Photo Credit : Colton Duke on Unsplash
New York
เวลามีคนพูดถึงประเทศอเมริกา พวกเรานึกถึงเมืองไหนเป็นแห่งแรกล่ะ?
มั่นใจมากเลยว่า #นิวยอร์ก จะอยู่ใน Top 3 – สามอันดับแรกที่ไม่ใช่แค่คนไทยเท่านั้นนะ แต่นี่คือเมืองแห่งฝันของคนทั่วทั้งโลกที่หมายมุ่งจะไปเยือนสักครั้งในชีวิต
ความฝันของพ่อและแม่
ถ้าเด็กรุ่นใหม่ฝันอยากไปดูแสงเหนือ หรือขับรถมอเตอร์ไซค์ที่อินเดีย นิวยอร์กจุดสูงสุดในชีวิตของการเดินทางสำหรับคนรุ่นพ่อและแม่ของเรา เพราะไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่คนไทยสักคนจะได้บินลัดฟ้าไปถ่ายรูปกับเทพีเสรีภาพ รูปปั้นซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้พวกเขาอยากเดินทาง: ไปเรียน ไปเที่ยว หรือแม้กระทั่งไปทำงานทั้งๆ ที่ไม่รู้ว่าจะอยู่ได้เลยหรือเปล่า!
ตัดภาพกลับมาตอนนี้ โปรตั๋วเครื่องบินในราคา 2-3 หมื่นสามารถพาเราไปและกลับนิวยอร์กได้สบายๆ พร้อมกิจกรรมมากมายให้เลือกทำ – – ข้อดีคือ เราไม่ต้องอธิบายให้วุ่นวายว่านิวยอร์กดียังไง แถมพ่อกับแม่ยังมีข้ออ้างเดินทางมาเยี่ยมลูกๆ ถึงที่ และเที่ยวเมืองในฝันของพวกเขา!
แพง แพง และแพง!
พูดอย่างตรงไปตรงมาเลยก็แล้วกัน ค่าครองชีพในนิวยอร์กนั้นสูงมากๆ แต่ก็คงเป็นสิ่งที่หลายคนน่าจะประเมินไว้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว จริงมั้ย? ทีนี้ ขออธิบายไว้คร่าวๆก่อนว่า นิวยอร์กเป็นรัฐที่ซอยย่อยออกเป็นหลายๆเมือง ค่าครองชีพในแมนฮัตตันจะแพงสุด เพราะบรรยากาศไฮโซหรูหรามากๆ ส่วนถ้าข้ามมาฝั่งบรู๊กลิน (ประมาณว่าฝั่งธนฯ บ้านเรา) ราคาค่าของจะถูกลงมาหน่อยนึง
ซึ่งเมืองที่ค่าครองชีพเป็นมิตรกับเรามากที่สุดเห็นจะเป็น The Bronx ซึ่งอยู่ห่างจากเซ็นทรัล พาร์ค ประมาณ 16.5 กิโลเมตร – – ค่าเช่าอพาร์ทเม้นต์ในเมือง แบบ 1 ห้องนอนตกอยู่ที่เดือนละแสน! ถ้านอกเมืองออกมาหน่อยจะเหลือประมาณ 6 หมื่ิน/เดือน / บิ๊กแมคอันละ 249 บาท / อาหารทั่วไปตกมื้อละ 460 บาท / ตั๋วรถไฟรายเดือนประมาณ 3,775 บาท – – ค่าใช้จ่ายทั้งหมดนี้จะถูกลงในกรณีที่เราเป็นนักเรียนและอยู่กินในสถานที่ซึ่งสถาบันเตรียมไว้ให้ ถือว่าเป็นข้อดีที่ทำให้เราได้สัมผัสนิวยอร์กในราคาดีกว่าคนอื่น แต่สภาวะนักเรียนมีข้อจำกัดนะ ใครยังเรียนอยู่แล้วอยากมาต้องรีบๆ หน่อย
Photo Credit : Nad Hemnani on Unsplash
นิวยอร์ก เมืองแห่งโอกาส
รู้ไหมว่าอะไรคือสิ่งที่ทำให้คนยังขวนขวายจะมานิวยอร์ก ทั้งๆ ที่ค่าครองชีพแพงกว่าเมืองไทยหลายเท่าตัว ก็เพราะว่าที่นี่มี ‘โอกาส’ ยังไงล่ะ และไม่ได้เป็นคำขายฝันด้วย นิวยอร์กเต็มไปด้วยโรงเรียน มหาวิทยาลัย และสถาบันการศึกษาเฉพาะทางระดับโลก การันตีด้วยการติดท้อป 10 และท้อป 20 ซึ่งเชื่อเถอะว่าอยู่ในทุกลิสต์ ไล่มาตั้งแต่ Columbia University, New York University, Cornell University และโรงเรียนสอนแฟชั่น Parsons ที่เป็นส่วนหนึ่งของ The New School
แต่นี่ไม่ใช่แค่โอกาสทางการศึกษา เพราะในสถานที่เหล่านี้จะเต็มไปด้วยคนเก่ง และการฝึกงานในสถานที่จริง และยังเปิดโอกาสให้เราไปแฮงก์เอ๊าท์กับคนในวงการได้ง่ายขึ้นด้วยนะ ความสำคัญอยู่ตรงนี้ ประสบการนอกห้องเรียนจะเป็นตัววัดศักยภาพและการเอาตัวรอดของมนุษย์ได้ดี รู้มั้ยว่านิวยอร์กมีอัตราการจ้างงานสูงถึง 7.7 จากคะแนนเต็ม 10 และเติบโตถึง 4.9 เปอร์เซ็นต์จากปีที่แล้ว ถามจริงๆ คิดว่ามีเมืองไหนที่ตอบโจทย์อาชีพในฝันได้เท่านี้บ้าง?
ไม่ต้องกลัว นี่คือพื้นที่ของทุกคน
ให้ทายว่านิวยอร์กมีขนาดใหญ่แค่ไหน… ประมาณ 1.4 แสนตารางกิโลเมตร เทียบง่ายๆ ว่าเล็กกว่าภาคอิสานของบ้านเรานิดหน่อย ทั้งรัฐมีประชากร 20.1 ล้านคน!!! เยอะแบบเยอะมากกก แต่ทั้งหมดนี้ใช้ว่าจะเป็นชาวอเมริกันทั้งหมด เพราะถ้าใครเคยไปมาแล้ว จะเห็นว่าบนถนนนั้นเต็มไปด้วยผู้คนหลากหลายเชื้อชาติ พวกเขาอาจมีสัญชาติอเมริกาในบัตรประชาชนก็จริง แต่ก็มาในรูปแบบฝรั่งผิวขาว ผิวดำแบบอัฟริกัน เอเชีย สเปน หรือลูกครึ่งระหว่างตะวันตกกับเอเชีย
คิดเอาง่ายๆ ว่าเหมือนเราดูหนังฮอลลีวู้ดสักเรื่องแล้วมีทั้งตัวละครชาวเอเชีย หรือบางคนพูดติดสำเนียงสเปน นั่นแหละ นิวยอร์กเลย ฉะนั้นไม่ต้องกลัวเรื่องเหยียดผิว เพราะมีอยู่ทุกที่! แต่เราจะไม่ได้ดูแตกต่างไปจากคนอื่น เพราะที่นี่หลากหลายทั้งภาษา สำเนียง คาแรกเตอร์ ไม่มีใครสนใจใครหรอกว่าเป็นคนในเมืองหรือเป็นนักท่องเที่ยว นี่เป็นโอกาสอันดีที่เราจะได้เรียนรู้วัฒนธรรมอันหลากหลาย รวมทั้งกล้าที่จะพูดภาษาอังกฤษกับคนอื่นมากขึ้น รู้ตัวอีกทีก็ยืนเถียงกับฝรั่งจนไฟลุกแล้ว
Photo Credit : Nicolai Berntsen on Unsplash
เป็นทุกอย่างให้เธอแล้ว
เพื่อนคนเราคนนึงนิยามนิวยอร์กไว้ว่า “แค่หาส้มตำกับน้ำจิ้มซีฟู้ดยากหน่อย แต่ที่เหลือ ที่นี่มีหมดทุกอย่าง” อย่างแรกคือ รถไฟใต้ดิน (Metro) ของเขาเปิด 24 ชั่วโมงอะทุกคน หมดปัญหาต้องไปยืนคอยขบวนสุดท้าย ทั้งๆที่ยังเต้นไปได้ไม่กี่เพลง (จริงมั้ย!) ด้วยความที่อากาศร้อนสุดของเขาคือ 25 อาศาเซลเซียส บรรยากาศของเมืองจึงเหมาะแก่การทำทุกอย่างจริงๆ
อย่างที่บอกไปแล้วว่าที่นี่คือเมืองแห่งความหลากหลาย เดินไปเดินมาเราอาจเห็นบาร์อยู่ข้างๆ พิพิธภัณฑ์ เลยไปอีกหน่อยเป็นสวนสาธารณะ และมีการเดินขบวนประท้วงอะไรบางอย่าง ชั้นสองของตึกนั้นเป็นออฟฟิศสตาร์ทอัพแห่งหนึ่งของคนรุ่นใหม่ หัวมุมตึกโน้นเป็นคาเฟ่ที่แซนด์วิชอร่อยมาก และทุกๆ คอมมูนิตี้จะอัพเดทกันผ่านแอพฯ ประชุมงานรุ่นใหม่ที่ไม่ยุ่งยากเหมือนเคย วันหยุดนัดกันไปดูบรอดเวย์เรื่องใหม่ที่เล่นไปแล้วกว่าร้อยรอบ – – เราพูดได้อย่างเต็มปากว่านี่คือบรรยากาศของโลกที่หนึ่งซึ่งอธิบายยังไงก็ไม่เท่ากับมาสัมผัสเองจริงๆ ที่เที่ยวไหนควรไป กูเกิ้ลแป๊บเดียวก็รู้ แต่ใช้ชีวิตยังไงให้คุ้มเนี่ย ไม่ลองจะรู้ได้ไง
ไปตามหาประวัติศาสตร์กันเถอะออเจ้า!
ความน่าภาคภูมิใจของคนไทยก็คือ เรามีประวัติศาสตร์และเรื่องราวมากกว่าอเมริกามากๆ เพราะอเมริกาก่อตั้งหลังจากเสียกรุงอยุธยาประมาณ 10 ปี แต่! สิ่งที่เรากลับอิจฉาเมกามากๆ ก็คือเขามีพิพิธภัณฑ์สุดเจ๋งมากกว่าเราหลายเท่า ถ้าเคยดูภาพยนตร์เรื่อง Night at the museum ฉากนั้นเขาถ่านที่ American Museum of Natural History มีต้นกำเนิดของมนุษย์และเผ่าพันธ์ต่างๆ ให้ศึกษา
แต่ถ้าไม่อยากไปเดินดูกับเด็กๆ ที่มาทัศนศึกษา นิวยอร์กเนี่ย มีมิวเซียมเงียบๆ อีกมากที่ให้เราไปผ่อนคลายในเวลาว่าง เช่น The Metropolitan Museum of Art in New York เน้นงานศิลปะ มีงานป๊อปอัพจัดแสดงบ่อยมาก / The Brooklyn Museum ที่จัดแสดงวัตถุโบราณจากอัฟริกา และอียิปต์เป็นหลัก หรือที่ The New Museum of Contemporary Art ซึ่งเน้นงานอาร์ตสมัยใหม่เป็นหลัก สวยตั้งแต่ตัวตึกภายนอกที่ออกแบบโดยสถาปนิกชาวญี่ปุ่น ใครชอบงานโครงสร้าง งานตึก หรืองานสวย ไปเถอะ เมืองไทยไม่มี!
ส่วนเทพีเสรีภาพ ไปให้เห็นสักครั้งก็พอแล้ว มีเรื่องสนุกอีกมากรอให้ทำอยู่!
เรียนต่ออเมริกาใน New York
EC English Language Centres สถาบันสอนภาษาอังกฤษที่มีหลายสาขากระจายอยู่ใน 7 เมืองเลื่องชื่อของอเมริกา นักเรียนจึงมีอิสระที่จะเลือกเรียนภาษาอังกฤษในสถานที่และสภาพแวดล้อมที่ตนเองสนใจได้อย่างเต็มที่ นอกจากจุดเด่นด้านความหลากหลายของสาขาที่ตั้งแล้ว EC ยังมีหลักสูตรให้เลือกเรียนมากมายอีกด้วย อาทิ General English, English for Business, Education & Exams, Fusion – Hybrid Learning สำหรับวิทยาเขต New York นั้น ตั้งอยู่ใจกลาง Time Square สัญลักษณ์อันโดดเด่นของเมือง ใกล้กับโรงละครบรอดเวย์ชื่อดังของโลก ไม่ไกลจาก 5th Avenue, ตึก Empire State Building และสถานีรถไฟแกรนด์เซ็นทรัล
เพิ่มเติมเกี่ยวกับ EC English Language Centres คลิกที่นี่