ประสบการณ์เรียนต่ออเมริกา Whatcom Community College
โดย โบว์
หลักสูตร : 2+2 University Transfer
Major : Civil Engineering
เล่าถึงความเป็นมาที่มาเรียนอเมริกาหน่อย ?
ตอนจบม.6 จากที่เมืองไทย หนูก็ตัดสินใจมาเรียนที่อเมริกาเลย แต่ช่วงแรกๆภาษาอังกฤษหนูยังไม่ค่อยดีเท่าไหร่ก็เลยไปลงเรียนในโรงเรียนสอนภาษาที่ฟิลาเดเฟียก่อนเพราะมีญาติอยู่ที่นั่น พอเรียนได้ปีนึงก็มีความรู้สึกว่าอยากเข้ามหาวิทยาลัยที่นี่ ตอนแรกไม่ได้คิดอยากเข้า Community College หรอกค่ะ แต่พอดูกระบวนการของการสมัครเข้ามหาวิทยาลัยในอเมริกาแล้วดูยุ่งยาก ก็เลยลองไปหาทางเลือกอื่น และก็ไปเจอ Whatcom Community College ค่ะซึ่งมีราคาถูกกว่า ตอนแรกก็กะว่าจะสมัครเองแต่ดูขั้นตอนแล้วมันยุ่งยากก็เลยให้ทางก้อปันกันช่วยทำเรื่องติดต่อและสมัครให้ค่ะ
ทำไมถึงเลือกเรียนที่ Whatcom Community College ?
ตอนแรกก็ค้นหาที่เรียนอยู่ค่ะ ไม่ได้คิดว่าจะมาที่นี่ แต่ที่ Whatcom เขามีระบบที่ดูแลนักเรียนนานาชาติดี เพราะไปดูแล้ว เขาติดต่ออยู่กับหลายมหาวิทยาลัย หนูคิดว่าถ้าเรียนที่นี่แล้วน่าจะเข้ามหาวิทยาลัยอื่นได้ง่ายขึ้น เพราะมีหลายมหาวิทยาลัยที่เขารองรับไว้อยู่ และอีกอย่างนึง ที่นี่ก็ไม่ค่อยมีสิ่งรบกวนเท่าไหร่ เพราะ Bellingham มันเป็นเมืองเงียบๆ ไม่ค่อยมีอะไรมาก ไม่เหมือนกับ Seattle ที่มีสถานที่เที่ยวเยอะแยะ ที่นี่มันเป็นเมืองที่เหมาะสำหรับการเรียนเลยจริงๆ
การมาเรียนที่ Community College ยากรึเปล่า จากที่เราเคยเรียนแต่ในประเทศไทยมาโดยตลอด ?
ถือว่ายากในระดับนึง เพราะภาษาอังกฤษหนูเริ่มมาจากศูนย์เลย แล้วการมาเรียนที่นี่ก็ยากในระดับนึงแต่เรียนไปเรื่อยๆก็เริ่มชินค่ะ การเรียนก็ไม่หนักมากเพราะที่นี่กิจกรรมเขาจะเยอะกว่า ไม่ได้มานั่งเรียนอย่างเดียว ไม่ได้ยากขนาดที่ต้องกลัวว่าจะทำไม่ได้
สภาพแวดล้อมของวิทยาลัยเป็นยังไงบ้าง ?
ดีมากค่ะ เงียบสงบและปลอดภัยมากๆ ตอนนี้หนูอาศัยอยู่ที่อพาร์ตเม้นท์ของวิทยาลัย เดินไปประมาณ 10 นาทีก็ถึงวิทยาลัยแล้ว ที่วิทยาลัยก็มีทุกอย่างอยู่ในนั้น ถึงจะเป็นวิทยาลัยเล็กๆแต่ก็ดูอบอุ่นดีค่ะ
การเรียนของที่ Whatcom Community College เป็นยังไงบ้าง ?
ถ้าเทียบกับเมืองไทยแล้ว ที่นี่ดีมากเลยค่ะ เพราะว่าอาจารย์ที่นี่เขาชอบให้นักเรียนถาม เขายินดีที่จะตอบเสมอ ถ้าเราถามเขาบ่อยๆ เขาก็จะจำเราได้เพราะห้องนึงเรียนแค่ 20 คนเองค่ะ การเรียนและอาจารย์เลยค่อนข้างเข้าถึงนักเรียนได้ ถ้าเทียบกับมหาวิทยาลัยแล้ว จำนวนคนในห้องนึงค่อนข้างจะเยอะเกินไป อาจารย์เข้าถึงนักเรียนยากและปรับตัวยากนิดนึง แต่ที่นี่มันก็เหมือนให้เราค่อยๆได้ปรับตัวมากกว่า
หนูชอบค่ะเพราะว่าที่นี่ถามอะไรไปอาจารย์ก็ตอบ แต่ถ้าเป็นที่เมืองไทย ถามไปอาจารย์จะไม่ค่อยตอบเท่าไหร่
รูปแบบการเรียนเป็นยังไง ?
ตอนแรกมาถึงเขาจะให้สอบวัดระดับภาษาอังกฤษก่อนว่าเราอยู่ในระดับไหน มีการสอบเขียน Essay กับการสัมภาษณ์ ที่นี่จะมี ESL (English as a second language) ระดับ 1-5 ค่ะ ถ้าเราเรียนจบเลเวล 5 แล้วเราก็สามารถลงเรียนวิชาในวิทยาลัยได้ หลังจากนั้นจะเป็นระดับ 113, 115 และ 117 ต่างกับ ESL ตรงที่การเรียนภาษาอังกฤษจะเข้มข้นกว่า ถ้าจบจาก 117 แล้วก็จะเป็น 101 ขั้นนี้จะถือว่าเป็นนักเรียนปกติของทางวิทยาลัยเต็มตัวแล้วค่ะ ไม่ต้องเรียนภาษาอังกฤษแล้ว เหมือนเป็นนักเรียนปี 1 แต่ที่จริงเราก็สามารถลงวิชาเรียนบางวิชาได้ตั้งแต่ตอนจบ ESL เลเวล 5 แล้วค่ะ
ที่นี่ดีตรงที่ถ้าเราเป็นนักเรียนนานาชาติ เขาจะมี Advisor ให้ปรึกษา ทุกครั้งที่เราจะสมัครหรือลงเรียน เราก็ต้องไปคุยกับ Advisor ทุกครั้งเพื่อปรึกษาว่าถ้าจะลงเรียนหลักสูตรนี้ต้องใช้อะไรบ้าง เขาก็จะให้ข้อมูลมาว่าต้องทำแบบไหนบ้าง ถ้าจะเรียนหลักสูตรนี้ต้องลงเรียนยังไง
สังคมของที่นั่นเป็นยังไงบ้าง ?
ที่นี่นักเรียนอเมริกันจะน้อยมาก แต่จะมีนักเรียนเอเซียเยอะ ส่วนใหญ่เป็นคนเวียดนามและอินโดนีเซีย พวกเขาก็จะอยู่กันเป็นกลุ่ม มันแย่ตรงนี้ เพราะบางทีเราก็อยากเป็นเพื่อนกับพวกเขา แต่เพื่อนอเมริกันก็ดีค่ะ มีอะไรเขาก็ช่วย ตอนนี้ก็มีเพื่อนคนไทย เราก็สามารถปรึกษากับเพื่อนคนไทยได้ในเรื่องของข้อมูลการเรียน ส่วนเพื่อนร่วมห้องก็ถือว่าดีค่ะ
มีกิจกรรมให้ทำบ้างมั๊ย ?
มีชมรมให้เลือกค่ะว่าเราอยากเข้าคลับไหน เช่น Board Game, Engineering, Photography หรือ Sustainability Environment ส่วนถ้าพวก International Program เขาก็จะมีพาไปเที่ยวด้วยค่ะ ทุกๆเทอมก็จะประกาศว่า อาทิตย์ไหน ไปเที่ยวที่ไหนบ้าง ถ้าเราอยากไปก็ไปลงชื่อและจ่ายเงินค่ะ บางทีก็พาไป Vancouver, Seattle ส่วนช่วงฤดูร้อนเขาก็มีพาไปพายคายัค
ตอนนี้หนูอยู่ Engineering และ Sustainability Environment จะเกี่ยวกับการรักษาและช่วยสนับสนุนในด้านสิ่งแวดล้อมค่ะ
เรื่องที่อยู่อาศัยเป็นยังไงบ้าง ?
ตอนนี้ก็อยู่อพาร์ตเม้นท์ค่ะ เหมือนทางวิทยาลัยเขามีการทำงานร่วมกันกับอพาร์ตเม้นท์ปกติ คือ ในอพาร์ตเม้นท์ก็มีคนนอกเข้ามาอยู่ได้เหมือนกันแล้วก็มีนักเรียนของที่วิทยาลัยด้วย เรื่องที่พักก็ดีมากค่ะเพราะมันใกล้ที่วิทยาลัยมาก
ตอนนี้ก็มีรูมเมทอยู่คนนึง เราก็แชร์ห้องกันแต่ก็ไม่ได้แชร์ห้องน้ำเพราะต่างคนต่างมีห้องน้ำส่วนตัว แชร์กันแค่ห้องครัว แต่บางห้อง เขาก็อยู่กัน 4 คนค่ะ เราสามารถรีเควสได้ว่าอยากได้รูมเมทต่างชาติ หรือว่าคนชาติเดียวกัน
เราสามารถทำงานในวิทยาลัยได้รึเปล่า ?
ได้ค่ะ โบว์คิดว่าจะลองทำอยู่ค่ะ ที่นี่เขาจะดูเกรดด้วย ถ้าเกรดดีก็จะทำงานได้ และต้องเรียนให้ถึง 12 เครดิตด้วยถึงจะลงทำงานได้ ทุกเทอมจะมีนักเรียนมาใหม่ เขาก็จะมีสตาฟเพื่อไปช่วยเหลือนักเรียนเข้ามาใหม่ งานในยิมก็มีค่ะ หรือทำงานในห้องสมุดก็ได้
การมาเรียนต่างประเทศครั้งแรกรู้สึกยังไงบ้าง ?
ตอนแรกก็กลัวๆเพราะภาษาเราไม่ได้ แต่พอมาอยู่แล้วก็ไม่ค่อยอยากกลับเท่าไหร่ค่ะ ดูมีความสุขเพราะทุกอย่าง คือ ความฝันที่เราฝันมาตลอด เราได้ประสบการณ์ใหม่ๆ ได้เพื่อนใหม่ๆ ได้ไปเที่ยวที่นู่นที่นี่ ได้เจอวัฒนธรรมใหม่ๆ มันก็เลยสนุกดีค่ะ
รู้สึกว่าตัวเองเปลี่ยนแปลงไปขนาดไหน จากตอนแรกที่มาอยู่ที่อเมริกาจนถึงปัจจุบัน ?
เปลี่ยนไปเยอะเลยค่ะ เมื่อก่อนหนูเป็นคนเงียบๆ ไม่ค่อยพูด ขี้อาย ครั้งแรกที่พูดภาษาอังกฤษ เราก็รู้สึกไม่ค่อยกล้า แต่ตอนนี้รู้สึกว่าตัวเองพูดมาก เข้ากับคนง่ายขึ้น คุยได้เรื่อยๆ ดูแลตัวเองได้มากขึ้น เพราะมาที่นี่ต้องทำทุกอย่างเองหมดเลย ตั้งแต่ซื้อกัยข้าวเอง ทำความสะอาดห้องเอง จัดการค่าใช้จ่ายเองหมดเลย เพราะแต่ละเดือนมีค่าใช้จ่าย เราก็ต้องทำรายรับ รายจ่าย
สิ่งที่ประทับใจใน Whatcom Community College ?
อาจารย์ที่นี่เขาดูแลนักเรียนดีมาก ยิ่งเป็นนักเรียนนานาชาติเขาจะยิ่งดูแลดีมากๆ คลาสแรกที่เรียนวิชา Math หนูไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ ภาษาอังกฤษหนูยังไม่เก่ง เขาก็จะช่วยแปลให้เรา พูดช้าลง ก็ประทับใจที่เขาใส่ใจนักเรียนนานาชาติมากค่ะ
อยากแนะนำคนที่สนใจไปเรียนที่ Whatcom Community College ยังไง ?
เตรียมใจมาอย่างเดียวค่ะ ที่นี่เขาพร้อมและคอยรองรับทุกอย่าง เราอย่าคิดไปเองว่ามันยาก เราทำไม่ได้หรอก เข้ากับเพื่อนไม่ได้หรอก แต่ที่จริงแล้วมันไม่ได้ยากขนาดนั้นค่ะ