปรึกษา

 

เรียนต่อแคนาดา อเมริกา

Line : @korpungun

เรียนภาษาที่ฟิลิปปินส์

Line : @kpglearn

คอร์สออนไลน์ KPG LIVE

Line : @kpglive

TEL: 094-883-8778