เปรียบเทียบเรียนภาษาอังกฤษที่แคนาดาหรือนิวซีแลนด์ ใครเหมาะกับประเทศไหน !

ขนาดเมือง และบรรยากาศ:

นิวซีแลนด์เป็นประเทศเล็ก เมืองใหญ่จริง ๆ ก็มีแค่ Auckland (โอ๊คแลนด์) ที่เหลือก็ขนาดกลาง ๆ อย่าง Wellington (เวลลิงตัน), Christchurch (ไครสต์เชิร์ช) ดังนั้นบรรยากาศจะสงบกว่า แคนาดา ที่มีมหานครใหญ่อย่าง Toronto (โตรอนโต), Vancouver (แวนคูเวอร์)

ถ้าใครชอบชีวิตเมืองใหญ่ ร้านค้า สิ่งบันเทิงครบ ๆ แคนาดาอาจตอบโจทย์มากกว่า แต่ถ้าชอบเมืองสงบ ผู้คนไม่พลุกพล่าน นิวซีแลนด์เหมาะมากครับ ที่นี่คุณจะไม่รู้สึกเร่งรีบวุ่นวาย โดยเฉพาะเมืองขนาดเล็กอย่าง Nelson (เนลสัน) ที่ธรรมชาติก็เข้าถึงได้ใกล้ชิดกว่า

สำเนียงภาษาอังกฤษ:

สำเนียงแบบ “คีวี่” (Kiwi: ชาวนิวซีแลนด์) อาจฟังแปลกหูในช่วงแรก แต่ถือเป็นประสบการณ์ที่ดีในการฝึกฟังหลาย ๆ สำเนียง คนที่เคยเรียนในนิวซีแลนด์บอกว่าสำเนียงคีวี่ชัดเจนและชินได้ไม่ยาก ส่วนแคนาดามีสำเนียงแบบอเมริกันเหนือซึ่งหลายคนคุ้นเคยจากภาพยนตร์อยู่แล้ว

โอกาสทำงานระหว่างเรียน:

เรื่องนี้นิวซีแลนด์ได้เปรียบนิด ๆ ตรงที่ วีซ่านักเรียนของนิวซีแลนด์อนุญาตให้ทำงานพาร์ทไทม์ได้ (สูงสุด 20 ชั่วโมง/สัปดาห์ เมื่อเรียนภาษา 14 สัปดาห์ขึ้นไปในโรงเรียนที่ได้มาตรฐานที่อยู่ในเกณฑ์ของสถาบัน Category 1) ดังนั้นนักเรียนภาษาในนิวซีแลนด์หลายคนจะเรียนไปด้วยทำงานร้านกาแฟ ร้านอาหารไปด้วย เก็บประสบการณ์แถมได้เงินค่าขนม

ในขณะที่แคนาดา ถ้าเรียนคอร์สภาษาล้วน ๆ มักไม่ได้สิทธิ์ทำงาน ดังนั้นใครหวังจะหาประสบการณ์ทำงานระหว่างเรียนภาษา นิวซีแลนด์จะยืดหยุ่นกว่า

ค่าเงินและค่าใช้จ่าย:

ค่าเงินนิวซีแลนด์ (NZD) โดยมากจะถูกกว่า ค่าเงินแคนาดา (CAD) อยู่เล็กน้อยเมื่อเทียบเป็นบาท เช่น สมมติ 1 NZD ~ 20 บาท vs 1 CAD ~ 25 บาท (อัตราคร่าว ๆ) ซึ่งหมายความว่าค่าเรียนและค่าครองชีพในนิวซีแลนด์อาจถูกกว่าในแคนาดานิดหน่อยในภาพรวม แต่ก็ขึ้นอยู่กับเมืองที่อยู่ด้วยนะครับ Auckland ค่าครองชีพพอ ๆ กับเมืองใหญ่อย่าง Vancouver หรือ Toronto ได้

สังคม และวัฒนธรรม:

คนกีวี (ชาวนิวซีแลนด์) และคนแคนาเดียน ขึ้นชื่อว่ามีน้ำใจและเป็นมิตรทั้งคู่ครับ แต่ลักษณะสังคมอาจต่างกันเล็กน้อย นิวซีแลนด์เป็นสังคมเล็ก ๆ ความสัมพันธ์ระหว่างผู้คนค่อนข้างใกล้ชิด แบบไปซูเปอร์มาร์เก็ตก็อาจเม้ามอยกับแคชเชียร์นิดหน่อย

ส่วนแคนาดาแม้เมืองใหญ่ก็มีกลิ่นอายความเป็นกันเอง แต่ด้วยความที่ประชากรเยอะและหลากหลายมาก (แคนาดาเป็นประเทศผู้อพยพขนาดใหญ่) เมืองใหญ่จะมีความเป็นสากลสูง อาจเจอชุมชนคนเอเชียหรือคนไทยเยอะกว่า ยกตัวอย่างเช่น แวนคูเวอร์มีร้านอาหารไทยเกลื่อนจนบางทีไม่ต้องพูดอังกฤษก็ยังพอเอาตัวรอดได้

ต่างจากโอ๊คแลนด์ที่ก็มีคนเอเชียเยอะนะครับ แต่คนไทยจะน้อยกว่า วัฒนธรรมเฉพาะถิ่นที่ต่างคือ นิวซีแลนด์มีมรดกวัฒนธรรม เมารี ที่เห็นชัดในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะคำทักทาย “Kia Ora”, การเต้นฮากา, ลวดลายศิลปะเมารี ตามสถานที่ราชการหรือโรงเรียนจะให้ความเคารพวัฒนธรรมเมารีมาก ซึ่งเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งที่ทำให้ต่างจากประเทศอื่น

ส่วนแคนาดาก็มีวัฒนธรรมชนพื้นเมืองและสองภาษาราชการ (อังกฤษ/ฝรั่งเศส) แต่ในชีวิตประจำวันนักเรียนต่างชาติอาจไม่ค่อยได้สัมผัสเท่าวัฒนธรรมเมารีของกีวีครับ

จุดเด่นพิเศษ:

ถ้าให้พูดถึงไฮไลท์ของการใช้ชีวิตที่นิวซีแลนด์ สิ่งแรกในใจคือ ธรรมชาติที่อลังการและใกล้แค่เอื้อม ไม่ว่าจะอยู่เมืองไหน ขับรถแป๊บเดียวก็เจอภูเขา ทะเลสาบ หรือชายหาดสวย ๆ แล้ว กิจกรรมกลางแจ้งก็เยอะทั้งปี ตั้งแต่เดินเขา เล่นเซิร์ฟ ดูปลาวาฬ กระโดดบันจี ฯลฯ สมชื่อประเทศแห่งการผจญภัยจริง ๆ

ส่วนแคนาดาก็มีธรรมชาติงาม ๆ ไม่แพ้กัน (อุทยานแห่งชาติ Banff สุดยอดมาก) แต่ระยะทางระหว่างที่เที่ยวค่อนข้างไกล ต้องวางแผนดี ๆ และช่วงฤดูหนาวในแคนาดานี่หนาวจัดหิมะตกหนัก ไม่ค่อยสะดวกเที่ยวเท่าไหร่ ต่างจากนิวซีแลนด์ที่อากาศเย็นสุดก็ประมาณ -5 ถึง -10 (ยกเว้นบนยอดเขา) ส่วนมากอยู่ในระดับสบาย ๆ ทั้งปี นักเรียนไทยที่ขี้หนาวเลยมักจะปรับตัวกับสภาพอากาศนิวซีแลนด์ได้ง่ายกว่า

ถ้าอ่านมาถึงตรงนี้แล้วเริ่มอยากจัดกระเป๋าเดินทาง แต่ยังลังเล ไม่รู้จะเริ่มตรงไหนดี
 KPG (ก้อปันกัน) ยินดีช่วยคุณวางแผนทุกขั้นตอน — ตั้งแต่เลือกเมือง เลือกสถาบัน ไปจนถึงเตรียมเอกสารขอวีซ่า และให้ข้อมูลแนะนำก่อนเดินทาง แอด LINE : @korpungun แล้วปรึกษาเราได้ฟรี