ประสบการณ์เรียนต่อแคนาดา
Greystone College
โดย แซม Rachata
[บทสัมภาษณ์] Rachata หรือแซม ก่อนไปเรียนต่อแคนาดา แซมทำงานบริษัท start-up เกี่ยวกับชา ในตำแหน่ง operation manager ปัจจุบันลงเรียนหลักสูตร International Business Management ที่ Greystone College เมือง Vancouver ประเทศแคนาดา เป็นหลักสูตร 1 ปีการศึกษา ที่ประกอบด้วยการเรียน 6 เดือน และการทำงาน (co-op) 6 เดือนบทความนี้ประกอบด้วย 4 ส่วน
ก. เรียนต่อแคนาดา ชีวิตที่แวนคูเวอร์
ข. Greystone College และหลักสูตร International Business Management
ค. การทำงานระหว่างเรียนต่อแคนาดา
ง. ทิ้งท้ายเกี่ยวกับการเรียนต่อ Greystone College แวนคูเวอร์ แคนาดา
………………….
ก. ประสบการณ์เรียนต่อแคนาดา ชีวิตที่แวนคูเวอร์
• ทำไมถึงเลือกไปเรียนต่อแคนาดา?
แคนาดาเป็นหนึ่งในประเทศที่คนไทยสามารถทำงานนอกแคมปัสได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย หากเราสามารถนำเสนอตัวเองได้ ใช้ภาษาอังกฤษได้ เราหางาน part-time ทำได้แน่นอน สำหรับการเรียนต่อต่างประเทศ แซมไม่ได้ต้องการแค่การฝึกและพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษเพียงเท่านั้น แต่แซมต้องการโอกาสในการทำงานอีกด้วย แซมสนใจที่จะเรียนรู้ทางวัฒนธรรม และเชื่อว่าแซมจะได้เรียนรู้ทางวัฒนธรรม เมื่อได้ออกนอก comfort zone ซึ่งจากการทำงานกับผู้คนที่แตกต่างหลากหลายในเมืองแวนคูเวอร์ แซมได้มอบโอกาสในการเรียนรู้นี้ให้กับตนเองไปพร้อมการทำงานที่ได้รับค่าตอบแทนและประสบการณ์การจากการทำงานไปในเวลาเดียวกัน
• สนใจประเทศที่ทำงานอย่างทำงานได้อย่างถูกกฎหมาย แล้วทำไมถึงไม่เลือกไปออสเตรเลียล่ะ?
สำหรับออสเตรเลีย ผมคิดว่าคนไทยไปเยอะ ผมต้องการจะไปในที่ที่ เราจะได้เจอคนจากประเทศของตัวเองน้อย อีกอย่างคือ ถึงแม้ผมฝึกภาษามาหลายปี ผมมองว่าสำเนียงของผมยังไม่ค่อยแข็ง เลยอยากฝึกสำเนียงที่เป็นมาตราฐานอย่างอเมริกัน-แคนาเดียนอีกด้วย ที่สำคัญคือ ผมมองว่าขนาดของเศรษฐกิจของแคนาดาใหญ่ น่าจะมีโอกาสในการทำงานและการสร้างรายได้เยอะ (กว่านิวซีแลนด์) และอเมริกาก็อยู่ใกล้ๆด้วย
• ชีวิตที่แวนคูเวอร์เป็นอย่างไรบ้าง? ชอบ-ไม่ชอบอะไร?
ที่แวนคูเวอร์มีความหลากหลายทางเชื้อชาติมาก ครึ่งนึงอาจจะเป็นแคนาเดียนผิวขาว อีกครึ่งอาจจะมาจากทั่วโลกได้เลย ที่นี่มีชุมชนของคนจีน เกาหลี และญี่ปุ่น ที่ค่อนข้างใหญ่ ผมอยู่แวนคูเวอร์มา 9 เดือน เจอคนไทยไม่เกิน 10 คน และสำหรับที่ Greystone College ผมมีเพื่อนคนไทยอยู่ 1 คน และศิษย์เก่า 2 คน
แวนคูเวอร์เป็นเมืองที่มีความปลอดภัยสูงมาก ถึงแม้ว่าเราอาจจะเห็นคนไร้บ้านอยู่ในตัวเมือง แต่เค้าไม่เป็นพิษเป็นภัย คนไร้บ้านเค้าได้รับการสนับสนุนจากรัฐ หากเค้าถูกจับเนื่องจากทำผิดกฎหมาย เค้าจะไม่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐ สำหรับการเดินทางกลับบ้านดึก ไม่มีปัญหา มีไฟทางตลอดทาง มีรถประจำทางไปไหนมาไหนได้ทั่วถึง
สำหรับสภาพอากาศ ก่อนมา คิดว่าฝนจะตกเยอะมาก พอมาอยู่จริงๆ รู้สึกเหมือนว่าเพียงแค่ฝนตก 50% แต่บรรยากาศมันอาจจะมีความอึมครึมหน่อย แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่แดดออกล่ะ บรรยากาศดีมาก … ถ้าชอบถ่ายรูปจะสนุกเลย
• คิดว่าเราได้อะไรที่เราไม่น่าจะได้หากใช้ชีวิตอยู่ในบ้านเกิด?
สิ่งที่หาที่อื่นไม่ได้คือ วัฒนธรรมและนิสัยของคนที่แตกต่างกัน ที่นี่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมขั้นสูงจริงๆ ในไทยจะเป็นฝรั่งพูดอังกฤษ คนไทยพูดไทย แค่นั่น ในขณะที่แวนคูเวอร์ เราต้องเป็นกลางให้ได้ เพราะมีฝรั่งจากละติน แคริบเบียน เอเชีย จีน เกาหลี ญี่ปุ่น ผมสนใจในสิ่งนี้มาก ในการที่จะได้เรียนรู้และอยู่ในวัฒนธรรมที่หลากหลาย
ที่นี่โอกาสด้านเศรษฐกิจค่อนข้างสูง หากอยากทำงานในบริษัท start-up ถ้าเรามีความโดดเด่นด้านภาษา เราก็จะมีโอกาสการทำงานสูง ซึ่งจะเป็นประสบการณ์ที่ดีเยี่ยม
• การเดินทางที่แวนคูเวอร์เป็นอย่างไร?
ความปลอดภัยสูง ไม่เคยรู้สึกถูกกลั่นแกล้งหรือข่มขู่ นอกจากว่าคนข้างๆ ไม่อาบน้ำ ซึ่งมันก็สร้างมลพิษทางอากาศได้ การเดินทางสะดวก มีรถไฟฟ้า 3 สาย เชื่อมหลายเมือง แค่รถไฟฟ้านี้สามารถไปได้ถึง 5-6 เมือง เราสามารถไปต่างเมืองได้ภายใน 1 ชั่วโมง เราสามารถเช็คและวางแผนการเดินทางผ่าน application (ป้ายรถเมล์ก็หาไม่ยาก) อาทิ Google Maps หรือ Transit
ทางเท้าดีมาก ทุกคนเดิน มีเลนจักรยานเกือบทั่วเมือง คนจึงใช้จักรยานกันทั่วไป ที่นี่จักรยานมีสิทธิตามทางถนน เหมือนรถโดยสารประเภทอื่น รถยนต์ก็สะดวก แต่อย่างอื่นก็สะดวกไม่แพ้กัน ข้อเสียคือ ที่นี่ไม่มี Uber ยังคงต้องใช้ Yellow Cab ซึ่งTaxi application ที่นี่ไม่เวิร์ค เรียกแล้วไม่ค่อยมา
• ต้องเตรียม pocket money ไว้เดือนละเท่าไหร่?
สำหรับค่าที่พัก รวมค่าเช่า แบบอยู่สบาย มีห้องส่วนตัว แชร์ห้องน้ำ (ห้องส่วนใหญ่จะมีครัวให้เลย ยกเว้นอยู่แบบ homestay ที่ครัวอาจจะพัง หรือ host family อาจจะไม่ให้เราใช้) งบประมาณ $600-$800 CAD ต่อเดือน รวมค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอินเทอร์เน็ตแล้ว แต่ถ้าต้องการประหยัด อาจจะหาที่พักแบบ $400-$600 CAD ต่อเดือนได้
สำหรับค่าอาหาร หากกินข้างนอก เช่น กิน food court หรือ fast food ค่าใช้จ่ายจะอยู่ประมาณ $7-$12 CAD ต่อมื้อ ถ้าเป็น fine dining เช่น เบอร์เกอร์ สเต็ก อาจจะประมาณ $20 CAD ต่อเมนู คือ สำหรับงบประมาณค่ากินต่อเดือน ถ้าทำอาหารกินเองบ่อย หรืออยู่แบบโฮมสเตย์ ค่าใช้จ่ายจะไม่เกิน $500 CAD ต่อเดือน คนทานน้อยอาจจะลดได้ถึง $250 CAD ต่อเดือน
นอกจากนั้นแล้ว ค่าโทรศัพท์ตกอยู่เดือนละประมาณ $50 -60 CAD ต่อเดือน สำหรับเวลาคุย 300 นาที ได้เน็ต 4-10 Gb. ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับค่าย
โดยๆรวม สำหรับคนที่ทำงาน part-time และอยากอยู่สบาย เราสามารถจ่ายค่าอาหาร ค่าโทรศัพท์ได้ แต่อาจจะต้องมีเงินก้อนหรือคนสนับสนุนค่าที่พักให้ แต่ถ้าเราประหยัดหน่อย เช่น อยู่นอกเมือง ไม่เที่ยวเยอะ อาจจะทำงาน part-time เพื่อจ่ายค่าใช้จ่ายส่วนตัวได้ทั้งหมด รวมที่พักด้วย
ข. Greystone College และหลักสูตร International Business Management
• ทำไมถึงเลือกหลักสูตรและสถาบัน Greystone College?
International Business Management Diploma เป็นหลักสูตรระดับสูงสุดของวิทยาลัย ผมต้องการท้าทายตัวเอง จึงเลือกเรียนหลักสูตรนี้ และผมสนใจหลักสูตรนี้ เพราะเป็นหลักสูตรที่ได้เรียนอย่างครอบคลุมทุกด้านสำหรับการทำงานด้านธุรกิจ รวมถึง Marketing, Organizational Behaviour, Managerial Communications, Management, Business Law เป็นต้น การได้เรียนรู้ทักษะรอบด้านทำให้ผมได้สำรวจว่าตัวเองต้องพัฒนาด้านไหนเพิ่มในการทำงานเกี่ยวกับธุรกิจอีกด้วย
ผมเลือก Greystone College เพราะเป็นวิทยาลัยมีหลักสูตรระยะสั้น คือ เรียน 6 เดือน และทำงาน 6 เดือน ช่วยให้ได้ทั้งทดลองทำงานและเรียน หรือจริงๆจะเรียนแค่ 6 เดือนและไม่ทำงานต่อก็ได้ อีกทั้งหากเปรียบเทียบกับมหาวิทยาลัยขนาดใหญ่อย่าง UBC จะประหยัดค่าใช้จ่ายไปกว่า 10 เท่าตัวได้เลย นอกจากประหยัดค่าใช้จ่าย แล้วผมยังสามารถใช้โอกาสในช่วงที่ลงเรียน Diploma ที่ Greystone College เพื่อสำรวจความสนใจของตัวเองเพิ่มเติมได้อีกด้วย และหากต้องการศึกษาต่อด้านใดก็สามารถเลือกที่จะต่อได้
• การเรียนหลักสูตร International Business Management เป็นอย่างไรบ้าง?
ผมมองว่า หลักสูตร International Business Management ที่ Greystone College เหมาะสำหรับคนที่ไม่มีประสบการณ์หรือความรู้ด้านธุรกิจมากนัก หากเรามีความรู้หรือเทคนิคเฉพาะทาง และต้องการพัฒนาความรู้ด้านธุรกิจมากขึ้น หรืออาจจะต้องการเตรียมเพื่อการเลื่อนขั้นสู่ระดับผู้จัดการ หลักสูตรนี้คงจะตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี แต่หากมีประสบการณ์และความรู้จากการทำงานธุรกิจมาเยอะๆ อาจจะเป็นการเรียนรู้ซ้ำได้
ผมชอบ เพราะว่าเรียนเข้ม หากใครต้องการมาที่นี่เพื่อที่จะเรียนให้ได้ความรู้จริง จะได้รับสิ่งนั้นแน่นอน เราเข้าเรียนเข้า 9 โมง เลิกบ่าย 2.30 มีเบรคเช้าและเที่ยง แต่วันศุกร์จะเลิกเที่ยง หลังเลิกเรียนจะมีเวลาไปทำกิจกรรมและไปเที่ยว นอกเวลาเรียนมีการบ้านเกือบทุกวัน หากเทียบกับหลักสูตร International Business Management กับหลักสูตรอื่นของ Greystone College หลักสูตรนี้จะเรียนเข้มข้นมากกว่า เช่น หลักสูตร Customer Service
สำหรับการเรียน จำนวนนักเรียนต่อห้อง 1 ห้องเรียน จะมีไม่เกิน 20 คน โดยเฉลี่ยประมาณ 15-17 คน ต่อห้องเรียน นักเรียนจะเรียน 1 วิชาต่อเดือน ดังนั้นมันจะไม่สับสนหรือน่าปวดหัวจนเกินไป
• ชอบเรียนวิชาไหน? วิชาไหนเป็นประโยชน์มากที่สุด?
วิชาเรียนชอบมากที่สุด คือ marketing เพราะเคยทำมาและคุ้นเคยอยู่แล้ว ทำให้เรากล้าเล่น กล้าทำอะไรได้เยอะในคลาสเรียน วิชาที่เป็นประโยชน์ คือ Organizational Behaviour ที่ได้เรียนเกี่ยวกับการจัดการสภาพแวดล้อมในองค์กร การทำให้คนมีกำลังใจ มีแรงจูงใจ และสามารถทำงานร่วมกันได้ สามารถสื่อสารกันภายใน ทีม และสื่อสารกันทางอ้อมได้
วิชา Managerial Communication ก็เป็นวิชาที่น่าสนใจ ถึงแม้เราอาจจะรู้เกี่ยวกับมันอยู่บ้างแล้ว เช่น การเขียนจดหมาย การนำเสนอ การพูดคุยในบริบทที่แตกต่าง เช่นกับเพื่อนร่วมงาน ลูกค้า หรือนายจ้าง แต่มันมีความใหม่ที่ได้เรียนรู้ คือ เกี่ยวกับการสื่อสารกับวัฒนธรรมที่แตกต่างหลากหลายในแคนาดา ซึ่งจำเป็นต่อการใช้ทำงานในสังคมที่นี่
นอกจากนี้แล้ว มีวิชาที่ advanced มากกว่าปกติ ที่นักเรียนสามารถรวมกลุ่มกัน 12 คน มาเพื่อสมัครเรียน เช่น บัญชี การเงิน ให้โรงเรียนพิจารณา ซึ่งแซมได้ลงเรียนวิชา Accounting ด้วย สำหรับแซม มันเป็นประโยชน์ เราได้เรียนรู้เกี่ยวกับธุรกิจมาหลายด้าน แต่ไม่มีความรู้ด้านบัญชี ในวิชานี้ เราได้เรียนรู้ตรรกะและโครงสร้างของบัญชี ทำให้เราเปลี่ยนความคิดเกี่ยวกับมัน และอาจจะทำให้เราทำงานกับสายบัญชีง่ายขึ้นในอนาคต
• ต้องเก่งภาษาขนาดไหนถึงจะเรียนแบบนี้ได้ และทำงานได้?
หลักสูตรนี้ ใช้ผลสอบ IELTS 6.5 แต่ผมทำแบบทดสอบออนไลน์ของสถาบัน ILSC ก่อนทั้งในส่วนของแบบทดสอบออนไลน์ และการสัมภาษณ์ออนไลน์ และได้รับการตอบรับเข้าเรียนในหลักสูตรนี้ได้เลย (หากระดับภาษายังไม่ถึงและไม่อยากสอบ IELTS/TOEFL สามารถลงเรียนภาษาอังกฤษกับสถาบัน ILSC ให้จบระดับที่ต้องการเพื่อเข้าต่อ diploma ได้)
ค. การทำงานระหว่างเรียนต่อแคนาดา
• ได้ทำงานไหม? ทำงานอะไร? เป็นอย่างไรบ้าง?
ระหว่างเรียน 6 เดือน ทำงาน part-time เป็น Sales อยู่ที่ฟิตเนสแห่งหนึ่ง ที่อยู่ติดน้ำ วิวดี มีภูเขา ผมได้ใช้ภาษาจริงๆ พูดคุยกับลูกค้า ใช้ความสามารถเยอะ ผมชอบ แต่เราไม่ได้ตั้งใจที่จะทำ Sales แต่มันตอบโจทย์การทำงาน part-time ตอนนั้น ผมได้ค่าตอบแทน $12.65 CAD ต่อชั่วโมง ยังไม่รวมคอมมิชชั่น
ช่วง Co-op ผมทำงานเป็น Training Supervisor ในร้านอาหารครับ ที่เลือกเพราะมีโอกาสที่เขาจะช่วยสปอนเซอร์วีซ่าให้อยู่ต่อ แต่พอทำงานไปเราเข้าใจตัวเองมากขึ้นว่านี่ไม่ใช่จุดแข็งของเรา และมันจะทำให้เราเหนื่อยมากในระยะยาวจึงตัดสินใจเปลี่ยนงาน ตอนนี้ทำงานเป็น part-time Digital Marketer ครับเพราะเป็นสายงานที่ตัวเองถนัด
ในช่วง Co-op เราสามารถทำงานฟูลทามได้ คือ 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ แต่ชั่วโมงขั้นต่ำที่จะทำให้เราจบหลักสูตรได้คือ ทำงาน 24 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ เราสามารถวางแผนได้จากการคำนวนชั่วโมงทำงานรายสัปดาห์ ทั้งนี้ควรปรึกษากับแผนก Co-op ของสถาบัน หากต้องการจะเปลี่ยนงาน เวลาเปลี่ยนงานที่เหมาะสมคือภายในหนึงงเดือน นั่นหมายถึงเราควรเตรียมตัวก่อนลาออก อย่าลาออกแล้วค่อยเริ่มหางาน เพราะมีโอกาสที่เราจะไม่ได้งานทันที
• ช่วงที่เรียน Diploma หางาน part-time ยากไหม?
ระหว่างเรียน Diploma หางาน part-time ไม่ยากครับ หากเราอยากได้งาน part-time เมื่อเดินเข้าร้านกาแฟ หรือ McDonald เค้ารับแน่นอน สำหรับ summer season ช่วงปลายเมษายน-กรกฏาคม การจ้างงานสูงขึ้น แต่ข้อเสียของ summer season คือ หาที่อยู่ยากครับ
• ขอข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำงานระหว่างเรียนที่แคนาดาหน่อย?
สำหรับนักเรียนที่ต้องการเรียนภาษาก่อน เพราะภาษาอังกฤษอาจจะยังไม่แน่น เราต้องเรียนภาษาให้แน่น หากเราสามารถใช้ภาษาอังกฤษได้ดี โอกาสในการจ้างงานก็จะเยอะขึ้น ทั้งนี้ในการหางาน มันขึ้นอยู่กับความต้องการของเราด้วย เช่น หากต้องการได้งานที่เราจะได้ฝึกภาษาและเรียนรู้วัฒนธรรม เราอาจจะต้องทำงานที่มี interaction กับผู้คน หรือหากเราต้องการทำงานเฉพาะทางในบริษัท มันก็ขึ้นอยู่กับ portfolio และประสบการณ์การทำงานก่อนหน้าของเราด้วย
ในเอกสาร study permit (ใบอนุญาตทำงาน) มันจะระบุรายละเอียดเกี่ยวกับการทำงานไว้ชัดเจน เช่น เราไม่สามรถทำงานเกี่ยวกับ adult industry คือเกี่ยวกับ SEX ได้ เราสามารถทำงานได้สัปดาห์ละ 20 ชม. …อีกเรื่องหนึ่งครับ ที่นี่ ถ้าอายุ 19 ปี+ เราสามารถทำงานและเช้าผับเข้าบาร์ได้ ( 21 ปีสำหรับอเมริกา)
• แผนกช่วยจัดหางานของวิทยาลัยเป็นอย่างไรบ้าง?
แผนกจัดหางานของวิทยาลัยออกไป network กับบริษัทอยู่เรื่อย ทำให้เค้าสามารถทราบข้อมูลและช่วยแนะนำเราได้ ทั้งนี้เราต้องพึ่งพาตัวเองด้วย หากรู้ว่าตัวเองต้องการงานประมาณ ก็จะช่วยได้มาก หลักๆแล้ว เราต้องพึ่งตัวเอง (อย่าไปหวังพึ่งเค้า 100%) คนที่ได้งานคือคนที่ทำเองด้วยและขอคำปรึกษาจากแผนกจัดหางานของวิทยาลัยไปด้วย การเข้า job fair และการสร้าง network ด้วยตัวเองก็ช่วยได้มาก
ง. ทิ้งท้ายเกี่ยวกับการเรียนต่อ Greystone College แวนคูเวอร์ แคนาดา
• โดยรวมๆแล้ว แนะนำ Greystone College มากน้อยแค่ไหน?
โอเคเลยครับ หากเราไม่ได้ตั้งเป้าว่าจะเรียนต่อปริญญา หรือไม่ได้จะเอา Graduate Work Permit แต่เมื่อจบจะได้ประกาศนียบัตรนะครับ ที่นี่เหมาะสำหรับคนที่ต้องการการลองเชิง หรือชิมลางก่อนต่อหลักสูตรอื่นๆ
สำหรับคนที่สนใจอยากจะศึกษาต่อปริญญาตรีหรือปริญญาโทในมหาวิทยาลัย ไม่ควรลงคอร์สที่ง่ายกว่า International Business Management หรือ Advance Business Administration ครับเพราะระดับการใช้ภาษาศัพท์เฉพาะ และทักษะมันต่างกัน มีคนรู้จักที่ลงคอร์สที่ง่ายกว่านี้ แล้วลำบากตอนที่เรียนต่อปริญญาโท เพราะระดับการใช้ภาษาที่ต่าง ดังนั้นถ้าอยากใช้ภาษาในระดับที่ท้าทายความสามารถ แนะนำให้ลงสองคอร์สนี้ครับ
สำหรับใครที่อยากเน้นเรียนต่อมหาลัยป.ตรี การเลือกเรียนโปรแกรมที่สามารถ transfer ไปมหาลัยได้หลังจากจบสองปีอาจจะเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ ทั้งนี้ต้องบอกว่า Greystone College ไม่มีระบบนี้นะครับ วิธีสังเกต คือเข้าไปดูในเว็บไซต์ของสถาบัน ในแต่ละโปรแกรมจะมีการพูดถึงเรียนเพิ่มอีกสองปี (จากสองปีแรก) เพื่อจบการศึดษาระดับปรืญญาตรี (สามารถปรึกษาก้อปันกันได้ครับ)
• สุดท้ายนี้มีอะไรอยากแนะนำเพิ่มเติมไหม?
ตอนนี้ที่รัฐ British Columbia มีโครงการ Tech Pilot ซึ่งเค้ามีลิสต์ของอุตสาหกรรมที่ต้องการคนทำงานเพิ่มขึ้นมาก หากใครมีทักษะที่เค้าต้องการ และสนใจทำงานในต่างประเทศ ก็จะโอกาสการจ้างงานสูงที่นี่สูง
ประสบการณ์เรียนต่อแคนาดา Greystone College
Photo Credits : แซม Rachata
เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Greystone College คลิก
