ประสบการณ์เรียนที่ Green River College
โดย มาย
หลักสูตร : High School Completion
และ 2+2 University Transfer
Major : Business
ระยะเวลา : 1 ปีกว่าเกือบ 2 ปี
ก่อนจะมาเรียนที่นี่ พื้นฐานภาษา หรือ การใช้ชีวิตเราเป็นยังไงบ้าง?
มายเป็นเด็กแลกเปลี่ยนที่แคลิฟอร์เนีย มาก่อนค่ะก็เลยไม่ได้รู้สึกว่ามันต่างกันมาก ตอนนั้นมายอยู่กับโฮสแฟมมิลี่เหมือนกัน โฮสเขาจะเป็นเหมือนพ่อแม่ของเราเลย พวกเขาจะดูแลเราอย่างจริงจังมาก ตอนแลกเปลี่ยนก็มีกฏอยู่เยอะด้วย แต่โฮสที่นี้ เขาจะเป็นเหมือนโฮมสเตย์มากกว่า คือ ดูแล ทำอาหารให้กิน แต่ไม่ได้มีข้อห้ามอย่าง ห้ามกลับบ้านดึกอะไรอย่างนั้น เขาถือว่าเราต้องดูแลตัวเองได้ค่ะ
สภาพแวดล้อมที่ Green River เป็นยังไงบ้าง ?
สงบ ร่มรื่น ป่าไม้เยอะ อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ มันไม่ค่อยมีอะไรเท่าไหร่ค่ะ แต่ตอนนี้ป่ามันน้อยลงนะคะเพราะเขาตัดต้นไม้ออกเลยดูไม่อึมครึมเหมือนเมื่อก่อน แต่มันก็อยู่บนเขาอยู่ดี ถ้าจะไป Seattle ก็ใช้เวลาประมาณ 45 นาทีขับรถ แต่ถ้ารถบัสก็เกือบ 2 ชั่วโมงได้ ถ้าไปดาวน์ทาวน์auburnก็ครึ่งชั่วโมงค่ะ ที่นี่เองไม่ได้มีอะไรมากแต่ก็มีซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านอาหาร เซเว่น เดินประมาน 10นาที จากแคมปัส
อ้าว แล้วงี้ไม่เบื่อเหรอ ต้องกินร้านอาหารเดิมๆ ?
ตอนมาอยู่ที่นี่โฮสเป็นคนทำค่ะ เรื่องอาหารเลยไม่ค่อยเป็นปัญหาเท่าไหร่ แต่ถ้าถามว่าเบื่อมั๊ย ? มายไม่ค่อยนะ ถึงมันจะไกลก็จริงแต่มายก็นั่งรถไป ก็รู้สึกว่าตัวเองเป็นคนมีความพยายามมากพอสมควรที่จะนั่งไปกินไกลขนาดนั้น (หัวเราะ)
ถ้าอยากกินอาหารไทย ต้องทำยังไง ?
ทำเองค่ะ แต่ถ้าอยากกินที่ร้านอาหารก็นั่งบัสไปประมาณ 15- 20 นาที ที่จริงร้านอาหารไทยก็เยอะนะคะ ค่อนข้างดังด้วยค่ะ เคยไปกินมาแล้ว รสชาติก็อร่อยดีนะคะ เพราะคนทำเขาเป็นคนไทย
สิ่งที่ถูกใจที่สุดสำหรับเรา คือ ?
การเรียนภาษาค่ะ เหมือนตอนมาถึงมายจะยังไม่ได้เรียนเป็นพวกวิชาระดับวิทยาลัยเลยต้องเรียนปรับภาษาก่อน รู้สึกชอบวิชาพวกนั้น พอมาเทียบกับตอนนี้แล้วรู้สึกว่าตอนนั้นมันสบายกว่า เรียนไม่หนักมาก แต่เราได้ใช้มันจริงๆ เพราะมันได้เรียนภาษาอังกฤษอย่างเดียวและมันก็สนุกดีด้วยค่ะ พอเราเริ่มเรียนวิชาระดับ college แล้วเราต้องจริงจังเพราะมันเอาเกรดเลยไม่สนุกเท่าตอนนั้น
มีเรื่องอะไรที่ไม่ถูกใจบ้างมั๊ย ?
มันก็ไม่เชิงไม่ชอบนะคะ คือ ที่วิทยาลัยมีเด็ก International เยอะมาก จริงๆ มันก็ไม่ใช่ข้อเสีย แต่รู้สึกว่าเจอคนอเมริกันก็ไม่เยอะเท่าไหร่ อาจจะแล้วแต่คลาสด้วยมั้ง เพราะคลาสที่มายเรียนอาจจะไม่ค่อยได้เจอเท่าไหร่ และคนไทยที่นี่ก็ไม่เยอะเลยค่ะ
แล้วมีคนไทยน้อย เราโอเครึเปล่า ?
ก็โอเคนะคะ มันทำให้เราได้รู้จักกันหมดซึ่งมันก็ดี อย่างคนเวียดนามและคนญี่ปุ่นเค้าเยอะมากๆเลยไม่รู้จักกันหมด แต่อย่างคนไทยนี่มีประมาณ 10 คน เราเลยรู้จักกันหมดเลย
การเรียนการสอนของครูที่นั่นเป็นยังไง และชอบวิชาอะไรมากสุด ?
การสอนของครูที่นี่ก็แล้วแต่คนมากๆ เลยค่ะ โดยส่วนตัวแล้ว มายชอบวิชา Accounting เพราะว่าอาจารย์สอนดีแล้วก็ตัววิชาไม่ได้ยากขนาดนั้น อาจารย์เองค่อนข้างละเอียด ชัดเจน มีแนวข้อสอบ เขาค่อนข้างเป็นห่วงเด็กบ้าง เขาให้ตารางสอนของทั้งควอเตอร์มาเลยค่ะ ทำให้เรารู้ว่าต้องทำอะไรบ้างและครูเขาต้องการอะไร พอมีเนื้อหาส่วนสำคัญเขาก็เน้นและไฮไลต์ให้ ทำให้เข้าใจง่าย แต่ถ้าวิชาที่ไม่ชอบก็มีนะคะ วิชา Economics อาจารย์ที่มายได้เรียนด้วยแกไม่ค่อย organize การสอนเท่าไหร่ เวลาจดตามเลยงงๆ การบ้านก็ค่อนข้างยากถึงยากมาก เวลาสอบที่นี่ต้องอ่านหนังสือ ถึงจะทำข้อสอบได้ ควรจะอ่านเลยแหละค่ะเพราะมันจะทำให้เราเข้าใจเนื้อหาได้มากขึ้น
มีแพลนเรียนต่อไปมหาวิทยาลัยรึยัง
มีค่ะ อยู่ในช่วง apply เลย ที่ University of Washington (UW) กับ University of Wisconsin และ Arizona State University เพราะว่ามันมี pathway กับโรงเรียนค่ะ แบบถ้าเราผ่านเงื่อนไขข้อตกลงแล้ว เราก็ไปเรียนที่นี่ได้เลย ที่จริงแล้ว เราก็อยากเข้า UW นะคะ แต่มันก็เข้ายากมากๆเลย
แล้วพวกเจ้าหน้าที่เขาช่วยเรามั๊ยในเรื่องนี้ ?
ช่วยนะคะ พอเรามาเราก็มี advisor พอมีอะไรสงสัยเราก็ไปถามเขาได้ อย่างต้องลงคลาสอะไรบ้าง มหาวิทยาลัยที่อยากไปเรียนเขาต้องการอะไร เรารู้สึกว่าแผนก international ที่นี่ค่อนข้างได้รับการ support ดี เขาจะมี events บ้าง จัดประมาณว่าวิธี transfer ควรทำยังไง เขียน personal statement ต้องทำยังไง
นอกจากการเรียนแล้ว ทำกิจกรรมอะไรนอกห้องเรียนด้วยรึเปล่า ?
เป็น Peer Volunteer กับ Peer Mentor ค่ะ ทำทั้ง 2 ตำแหน่งคู่กันแต่เพิ่งได้เริ่มทำ Peer Volunteer ถ้า Peer Volunteer ในวัน Orientation ก็เหมือนอธิบายและไปช่วยตามจุดต่างๆ ทักทาย international student ที่เพิ่งเข้ามาใหม่ ช่วยต้อนรับ ดูแล แนะนำ พาทัวร์โรงเรียนค่ะ ส่วน Peer Mentor ก็คล้ายๆกันค่ะ เด็กที่เพิ่งเข้ามาใหม่ถ้าอายุต่ำกว่า 24 ต้องเทคคลาส foundation for success ประมาณว่าเราต้องปรับตัวยังไงกลับสภาพแวดล้อมใหม่ๆ Peer Mentor ก็ต้องคิดกิจกรรมให้เด็กได้เรียนพวกนี้ และ สนุกไปด้วย แล้วก็คอยตามว่าเขาสุขสภาพดีมั๊ย ? โฮสต์เป็นยังไง ?
ทำไมถึงเลือกทำพวกนี้ ?
ตอนที่มาถึงมายหลงค่ะ peer volunteer ที่ทำอยู่เลยมาช่วย แล้วก็ได้พูดคุยกัน ตอนนั้นรู้สึกประทับใจเขามาก เลยรู้สึกว่าอยากทำงานนี้ และได้ช่วยเหลือเด็กใหม่เหมือนที่มายเคยเป็น ส่วน Peer Mentor มันดีต่อ resume แล้วมันก็ได้เงินด้วยค่ะ (หัวเราะ)
พูดถึงเพื่อนในวิทยาลัยนั้นหน่อยว่าเป็นยังไงบ้าง ?
ถ้าสังคมโดยรวมก็ดีนะคะ เราก็มีเพื่อนคนไทยที่สนิทๆที่รู้จักกันมาก่อนอยู่แล้ว พอมาก็รู้จักพี่ๆคนไทยอีก ก็สนิทกัน แล้วก็รู้จักพี่ที่มากับก้อปันกันเหมือนกันด้วยที่เขาอยู่ Seattle
สังคมที่โรงเรียนมีการเหยียดหรือแกล้งกันมั๊ย ?
ไม่มีนะคะ จริงๆแล้ว มันเป็น College แล้ว ทุกคนเลยค่อนข้างจริงจัง เรื่องแบบนั้นเลยเหมือนเป็นเรื่องไร้สาระ ทุกคนก็ค่อนข้างโตกันแล้ว แต่ตอนมายไปไฮสคูลที่แคลิฟอร์เนีย มายก็ไม่โดนนะ
พอมองย้อนกลับไป เรารู้สึกว่าชีวิตเรามีอะไรเปลี่ยนจากเดิมไปเยอะมั๊ย ?
ก็เปลี่ยนเยอะอยู่นะคะ พอมาอยู่ที่นี่ก็ต้องดูแลตัวเองมากขึ้น เหมือนเราแบบโตขึ้นด้วยเพราะเราต้องรับผิดชอบมากขึ้น ไม่ได้มีคนมาคอยดูแลอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา
สิ่งที่ประทับใจในก้อปันกัน
ตอนที่มายมาที่นี่ พี่กันต์เป็นคนกรอกข้อมูลให้ค่ะ แล้วก็ช่วยเรื่องขอ Transcript จาก high school ให้ด้วย ตอนนี้มายเลยขอเองได้แล้ว และ เหมือนเราก็ได้เพื่อนเพิ่มที่นั่นเพราะมีคนที่มาจากก้อปันกันเหมือนกันด้วยค่ะ
สิ่งที่อยากบอกต่อสำหรับคนที่อยากไปเรียนที่โรงเรียนนี้
ถ้าอยากมาก็แนะนำว่า ที่นี่เหมาะกับคนที่ชอบ อยากอยู่แบบสงบๆ เพื่อที่จะได้โฟกัสกับการเรียนเต็มที่ โปรแกรมที่ Green River ก็ค่อนข้างดี เช่น aviation ก็ดังนะคะ และเขาค่อนข้างจะ Support International student ด้วย ถ้ามีรถและขับเป็นก็จะดีมากๆ ด้วยค่ะ (หัวเราะ)