[รีวิว] เรียนหลักสูตร Diploma in Business ที่แคนาดา กับสถาบัน ILAC International College โดยคุณพิม

การเรียนการสอนในหลักสูตรนี้ได้เรียนเกี่ยวกับอะไรบ้างคะ ระยะเวลาเรียนกี่ปี?

พิมเลือกเป็นคอร์สประมาณ 2 ปีค่ะ เรียน 9 เดือน ทำงาน 9 เดือน หลักสูตรก็จะสอนเกี่ยวกับพวก Project Management, Digital Marketing, Basic Business Math, Accounting คร่าว ๆ ประมาณนี้ค่ะ

หลังจากเรียนคอร์สนี้แล้วเป็นยังไงบ้าง ช่วยรีวิวหลักสูตรนี้ให้ฟังหน่อยค่ะ ในแง่ของเนื้อหาหลักสูตร อาจารย์ที่สอน การสอบ และเพื่อนร่วมคลาส?

ในแง่ของหลักสูตรมีทั้งที่เป็นทฤษฎี เนื้อหาเยอะ ๆ เขียน  essay ทุกคาบก็มี แต่ส่วนใหญ่ อาจารย์ชอบให้เราแสดงความคิดเห็น ช่วงแรกที่ยังไม่มั่นใจในภาษาอังกฤษ ก็จะเกร็ง ๆ หน่อย แต่ทุกคนให้กำลังใจดีมาก ทั้งอาจารย์ ทั้งเพื่อนในห้อง คลาสแรกที่พิมเรียนไม่มีคนไทยในห้องเลย ได้ใช้ภาษาอังกฤษ 100% เพราะพิมไม่มีเพื่อนคนไทยเลยทั้งนอกห้องเรียนหรือในห้องเรียน ซึ่งในห้องมันจะมีทั้งคนที่พูดได้และพูดไม่ได้ เพราะฉะนั้นไม่ต้องกังวลเลยค่ะ ส่วนตัวชอบ Project Management และ Digital Marketing ที่สุดเพราะได้ทำกิจกรรมเยอะ เช่น การสร้างแบรนด์ลงบน social media ต่างๆ การสร้าง web page ของแบรนด์ รู้สึกว่าสามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตการทำงานในอนาคตของตัวเองได้มากที่สุด

ส่วนการสอบส่วนใหญ่ของที่นี่จะไม่ยากมากนะคะ ก็ออกตามที่เรียนหรือสอนในห้อง การเก็บคะแนนในงานต่าง ๆ ไม่ได้ยากขนาดนั้น แต่จะมีพรีเซนต์หน้าห้องเยอะหน่อย แรก ๆ ก็ไม่ชินแต่หลัง ๆ ก็ปล่อยจอยเลยค่ะ แค่ตั้งใจทำออกมาให้ดีที่สุด ส่วนอาจารย์ที่นี่เขาไม่ดุเลย เหมือนเขาเข้าใจว่าเราเป็นต่างชาติ เขาจะให้เราพยายามพูดเยอะ ๆ หากิจกรรมต่าง ๆ ให้เราทำบ่อย ๆ ทั้งงานกลุ่ม งานเดี่ยว อีกอย่างคือ อาจารย์และเพื่อนที่นี่มีหลายเชื้อชาติมาก ๆ เพราะฉะนั้นเราจะได้รับรู้ และเห็นถึงตวามแตกต่างของอาจารย์และเพื่อนแต่ละคนได้เป็นอย่างดี ได้ฝึกทั้งการฟังสำเนียงต่าง ๆ และการปรับตัวที่จะอยู่กับเพื่อนแต่ละชาติ

ILAC มีบริการอะไร support นักเรียนบ้าง?

ILAC จะส่งอีเมลมาเตือนตลอดเวลามีกิจกรรมสำคัญของทางโรงเรียน หรือแม้แต่ระยะเวลาที่เราขาดเรียนว่า Maximum คือเท่าไหร่แบบไหน สามารถเข้าไปเช็คในแอปพลิเคชันได้เลยทั้งวิชาเรียน การส่งงาน การขาดเรียน คะแนนสอบ หรือคะแนนงานต่าง ๆ ตรงนี้ดีมากเลยค่ะ เพราะเราจะได้รู้ว่าเรายังไม่ส่งอะไรบ้าง ต้องทำอีกกี่คะแนนถึงจะผ่าน สะดวกมาก ๆ เลยค่ะ แถมยังมีอีเมลส่งมาเรื่องการหางานอีกว่า ที่ไหนเปิดรับบ้าง เราสามารถเข้าไปเช็คได้ มีกิจกรรมเยอะมากให้เราได้เข้าร่วม ทั้ง Boat Party, Halloween, Easter Day สนุกมากค่ะ ไม่ต้องกลัวเหงาเลย

ช่วยแนะนำวิธีหางาน part-time และการทำงานที่แคนาดาหน่อยค่ะ?

ช่วงประมาณ 3-4 เดือนแรกพิมไม่ได้ทำงานเลยค่ะ เน้นใช้ชีวิตให้ชินกับเมืองกับการเรียนและการเดินทาง แล้วก็เริ่มหางานช่วงเดือนที่ 4 หลังจากที่มาถึง ร้านแรกที่ได้ทำเป็นร้านไทยค่ะ ได้จาก facebook คนไทยค่ะ พอดีทางร้านเปิดรับสมัครพอดีเลยลองยื่นดูค่ะ จริง ๆไม่เคยทำงานร้านอาหารมาก่อนเลย แอบยากแล้วก็ตื่นเต้นนิดหน่อย แต่หลังจากปรับตัวได้ก็โอเคค่ะ ทำมาเรื่อย ๆ ก็เริ่มหางานใหม่ คนที่นี่ส่วนใหญ่ใช้ Indeed ในการหางานนะคะเท่าที่ทราบ แต่ก็มีไปยื่นเรซูเม่หน้าร้านด้วยเช่นกันค่ะ  ร้านที่สองเป็นร้านอาหารญี่ปุ่นค่ะก็สนุกดี ได้ลองทำอะไรใหม่ ๆ ที่ไม่เคยทำ ได้ฝึก soft skill เยอะมาก ๆ ทั้งด้านการจัดการพนักงานในร้าน การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า การทำงานแข่งกับเวลา และได้ใช้ภาษาเยอะขึ้นเพราะเพื่อนที่ทำงานส่วนใหญ่เป็นต่างชาติเลยต้องสื่อสารเป็นภาษาอังกฤษค่ะ

มีวิธีการหาที่พักที่แคนาดาอย่างไร?

พิมติดต่อพี่คนไทยที่อยู่แคนาดา ให้หาให้ก่อนมาที่นี่ประมาณ 2-3 อาทิตย์ก่อนมาค่ะ ก็สะดวกดีนะคะ มีวิดีโอคอลให้ดูบ้านจริงตอนที่เข้าไปเช็คเพื่อให้เราเลือก ส่วนค่าใช้จ่ายทางพี่เขาจะแจ้งอีกที  ค่าเช่า 1,060 CAD ต่อเดือน เป็นห้องนอนมีห้องน้ำส่วนตัวค่ะ อยู่จนครบสัญญาก็ย้ายบ้าน เนื่องจากค่อนข้างไกลจากที่ทำงาน พิมได้บ้านจาก craigslist ค่ะ ก็โอเคนะคะ เนื่องจากเราสามารถไปดูบ้านด้วยตัวเอง เลยค่อนข้างถูกใจแล้วก็เดินทางสะดวกใกล้สถานีรถไฟ สามารถเดินไปได้ เลือกตาม location ที่เราชอบและสะดวก ค่าเช่าอยู่ที่ 950 CAD ต่อเดือน

เมืองแวนคูเวอร์เป็นยังไง หลังจากอยู่แล้วเมืองนี้มา คิดว่ามีข้อดีและข้อเสียอะไรบ้างคะ?

แวนคูเวอร์มีทั้งด้านที่ชอบแล้วก็ไม่ชอบค่ะ ข้อดีคือการเดินทางใช้แค่บัตรโดยสารใบเดียว สามารถเช็ควิธีการเดินทางหรือว่าเวลาของรถบัส รถไฟได้ตาม Google map สะดวกมาก ๆ เมืองปลอดภัย แล้วก็อากาศดีมากเลยค่ะ ยิ่งหน้าร้อนคือ enjoy มาก ที่เที่ยวสวย ๆ ธรรมชาติเยอะ คนใจดีแล้วก็คนเอเชียเยอะมากเช่นกันค่ะ เนื่องจากเด็กนักเรียนต่างชาติก็เยอะ โดยเฉพาะ จีน อินเดีย ส่วนเรื่องอาหารก็หลากหลายมาก ใครที่กลัวจะหาของกินไม่ได้คือไม่ต้องห่วง มีอาหารหลายชาติให้เลือกกินเลยค่ะ

ส่วนข้อเสียก็ส่วนตัวคิดว่าพวกคนไร้บ้านแอบเยอะไปหน่อย แต่เขาก็ไม่ได้ทำอะไรเรานะคะ ถ้ารู้สึกไม่ชอบก็แค่เดินห่าง ๆ อีกอย่างคืออากาศค่ะ ช่วงหน้าหนาวจะเศร้าเป็นพิเศษ เพราะมืดไวมาก พระอาทิตย์ขึ้นเกือบ 8 โมงเช้า ตกก็ประมาณ 4 โมงเย็น เร็วมาก อากาศหม่น ฝนตกบ้าง มันเลยเศร้าง่ายค่ะ 5555 และข้อเสียสุดท้ายคือ ทุกอย่างแพงกว่าที่คิด ค่าแรงที่นี่ค่อนข้างกลางไปถึงสูงแต่ก็พอ ๆ กับค่าครองชีพในแต่ละวัน เช่น  ค่าอาหาร ค่าที่พักก็ค่อนข้างแพงเลยค่ะ ถ้าทำงาน part-time อาจจะเก็บเงินยากหน่อยแต่ถ้าเป็น full-time ก็ช่วยได้อยู่ค่ะ

มีข้อคิด คำแนะนำอะไรเพิ่มเติมสำหรับคนที่กำลังตัดสินใจอยากมาเรียนต่อหรือมาอยู่แคนาดาบ้างไหมคะ?

ถ้าตั้งใจอยากมาแล้วก็แนะนำให้ลองมาดูค่ะ เปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ เพราะประสบการณ์ของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน ถ้าแนะนำคร่าว ๆ ก็อยากให้ทำการบ้านดี ๆ ในด้านค่าครองชีพ อากาศ ผู้คน สังคม การใช้ชีวิต ว่าเราโอเคและรับได้ไหม แล้วก็ตั้งเป้าหมายให้ชัดว่าเราอยากอยู่ที่นี่ต่อหลังเรียนจบหรือกลับไทย ถ้าเป้าหมายชัดระหว่างทางมันจะง่ายขึ้นค่ะ เราจะรู้ว่าตรงไหนที่เราต้องทำเพื่อให้ได้อยู่ต่อ หรือเราต้องเลือกเรียนคอร์สไหนยังไง แล้วก็ส่วนตัวคิดว่าถ้าหวังมาเก็บเงินกลับไทยคิดว่าค่อนข้างยาก เพราะค่าครองชีพค่อนข้างสูงแต่ก็พอดีกับรายได้ที่เราได้ค่ะ แต่จริง ๆ ถ้าตั้งใจเก็บก็สามารถทำได้เช่นกันค่ะ ขึ้นอยู่กับการใช้ชีวิตของแต่ละคนด้วยค่ะ

รีวิวก้อปันกันให้ฟังได้ไหมคะ อะไรทำให้เลือกใช้บริการของก้อปันกัน?

ตอนแรกก็ศึกษาหาข้อมูลจากหลายเอเจนซี่ แต่ตัดสินใจเลือกก้อปันกัน เพราะให้คำแนะนำในเรื่องต่าง ๆ ดีและละเอียดกว่าที่อื่นค่ะ ไม่ขายฝัน พูดตามความจริง ดูใส่ใจ แล้วก็พยายามช่วยเราคิด และให้คำแนะนำในสิ่งที่เราต้องรู้ก่อนที่จะสมัครเรียน ทั้งเรื่องเอกสารหรือจดหมายต่าง ๆ ที่เราต้องเขียนตอนยื่นวีซ่าว่าทำไมเราถึงอยากเรียนสาขานี้ ทำไมถึงต้องเป็นแคนาดา ชอบวิธีการดำเนินการ มีระบบ Portal คอย Track เอกสารต่าง ๆ ที่ต้องเตรียม พร้อมทั้งคำแนะนำในทุก ๆ กระบวนการในแต่ละขั้นตอน พร้อมทั้งบอกว่าเราดำเนินการถึงขั้นไหนแล้ว กี่เปอร์เซ็นต์แล้ว สะดวกและเป็นระบบมาก ๆ ค่ะ