สำหรับคนที่สนใจเรียนภาษาอังกฤษ เพื่อพัฒนาทักษะด้านภาษาอังกฤษ โดยที่จะมีสิทธิทำงานพิเศษระหว่างเรียนได้อย่างถูกกฎหมาย การเรียนต่อนิวซีแลนด์อาจเป็นตัวเลื่อกที่น่าสนใจ เนื่องจากนิวซีแลนด์เป็นประเทศที่ผู้คนสื่อสารกันด้วยภาษาอังกฤษเป็นหลัก ผู้คนมีความเป็นมิตร จึงเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ยอดเยี่ยมในการเรียนรู้ภาษาผ่านประสบการณ์การใช้งานจริง ไปพร้อมกับโอกาสที่คุณจะสามารถทำงานพิเศษ เพื่อเก็บประสบการณ์ชีวิต และแบ่งเบาค่าครองชีพในระหว่างที่ใช้ชีวิตอยู่ในนิวซีแลนด์ได้
การฝึกภาษาที่นิวซีแลนด์เรียกได้ว่าหลากหลายเหมาะกับสไตล์ของผู้เรียนที่หลากหลาย เพราะสามารถเลือกเรียนทั้งเพื่อเตรียมตัวสำหรับการศึกษาต่อ หรือเพิ่มทักษะในการทำงานให้ได้ดียิ่งขึ้น หรือทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษทั่วไป หรือเตรียมตัวสอบวัดระดับภาษา อาทิ Cambridge, IELTS หรือ TOEIC ไปพร้อมกับสำรวจสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติและวัฒนธรรมในประเทศนิวซีแลนด์ พร้อมด้วยประสบการณ์ชีวิตที่จะช่วยเตรียมคุณให้พร้อมสำหรับอาชีพในอนาคตในฐานะพลเมืองโลกได้อย่างที่แท้จริง
หลักสูตรภาษาอังกฤษที่นิวซีแลนด์
โดยทั่วไปแล้ว คอร์สเรียนภาษาที่นิวซีแลนด์แบ่งออกมาเป็น 4 ประเภทหลักๆ โดยนักเรียนจะสามารถเลือกเรียนได้ตามวัตถุประสงค์และระดับภาษาอังกฤษของตนเอง ซึ่งมีตัวเลือกดังนี้
1. General English
หลักสูตรพื้นฐานสำหรับผู้เรียนที่ไม่มีประสบการณ์ฝึกภาษาอังกฤษมาก่อน เพื่อปูและปรับพื้นฐานการใช้ภาษาอังกฤษทั่วไป โดยจะเน้นไปที่การเพิ่มทักษะการฟัง (Listening) การพูด (Speaking) การเขียน (Writing) และการอ่าน (Reading) เพื่อให้ผู้เรียนสามารถนำไปประยุกต์การใช้ชีวิตประจำวันที่นิวซีแลนด์ จนไปถึงการปรับใช้ในรั้วมหาลัยและการทำงานที่ต่างประเทศได้
2. Academic English
การเรียนภาษาอังกฤษเชิงวิชาการสำหรับผู้เรียนที่ต้องการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษสำหรับการใช้ศึกษาต่อ โดยเฉพาะในปริญญาตรีและปริญญาโทที่ประเทศนิวซีแลนด์หรือออสเตรเลีย
ซึ่งบางสถาบันจะเปิดสอนเป็นหลักสูตร English for Academic Purpose (EAP) หรือ English Pathway ในขณะที่บางสถาบันจะเปิดสอนเป็นหลักสูตร IELTS เพื่อให้นักเรียนได้พัฒนาทักษะภาษาอังกฤษเชิงวิชาการ ไปพร้อมกับการเตรียมตัวสอบ IELTS เพื่อยื่นคะแนนสำหรับการศึกษาต่อ
3. Test Preparation
นอกจากการเรียน Academic English ที่อาจรวมถึงการเรียนเพื่อเตรียมสอบ IELTS แล้ว บางสถาบันมีเปิดสอนหลักสูตรการเตรียมสอบ เพื่อเพิ่มคะแนนสอบวัดระดับภาษาสากล อาทิ TOEIC หรือ Cambridge Test อีกด้วย
4. Business English
หลักสูตรการเรียนภาษาอังกฤษ นิวซีแลนด์เพื่อเจาะจงฟัง พูด อ่าน และเขียน ที่มุ่งเน้นฝึกการทำธุรกิจ การทำงาน การเจรจาทางธุรกิจ การติดต่อผ่านอีเมลล์ การจดบันทึกรายงานการประชุม และการนำเสนอเชิงธุรกิจอย่างมืออาชีพสำหรับต่อยอดในการทำงาน ทั้งนี้บางสถาบันอาจไม่มีเปิดสอน Business English เป็นหลักสูตร แต่จะมีวิชาเลือ (elective) ให้เลือกเรียน Business English ได้
เพิ่มเติม: สำหรับหลักสูตรที่ 2-4 นักเรียนอาจจะต้องมีพื้นฐานระดับภาษาถึงเกณฑ์ที่สถาบันกำหนด หากระดับภาษาไม่ถึงเกณฑ์ อาจต้องเริ่มเรียนจากหลักสูตร General English ก่อน ซึ่งในวันแรกที่เริ่มเรียนสถาบันจะมีการจัดสอบวัดระดับภาษานักเรียนในการประเมินผล และแนะนำเกี่ยวกับแผนการเรียนให้
ระยะเวลาเรียนและสิทธิในการทำงาน
ระยะเวลาการเรียนภาษาที่นิวซีแลนด์ แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่
1) เรียนด้วยวีซ่าท่องเที่ยว (Visitor Visa)
• ลงเรียนระยะเวลา 1-12 สัปดาห์
• ลงเรียนรูปแบบพาร์ทไทม์ (part-time) หรือเต็มเวลา (full-time) ก็ได้
• ไม่สามารถทำงานระหว่างเรียนได้
2) เรียนด้วยวีซ่านักเรียน (Student Visa)
• ลงเรียนขั้นต่ำ 14 สัปดาห์
• สามารถทำงานระหว่างเรียนได้สัปดาห์ละ 20 ชั่วโมง หากเข้าเงื่อนไขดังต่อไปนี้
2.1) ลงเรียนขั้นต่ำ 14 สัปดาห์
• ลงเรียนรูปแบบเต็มเวลา (ลงเรียนขั้นต่ำ 20 ชั่วโมง/สัปดาห์ขึ้นไป) โดยมีระยะเวลาเรียน 14 สัปดาห์เป็นอย่างต่ำ
• ลงเรียนในสถาบันที่เรียนจะต้องมีมาตรฐานการเรียนการสอนได้รับการประเมินจาก NZQA (New Zealand Qualification Authority) ให้เป็นสถาบัน Category 1 หรือเรียนในมหาวิทยาลัย (University) หรือ
2.2) ลงเรียนขั้นต่ำ 24 สัปดาห์
• ลงเรียนรูปแบบเต็มเวลา (ลงเรียนขั้นต่ำ 20 ชั่วโมง/สัปดาห์ขึ้นไป) โดยมีระยะเวลาเรียน 24 สัปดาห์เป็นอย่างต่ำ
• มีผลสอบภาษาอังกฤษ อาทิ IELTS ด้วยคะแนน overall ที่ไม่ต่ำกว่า 5.0 โดยมีอายุไม่เกิน 2 ปีนับจากวันที่ยื่นสมัคร และต้องใช้ผลสอบภาษาประกอบการยื่นสมัครขอวีซ่า
• ลงเรียนในระดับที่อยู่ในเกณฑ์ที่ต่ำกว่า Category 1
ซึ่งนักเรียนส่วนมากที่มีเวลา งบประมาณจะนิยมลงเรียนในสถาบัน category 1 ระยะเวลาขั้นต่ำ 24-48 สัปดาห์ เพื่อความมั่นใจในคุณภาพของสถาบัน และสิทธิที่จะทำงานได้ (หากต้องการ)
เมืองและสถาบันสอนภาษาที่นิวซีแลนด์
เมื่อเข้าใจภาพรวมแล้ว ต่อไปเราจะเจาะลึกข้อมูลสถาบันสอนภาษาใน โอ๊คแลนด์ (Auckland) เมืองใหญ่สุดของนิวซีแลนด์ รวมถึง เนลสัน (Nelson), ไครสต์เชิร์ช (Christchurch) และ ควีนส์ทาวน์ (Queenstown) ซึ่งล้วนเป็นจุดหมายยอดนิยมสำหรับนักเรียนต่างชาติและมีสถาบันที่โดดเด่นสำหรับผู้เรียนภาษาแต่ละแบบ
Auckland – เมืองใหญ่แห่งโอกาสการเรียนภาษา
โอ๊คแลนด์เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของนิวซีแลนด์ ตั้งอยู่บนเกาะเหนือ มีประชากรหลากหลายเชื้อชาติ จึงมีโรงเรียนสอนภาษาคุณภาพให้เลือกมากมาย บรรยากาศในโอ๊คแลนด์ เป็นเมืองท่าเทียบเรือที่คึกคัก รายล้อมด้วยอ่าวและภูเขาไฟที่ดับแล้ว ทำให้วิวสวยงามและมีกิจกรรมให้ทำเพียบ คุณจะได้สัมผัสทั้งชีวิตคนเมือง (มีร้านค้า คาเฟ่ แหล่งช้อปปิ้งบนถนนควีนสตรีท) และไม่ไกลก็มีชายหาดและเกาะสวยๆ ให้เที่ยวพักผ่อนสุดสัปดาห์ สำหรับนักเรียนไทย โอ๊คแลนด์ถือว่ามีชุมชนคนไทยอยู่บ้างแต่ไม่หนาแน่นจนเกินไป ยังเป็นสภาพแวดล้อมที่ดีในการฝึกภาษาอังกฤษ
สถาบันสอนภาษาที่แนะนำใน Auckland
• Languages International (LI)
• Language Studies International (LSI Auckland)
• New Zealand Language Centres (NZLC)
• Worldwide School of English
Christchurch – เมืองใหญ่เก่าแก่บนเกาะใต้ กับบรรยากาศแบบอังกฤษ
ไครสต์เชิร์ชเป็นเมืองศูนย์กลางของเกาะใต้และเป็นเมืองใหญ่อันดับสามของประเทศ (รองจากโอ๊คแลนด์และเวลลิงตัน) ได้ฉายาว่า “เมืองแห่งสวน (Garden City)” เนื่องจากเต็มไปด้วยสวนสาธารณะและสวนดอกไม้สวยงามทั่วเมือง เมืองนี้มีความเป็นอังกฤษสูงมาก – อาคารสไตล์โกธิคเก่าแก่ โบสถ์ใหญ่กลางเมือง Christchurch Cathedral, แม่น้ำ Avon ที่ผู้คนนิยมไปพายเรือค้ำถ่อ (punting) สร้างบรรยากาศโรแมนติกและสงบ นอกจากนี้ยังเป็นเมืองที่มี มหาวิทยาลัย Canterbury ตั้งอยู่ ทำให้บรรยากาศนักศึกษาและวิชาการคึกคัก ย่าน Riccarton ซึ่งเป็นย่านมหาลัยมีห้าง ร้านอาหาร คาเฟ่ และสิ่งอำนวยความสะดวกครบถ้วน ไครสต์เชิร์ชอาจเหมือนเป็นทางสายกลางที่น่าสนใจ ระหว่าง Auckland และเมืองขนาดเล็ก – มีร้านเอเชีย ของไทย ของจีนครบ หาอาหารเอเชียทานได้ง่าย แต่ขณะเดียวกันคนท้องถิ่นก็เข้าถึงง่าย อัธยาศัยดี
สถาบันสอนภาษาที่แนะนำใน Christchurch
• CCEL (Christchurch College of English Language)
• LSNZ (Language Schools New Zealand)
Nelson – เมืองเล็กน่ารัก สวรรค์ของคนรักธรรมชาติ
เนลสันเป็นเมืองชายทะเลเล็กๆ ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเกาะใต้ มีชื่อเสียงว่าเป็นเมืองที่ มีแดดออกมากที่สุดในนิวซีแลนด์ (อากาศดีตลอดปี) ที่นี่เหมาะสำหรับคนที่อยากใช้ชีวิตเงียบสงบ ใกล้ชิดธรรมชาติ และได้สัมผัสวัฒนธรรม Kiwi อย่างแท้จริง เนลสันมีประชากรราว 50,000 คน ผู้คนเป็นมิตรและมีกลิ่นอายศิลปะ (เมืองนี้มีชุมชนศิลปินและงานฝีมือ) รายล้อมด้วยชายหาด ภูเขา และเส้นทางเดินป่า ที่เที่ยวดังๆ เช่น อุทยานแห่งชาติ Abel Tasman, Nelson Lake ล้วนอยู่ไม่ไกล นักเรียนต่างชาติที่เลือกมาเนลสันจึงมักชอบกิจกรรมกลางแจ้ง ชอบเมืองที่ปลอดภัยไร้ความวุ่นวาย ด้วยขนาดเมืองที่เล็ก คุณจะมีโอกาสทองในการฝึกภาษาอังกฤษ – คนท้องถิ่นยินดีคุยด้วยและอาจจะยังไม่มีชุมชนคนไทยให้พึ่งพาภาษาไทยมากนัก (ถือเป็นข้อดีสำหรับการเรียนรู้)
สถาบันสอนภาษาที่แนะนำใน Nelson
Queenstown – เมืองแห่งการผจญภัยและธรรมชาติระดับโลก
ควีนส์ทาวน์เป็นเมืองเล็กแต่โด่งดังระดับโลก ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเกาะใต้ของนิวซีแลนด์ รายล้อมด้วยทะเลสาบ Wakatipu และเทือกเขา The Remarkables ทำให้เมืองนี้มีภูมิทัศน์สวยสะกดใจจนได้รับฉายาว่า “Adventure Capital of the World” เพราะเต็มไปด้วยกิจกรรมเอ็กซ์ตรีมตลอดปี เช่น บันจี้จัมป์ กระโดดร่ม เจ็ทโบ๊ท ล่องแก่ง สกี และปั่นจักรยานภูเขา
แม้จะเป็นเมืองเล็ก (ประชากรราว 30,000 คน) แต่ควีนส์ทาวน์คึกคักด้วยนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกตลอดทั้งปี มีร้านอาหาร คาเฟ่ และโฮสเทลครบครัน บรรยากาศนานาชาติสูง ผู้คนเฟรนด์ลี่และใช้ชีวิตช้าๆ แบบเรียบง่าย เป็นเมืองที่เดินได้ทั่วและไม่ต้องมีรถยนต์ส่วนตัวก็อยู่ได้สบาย
สำหรับนักเรียนไทย ควีนส์ทาวน์เป็นจุดหมายที่น่าสนใจมากสำหรับผู้ที่อยาก ฝึกภาษาในสภาพแวดล้อมจริง เพราะคนไทยน้อย โอกาสฝึกพูดภาษาอังกฤษสูง และถ้าชอบกิจกรรมกลางแจ้ง ที่นี่จะเป็นสวรรค์ – เรียนภาษาตอนเช้า บ่ายไปเดินเขา พายเรือ หรือทำงานพาร์ทไทม์ได้เลย เป็นเมืองที่เหมาะสำหรับคนที่อยากผสมผสานการเรียนกับไลฟ์สไตล์แบบผจญภัย ไม่จำเจ และมีแรงบันดาลใจใหม่ๆ ทุกวัน
สถาบันสอนภาษาที่แนะนำใน Queenstown
ค่าใช้จ่ายเรียนภาษาที่นิวซีแลนด์
สำหรับค่าใช้จ่ายในการเรียนภาษาอังกฤษที่นิวซีแลนด์ประกอบด้วย 2 ส่วนหลักได้แก่
1) Tuition Fee (ค่าเรียน)
ซึ่งมักจะคิดเป็นรายสัปดาห์ โดยเฉลี่ยที่ประมาณ NZ$ 300 – 500 ต่อสัปดาห์ *ขึ้นอยู่กับสถาบันและรูปแบบของหลักสูตรที่เลือกเรียนช
2) Living Expenses (ค่าครองชีพ)
สำหรับค่าครองชีพในนิวซีแลนด์ แนะนำว่าควรมีอย่างน้อย NZ$ 20,000 ต่อปี (อ้างอิง studywithnewzealand.govt.nz) ซึ่งจะแตกต่างกันไปตามเมืองที่อาศัย
สำหรับการประมาณการรายสัปดาห์ โดยการแบ่งรายละเอียดเป็นหมวดหมู่ รวมถึง
• ค่าที่พัก: ประมาณ NZ$ 200–400 ต่อสัปดาห์ (ขึ้นอยู่กับประเภทที่พัก เช่น ห้องเช่าแชร์กับผู้อื่นหรือหอพักที่มีอาหารให้)
• ค่าอาหาร: ราว NZ$ 80–120 ต่อสัปดาห์ สำหรับการซื้อของทำอาหารทานเอง ถ้าทานอาหารนอกบ้านหรือร้านอาหารอาจสูงกว่านี้
• ค่าเดินทาง: โดยเฉลี่ยประมาณ NZ$ 37 ต่อสัปดาห์ สำหรับค่ารถสาธารณะในชีวิตประจำวัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับระยะทางระหว่างที่พักกับสถานที่เรียน
• ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ: ค่าสาธารณูปโภค (น้ำไฟอินเทอร์เน็ต) ประมาณ NZ$ 100–140 ต่อเดือนต่อคนเมื่อแชร์บ้านกับผู้อื่น ส่วนค่าโทรศัพท์มือถือแบบเติมเงินเริ่มต้นราว NZ$ 19 ต่อเดือน
ดังนั้น โดยรวมๆแล้ว ค่าครองชีพต่อสัปดาห์ จะอยู่ที่ประมาณ NZ$ 400 – 700 ต่อสัปดาห์
คำแนะนำส่งท้าย: เลือกเมืองและโรงเรียนที่ใช่สำหรับคุณ
นิวซีแลนด์มีทางเลือกการเรียนภาษาที่หลากหลายเกินคาด ตั้งแต่บรรยากาศเมืองใหญ่ใน Auckland มีโรงเรียนดังๆ หลายแห่งให้เลือก ไปจนถึงเมืองเล็กสงบอย่าง Nelson ที่ให้ประสบการณ์ Kiwi เต็มขั้น หรือเมืองอย่าง Christchurch ที่ผสมผสานความเป็นเมืองและธรรมชาติเข้าด้วยกัน การตัดสินใจเลือก “ที่เรียนที่ใช่” ควรพิจารณาจากปัจจัยหลายอย่าง:
• เป้าหมายการเรียน: หากต้องการเรียนต่อมหาวิทยาลัยหรือต้องใช้คะแนนสอบ เลือกโรงเรียนที่มีคอร์ส Academic/Exam หรือเพียงแค่ต้องการพัฒนาภาษาให้พูดคล่องๆสำหรับการใช้งานทั่วไป
• สภาพแวดล้อมที่ชอบ: ชอบความสะดวก ร้านค้าเยอะ มีเพื่อนเอเชียบ้าง -> Auckland หรือ Christchurch, ชอบธรรมชาติและกิจกรรมผจญภัย -> Queenstown, ชอบเมืองเล็กสงบ ปลอดภัยและใกล้ชิดธรรมชาติ -> Nelson
• งบประมาณ: เมืองใหญ่ค่าใช้จ่ายจะสูงกว่าเมืองเล็ก เช่น Auckland ค่าเดินทางและอาหารแพงกว่า Nelson หรือ Christchurch เป็นต้น แต่เมืองใหญ่ก็อาจจะหางานทำง่ายกว่านิดหน่อย ถ้าคิดจะทำงานพาร์ทไทม์ควบคู่ด้วยก็ต้องชั่งดู
• จำนวนนักเรียนไทย: ถ้าอยากเจอคนน้อยๆ เน้น immersion เต็มที่ – LI, NEC, LSNZ Queenstown ตอบโจทย์ แต่ถ้าไม่ได้ซีเรียสมาก อยากมีเพื่อนไทยแชร์กันบ้าง – Worldwide, NZLC ก็ถือว่าคนไทยไม่มากจนเกินไปและมี Staff ไทยดูแลด้วย
สุดท้ายแล้ว ไม่ว่าคุณจะเลือกเรียนที่ไหนในนิวซีแลนด์ คุณจะได้สัมผัสประสบการณ์การเรียนภาษาอังกฤษที่ มีคุณภาพมาตรฐานสูง (เพราะรัฐบาลนิวซีแลนด์ควบคุมคุณภาพสถาบันอย่างเข้มงวดทุกแห่ง) และได้เรียนรู้วัฒนธรรมใหม่ๆ ท่ามกลางธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ของประเทศนี้ ที่สำคัญคือ กล้าเปิดใจ และ ใช้ภาษาอังกฤษทุกโอกาส ที่มี – เพียงเท่านี้การมาฝึกภาษาของคุณก็จะคุ้มค่าและน่าจดจำตลอดไป