ประสบการณ์เรียนภาษาอังกฤษที่เซบู โดย จันจิรา
สถาบัน EV Academy
คุณหนุ่ย จันจิรา เทวฤทธิ์ แบ่งปันประสบการณ์การเรียนภาษาอังกฤษที่เซบู ฟิลิปปินส์กับ EV Academy หลังจากค้นพบว่าตนเองชอบใช้ภาษาอังกฤษ และมีความตั้งใจที่จะสอนภาษาอังกฤษในประเทศไทย เมื่อโอกาส คุณหนุ่ยได้ตัดสินใจลงเรียนหลักสูตร General ESL ระยะเวลา 2 เดือน ติดตามเรื่องราวของคุณหนุ่ยกันได้เลยครับ ..
Q: ในหลักสูตรและสถาบันที่เรียน ชอบวิชาใดมากที่สุด และทำไม?
ชอบการเรียนแบบ Man to Man หรือการเรียนตัวต่อตัวมากที่สุด เพราะได้เรียนตลอด 4 ชั่วโมง กับครู 4 คน ได้ทั้งฝึกฟังครูและได้ฝึกพูดโต้ตอบกับครูอยู่ตลอด 4 ชั่วโมง การเรียนแบบตัวต่อตัวสอดคล้องกับวิชาที่เรียนเป็น group ซึ่งมีทั้ง grammar, presentation, active communication และ listening ในชั่วโมงตัวต่อตัวก็จะจัดให้ครูคาบแรกทบทวนเรื่อง Grammar ครูคาบที่ 2 สอนตามบทเรียนในหนังงสือ ครูคาบที่ 3 activities จะแนะนำเนื้อหาที่ควรพูดและนำเสนอในห้องเรียนกลุ่ม Presentation ซึ่งเป็นวิชาที่ยากที่สุด เพราะทุกคนต้องเลือกหัวข้อและมีเวลาเตรียมตัวเพียง 1 นาที หรือบางครั้งก็ 5 นาที ก่อนออกไปพูดหน้าชั้นเรียน และครูคาบที่ 4 สอน Writing อีกทั้งในการเรียนแบบตัวต่อตัว นักเรียนสามารถแจ้งครูได้ว่าต้องการเน้นเรื่องใดเป็นพิเศษ ส่วนตัวพี่เองต้องการเน้นการพูด เลยขอให้ครูช่วยชี้แนะข้อผิดพลาดและแนวทางแก้ไขเพื่อนำไปใช้ฝึกพูดให้ถูกต้องและชัดเจนยิ่งขึ้น
Q: การเรียนที่สถาบันเป็นอย่างไร? มีความสนุก ท้าทายหรือการค้นพบอะไรใหม่บ้าง?
การมาเรียนที่สถาบันที่ค่อนข้างเข้มงวดอย่าง EV Academy ให้ประสบการณ์มากมายและหลากหลายความรู้สึก สัปดาห์แรกจะรู้สึกเหนื่อยมาก เพราะยังไม่ชิน เหมือนได้กลับไปเป็นเด็กนักเรียนในโรงเรียนประจำ มีการปลุกด้วยเสียงดนตรี ต้องตื่นแต่เช้าตามเวลาที่กำหนด คือ 5.55 น. เพื่อออกไปเช็คชื่อหน้าห้องในวันจันทร์ – ศุกร์ ทานอาหารเช้าในช่วง 7.00 – 8.00 น. เวลา 7.45 น. จะมีสอบท่องศัพท์วันละ 20 คำ จากนั้นเรียน 4 คาบในช่วงเช้าและ 4 คาบในช่วงบ่าย ช่วง 6 โมงเย็นถึง 2 ทุ่มต้องเข้า self-study หรือการเรียนด้วยตัวเอง
ในส่วนของความสนุกก็มีไม่น้อย ตอนเรียนตัวต่อตัว ได้ฝึกทั้งฟัง พูดเล่าเรื่องต่างๆ แลกเปลี่ยนประสบการณ์กับครู เมื่อได้มีโอกาสสื่อสารกัน ก็ทำให้เกิดเสียงหัวเราะระหว่างเรียน ส่วนการเรียนกลุ่มทำให้ได้มีโอกาสรู้จักเพื่อนจากหลากหลายชาติ ได้ทำกิจกรรมร่วมกัน ได้ทำความรู้จักกันทั้งในและนอกห้องเรียน จนเกิดเป็นความรักและความผูกพันกับเพื่อนๆ และครูผู้สอนจนแทบไม่อยากจะลาจากกัน
เรื่องท้าทายอย่างมากของพี่ก็คือ พี่คิดว่าตัวเองอ่อนเรื่องการฟัง ก็แค่ฟังออกถ้าเป็นประโยคที่คุ้นเคยและถ้าผู้พูดพูดไม่เร็วมาก ขนาดดูหนังฝรั่งพี่ยังฟังประโยคยาวๆเร็วๆไม่ทันเลย จึงตื่นเต้นและต้องตั้งใจอย่างมาก เมื่อต้องมาเรียนตัวต่อตัวกับครู 4 คน ต่อเนื่องกัน ครูแต่ละคนมีสำเนียงแตกต่างกัน แต่ก็พูดชัดและพูดเร็วในระดับปกติของเขา ซึ่งถือว่าพูดเร็วมากสำหรับเรา แรกๆอาจเป็นปัญหา แต่เมื่อเราได้ฟังซ้ำๆทุกวัน วันละ 4 ชั่วโมงต่อเนื่องกัน มันช่วยพัฒนาทักษะการฟังให้พี่ได้อย่างมาก ทำให้ฟังและโต้ตอบได้ทันที จนบางครั้งแทบจะแย่งครูพูดเลยทีเดียว
สิ่งใหม่ที่ได้ค้นพบ คือ ก่อนจะมาเรียนภาษาอังกฤษที่ฟิลิปปินส์ พี่ได้ฝึกภาษาอังกฤษด้วยตัวเองมานานแล้ว จนเกิดความมั่นใจว่า เราสามารถเดินทางมาเซบูคนเดียวได้ เหมือนกับพกความมั่นใจมาด้วยในระดับหนึ่ง เพียงแต่ไม่ค่อยมีโอกาสได้พูดจริงในชีวิตประจำวัน เมื่อได้เริ่มเรียนที่ EV ได้ทราบจากครูว่า วันแรกที่พี่พูด พี่พูดไม่ค่อยถูก บางคำออกเสียงไม่ชัด ทำให้ครูไม่เข้าใจ จากนั้นครูจะช่วยแนะนำว่าปัญหาของเราคืออะไร? จากประสบการณ์ในการสอนนักเรียนนานาชาติ ครูจะทราบถึงปัญหาในการออกเสียงของคนจากแต่ละชาติ
Q: การใช้ชีวิตที่เซบู เป็นอย่างไร? ได้ทำอะไรบ้างในวันหยุด?
การใช้ชีวิตที่เซบู ในช่วงวันธรรมดาหมดไปกับการเรียน ตั้งแต่เช้าถึง 2 ทุ่ม หลังจากนั้นจึงมีเวลาพูดคุย เล่นกีฬาหรือทำกิจกรรมที่โรงเรียนจัดไว้ให้ คือ การเต้นซุมบ้าหรือโยคะ สำหรับเย็นวันศุกร์ ปกติจะนัดเพื่อนๆออกไปทานอาหารข้างนอก ที่นิยมไปคือห้าง Ayala ส่วนวันเสาร์อาทิตย์ ช่วงเดือนแรก พี่ชอบไปเดินเที่ยวดูตึกรามบ้านช่อง ร้านขายของและการใช้ชีวิตของชาวเซบู หากไม่อยากออกไปไหนก็พักผ่อนที่ EV ซึ่งมีห้องดูหนัง ห้องยิม ห้องนวด ห้องสมุด อาจจะอ่านหนังสืออ่านเล่น หรือเล่น Internet เล่นกีฬาหรือได้มีโอกาสทำความรู้จักและพูดคุยกับเพื่อนๆที่ไม่อยากออกไปไหน มีวันอาทิตย์หนึ่งได้ไปเที่ยวโบสถ์ใกล้ EV ร่วมกับคนที่นั่น ซึ่งส่วนใหญ่นับถือศาสนาคริสต์
ในเดือนที่สองได้ออกไปเที่ยวไกลๆ โดยไปกันเองด้วยรถบัสกับเพื่อนๆ ได้ไปดูปลาฉลามวาฬที่ Oslob น้ำทะเลสีเขียวใสสวยมากๆ ไปเล่นน้ำตกที่ Kawasan Falls ไปสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ หลังจากที่สเปนสำรวจพบดินแดนแห่งนี้ เช่นโบสถ์ซานโตนิโน สถานที่ประดิษฐานของไม้กางเขนของแมกเจนแลน (The Cross of Magellan) และ Fort San Pedro
และยังโชคดีที่ครูคลาสตัวต่อตัวคนหนึ่งได้ชวนไปร่วมงานเลี้ยงที่บ้านพ่อแม่ซึ่งอยู่ที่เมืองดาเนา นั่งรถตู้ไปประมาณ 1 ชม. เป็นงานฉลองใหญ่ประจำเมืองเรียกว่า เฟียสตา ทำให้ได้รู้จักการใช้ชีวิตของคนฟิลิปปินส์มากขึ้น ได้พบปะพูดคุยกับพ่อแม่ พี่ น้อง คุณยาย คุณป้าของครูอย่างใกล้ชิด
Q: สำหรับการเรียนภาษาอังกฤษที่ฟิลิปปินส์ ประทับใจอะไรเป็นพิเศษบ้างไหม?
ประทับใจระบบการเรียนการสอนของ EV มากเพราะทำให้เราปรับตัว จัดการชีวิตของตัวเองให้เข้ากับตารางเวลาที่กำหนดตั้งแต่ตื่นนอน ท่องศัพท์วันละ 20 คำ ได้ใช้ภาษาอังกฤษอย่างต่อเนื่องตลอด 8 คาบ หลังจากนั้นก็บังคับให้เราต้องเข้าไปอยู่ในห้องเรียนเพื่อเรียนด้วยตัวเองถึง 2 ชั่วโมง ซึ่งช่วยฝึกให้เรามีวินัยในตัวเอง ถ้าอยู่ที่บ้านเราคงทำไม่ได้ถึงขนาดนี้ นอกจากนี้ยังประทับใจในสำเนียงการพูดที่ชัดเจนราวกับเป็น native speaker ของครูชาวฟิลิปปินส์ ซึ่งถ้าใครไม่เคยสัมผัสมาก่อนก็มักจะคิดว่า พวกเขาคงพูดเพี้ยน แต่พอได้มาเจอด้วยตัวเองแล้ว ไม่ทำให้ผิดหวังเลยค่ะ และครูที่นี่ยังเป็นนักประดิดประดอย ในวันสุดท้ายของการเรียนครูก็มักจะเขียนโน้ตเล็กๆน้อยๆให้กับนักเรียน ซึ่งบางคนก็ตกแต่งประดับประดาโน้ตได้สวยเก๋เพื่อตั้งใจให้เป็นที่ระลึกก่อนอำลาจากกัน งานนี้มีน้ำตาซึม
Q: ถ้าฝากให้พูดถึงสถาบันและก้อปันกันกับบุคคลที่สนใจ ต้องการจะบอกอะไรกับพวกเขาบ้าง?
สำหรับผู้ที่กำลังพิจารณาหลักสูตรที่ก้อปันกันนำเสนอ พี่เห็นว่าก้อปันกันมีสถาบันสอนภาษาอังกฤษหลายแห่งที่แนะนำให้เลือกได้ตามอัธยาศัย ใครที่ชอบเรียนอย่างอิสระได้ออกไปนอกสถาบันหลังเลิกเรียน ก็มีสถาบันที่ตอบสนองผู้เรียนในแบบนั้น สำหรับ EV เป็นสถาบันการเรียนภาษาอังกฤษที่เข้มข้น ในรูปแบบของโรงเรียนประจำ มีกฏระเบียบเพื่อช่วยให้ผู้เรียนได้รับการเรียนรู้ภาษาอังกฤษอย่างต่อเนื่องตลอดวัน นักเรียนอยู่ภายในสถาบันที่มีระบบรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด
ก้อปันกันไม่ได้เพียงแค่นำเสนอสถาบันสอนภาษาอังกฤษในต่างประเทศเท่านั้น แต่ยังเป็นเหมือนพี่และเพื่อนที่สามารถให้คำปรึกษาชี้แนวแก่ผู้ที่กำลังเคว้งคว้าง ไม่รู้ว่าจะเลือกแนวทางการเรียนภาษาอังกฤษอย่างไรดี และก้อปันกันไม่ได้โฆษณาเกินจริง เช่น เรียนเพียง 1 เดือนก็พูดคล่อง ซึ่งเรื่องนี้ต้องขึ้นอยู่กับความเอาใจใส่ของผู้เรียนเอง
ก้อปันกันเป็นเพียงผู้เสนอแนวทางให้กับผู้ที่ต้องการคำปรึกษา และยังมีการติดตามทุกข์สุขและความคืบหน้า อำนวยความสะดวกและพร้อมที่จะช่วยเหลือทั้งก่อนและระหว่างที่เรียนอยู่ในสถาบัน
ข้อมูล EV Academy คลิก
