รีวิว เรียนหลักสูตร Customer service กับสถาบัน ILAC
และ หลักสูตร Finance กับสถาบัน BCIT โดยคุณโดนัท
อะไรทำให้ตัดสินใจไปเรียนต่อที่ประเทศแคนาดา?
ตอนแรกแพลนจะไปอเมริกา แต่อเมริการาคาแพงกว่า แล้วก็ไปเจอคอร์สที่แคนาดาที่หลังจากเรียนจบสองปีเราจะได้ PGWP สามปีอะค่ะ น่าสนใจกว่าอเมริกาที่เราจะได้แค่ปีเดียวก็เลยศึกษาแคนาดาเพิ่มค่ะ
ทำไมถึงเลือกเรียน Customer Service/Hospitality ที่ ILAC?
ที่จริงแพลนหลักคืออยากเรียน Finance ที่ BCIT แต่ปีแรกอยากมาลองก่อนเลยลง ILAC ก่อน แล้วก็ค่อยต่อ BCIT บวกกับว่าคอร์สที่ ILAC ได้ทำงานแล้วก็ได้เรียนไปพร้อมกัน ได้หาเพื่อนด้วยค่ะ ปีแรกกะจะมาลองดูก่อนว่าโอเคไหม แล้วคอร์สนี้ก็ดูชิลดีด้วย ก็เลยเลือกลงคอร์สนี้ค่ะ
การเรียนการสอนในหลักสูตรนี้ได้เรียนเกี่ยวกับอะไรบ้างคะ ช่วยเล่าภาพรวมให้ฟังได้ไหมคะ?
ช่วงสองคอร์สแรก จะเน้นปรับพื้นฐานภาษาอังกฤษค่ะ แล้วก็เน้น presentation เราก็จะเริ่มสนิทกับเพื่อนค่ะ แล้วก็จะมีเรียนพวก marketing, customer service, ทำเรซูเม่หางานอะไรงี้ค่ะ หกเดือนแรกเรียนที่โรงเรียน และหกเดือนหลังฝึกงาน เราต้องหางานเอง งานอะไรก็ได้ที่เชื่อมโยงกับที่เราเรียน โรงเรียนอาจจะมีส่งลิงค์งานที่เปิดรับสมัครมาให้เรา แต่เราต้องเป็นคนไปสมัครเอง เพื่อนในห้องช่วงแรก ส่วนใหญ่จะเป็นญี่ปุ่นกับบราซิลเยอะค่ะ สามเดือนหลังพอเราเปลี่ยนห้อง ก็จะมีฝรั่งเศส ญี่ปุ่น บราซิล โคลอมเบีย และคนไทย 5-6 คนเลยค่ะ
หลังจากเรียนคอร์สนี้แล้วเป็นยังไงบ้าง ช่วยรีวิวหลักสูตรนี้ให้หน่อยค่ะ?
หนูเน้นชิลเลยค่ะ เขามีอีเวนท์ให้เยอะนะคะ มีจัดฟรีเบียร์ ฟรีพิซซ่าให้ทุกเทศกาล ได้แฮงค์เอาท์กับเพื่อนในคลาส ก็จะสนิทกันเพราะปาร์ตี้ด้วย คริสต์มาสก็มีของแจกนักเรียน ขอความช่วยเหลืออะไรไปก็ได้รับบริการที่รวดเร็วนะคะ เรื่อง Co-op เขาก็ติดต่อให้เร็ว ค่อนข้างประทับใจค่ะ ครูที่สอน Customer service ก็ทำงานมีประสบการณ์ด้านนี้มาก่อน บางคนก็สอนดีค่ะ โดยรวมหนูประทับใจค่ะ สอบไม่ยาก ออกตามที่เรียน บางคลาสไม่ได้มีข้อสอบเขียน แต่เน้นทำงานนำเสนอ งานกลุ่ม การมีส่วนร่วมในห้องเรียนค่ะ
เพื่อนในคลาสช่วงสามเดือนแรกสนิทกัน สนุกดีค่ะ เที่ยวด้วยกันบ่อย ทุกคนต่างใหม่ก็นัดกันไปเที่ยวบ่อย แต่ช่วงเดือนหลัง ๆ ด้วยความที่สนิทกัน เราก็จะเริ่มจับกลุ่มของตัวเอง แต่เพื่อนในห้องทุกคนก็ยังน่ารัก ช่วยเหลือกันดีค่ะ
ILAC มีบริการอะไร support นักเรียนบ้าง?
หนูไม่ค่อยได้ใช้บริการอะไรเท่าไหร่ ส่วนใหญ่เน้นเข้าร่วมปาร์ตี้ 5555 แต่เห็นเขามีจัดทัวร์ที่ราคาไม่แพงอยู่ค่ะ มีคลาสพาทำเรซูเม่ คอยแจ้งที่รับสมัครงานให้นักเรียนประมาณนี้ค่ะ
การเรียนการสอนหลักสูตร Finance ที่ BCIT ได้เรียนอะไรบ้าง?
จริง ๆ หนูกะจะลงคอร์สนี้เป็น full-time แต่ว่าลงไม่ทัน เลยลงเป็น part-time ไปก่อน ซึ่ง part-time เราสามารถเลือกลงตาราง เลือกคอร์สเองได้ ช่วงแรกจะเรียน Marketing, Excel, Accounting, Mathematics, Business, Economics ค่ะ ส่วน full-time คือเรียนสองปี มี 4 เทอม เขาจะลงตารางให้เราเรียบร้อยแล้ว เรียนจันทร์-ศุกร์ เทอมนึงประมาณ 6-7 ตัว จบภายในสองปี แต่ part-time เราสามารถลงกี่ตัวก็ได้แล้วแต่เรา ถ้าจะทำให้เป็น full-time เพื่อขอ PGWP เราต้องลงให้ได้ 9 เครดิตก็ประมาณ 2-3 ตัวต่อเทอม แต่ของหนูวางแผนไว้ว่าจะย้ายไปเป็น full-time หนูเลยต้องเรียน 9 เครดิต ค่าเทอมก็พอ ๆ กัน part-time อาจจะแพงกว่านิดหน่อย แต่ได้เวลาทำงานมากกว่า เพราะเพื่อนที่เรียน full-time ไม่มีเวลาทำงานกันเลยค่ะ หนูว่าข้อเสียของ part-time คือ ส่วนใหญ่คนที่มาเรียนจะมีอายุกันแล้ว เขาจะมีงานทำกัน มาเรียนเสร็จก็จะต้องกลับไปทำงานของตัวเอง จะไม่ค่อยได้ไปเที่ยวหรือสนิทกันเหมือนเพื่อนที่เรียน full-time หนูเรียนมา 1 ปี มีเพื่อนที่สนิทกัน 2 คน 55555 ในห้องมีคนตั้งแต่อายุ 26-40 ปีเลย หนูว่าหนูน่าจะเด็กสุดในห้องค่ะ
หลังจากเรียนหลักสูตรนี้แล้วเป็นยังไงบ้างคะ?
หนูว่าครูที่นี่ดีค่ะ เขามีประสบการณ์จริง เวลาเพื่อนถามอะไรไป เขาตอบได้หมดเลย ครูค่อนข้างซัพพอร์ตนักเรียน แต่การสอนแล้วแต่คนค่ะ บางคนก็สอนตามสไลด์ บางคนก็สอนดี ไม่ได้เน้นออกข้อสอบยาก ที่นี่ดี เขาจะออกข้อสอบตามที่สอนเลย ไม่เหมือนที่ไทยที่เน้นออกข้อสอบให้ยากให้เด็กทำไม่ได้ อย่างวิชา accounting ไม่เข้าใจโจทย์ตรงไหนหนูก็เดินไปถามเขาเลยค่ะ เพราะเราไม่เข้าใจภาษาอังกฤษทั้งหมด ครูเขาก็บอกใบ้หรือบางทีก็ยกตัวอย่างให้เลยไม่ได้ห่วงว่า กลัวเด็กจะตอบถูก เขาเน้นให้เราเข้าใจและทำได้ แต่ก็ไม่ใช่ทุกคลาสเหมือนกันค่ะ 555 การสั่งงาน มีแค่วิชา marketing ที่เป็นงานกลุ่ม มีโปรเจคเยอะมาก แต่วิชาอื่นเน้นสอบ ไม่ค่อยเจอสั่งงานกลุ่มเท่าไหร่นะคะ เพื่อนหนูคนไทยที่เรียน full-time จะมีงานกลุ่มเยอะกว่า และก็เด็ก full-time จะได้สวัสดิการเยอะกว่า อย่างของหนู ไม่ได้ compass card และก็ full-time จะมีทุนให้เด็กที่เกรดดีประมาณนี้ค่ะ
BCIT มีบริการอะไร support นักเรียนบ้างคะ?
หนูเห็นเขามี Peer tutor เป็นคนที่คอยติวให้เราฟรี วิชาไหนที่เราเรียนไม่เข้าใจก็ไปลงให้เขาติวให้ได้ค่ะ มีติวการเขียนให้นักเรียนต่างชาติด้วยค่ะ และก็ตอนนี้หนูทำงานใน BCIT อยู่ ถ้าเราสนใจอยากเริ่มทำธุรกิจ เราสามารถเข้าไปปรึกษากับเขาได้ หรือจะจองคิวปรึกษาการทำเรซูเม่ก็ได้
ได้ทำงานไปด้วยไหม ถ้าทำช่วยแนะนำวิธีหางาน part-time / full-time หน่อยค่ะ?
ช่วงฝึกงานหนูเป็นบาริสต้า ที่ Starbuck ค่ะ หนูไม่มีประสบการณ์อะไรมาก่อนนะคะ ทำอยู่เกือบปี แล้วก็กลับไทยไป ประกอบกับย้ายที่อยู่ด้วยเลยลาออกแล้วค่ะ ส่วนตอนนี้หนูทำอยู่ 2 งานค่ะ ตอนเช้าทำบาริสต้า ตอนเที่ยงทำเป็นพนักงานขาย ใน BCIT เขาจะมีพวกแผนกขายอุปกรณ์การเรียน ขายเสื้อผ้า ต่าง ๆ และการทำงานในมหาวิทยาลัย เขาจะไม่นับชั่วโมงทำงาน หนูเลยทำงานในโรงเรียน 20 ชม. ข้างนอกอีก 20 ชม. ไปเลยค่ะ ตอนหางานหนูหาผ่าน Indeed ทุกงานเลยค่ะ สามเดือนแรกหนูไปทำร้านอาหาร Fine dining แต่เลิกดึกมากเลยลาออก แต่ก่อนจะออกได้ตำแหน่งบาริสต้าที่ Blenz coffee ก่อน แล้วก็ออกเลย
มีวิธีการหาที่พักที่แคนาดาอย่างไร?
ที่พักปัจจุบันหาทาง Facebook Marketplace ค่ะ อันนี้หลังที่สี่ของหนูแล้ว ช่วงแรกที่มาให้พี่คนไทยที่เขารับหาบ้านหาให้ค่ะ คนไทยทั้งบ้านเลยค่ะ ส่วนใหญ่ฟีดแบคจากคนอื่นที่ใช้บริการของพี่คนนี้จะไม่ค่อยดีเท่าไหร่ค่ะ จริง ๆ คนที่ไทยไม่รู้ แต่จริง ๆ แล้ว พอเรามาหาเองมันไม่ได้ยากเลยค่ะ หลังที่สองเพื่อนแนะนำมาอยู่แถว Joyce station ป้าเจ้าของบ้านเข้มงวดเกินไปมากค่ะ ขนาดทำอาหารในครัว เขายังมายืนเฝ้า จานก็ไม่ให้ล้างเดี๋ยวเขาล้างเองเพราะกลัวเราทำแตก เยอะค่ะหนูเลยย้ายไปอยู่อีกที่นึง หลังที่สามค่อนข้างดีเลยค่ะ ห้องน้ำส่วนตัว หนูเป็นผู้เช่าคนแรกของเขา แต่พอดีต้องกลับไทยก่อน ตอนแรกกะอยู่ยาว พอกลับมาแคนาดาอีกรอบ ก็ได้หลังที่สี่หลังปัจจุบัน ห้องโอเคทุกอย่างครบ ครัวใหญ่ ห้องน้ำก็ใช้แค่คนเดียว ห่างจากโรงเรียน 3 นาที ไป Metro town แค่ 10 นาที ค่าเช่า 850$ รวมค่าน้ำค่าไฟทุกอย่างแล้ว เจ้าของบ้านเป็นคนจีน เขาดูชอบคนไทยค่ะ 55555
เมืองแวนคูเวอร์เป็นยังไงบ้าง หลังจากอยู่มา เมืองนี้มีข้อดีและข้อเสียอะไรบ้างคะ?
หนูรู้สึกโอเคค่ะ ชอบเมืองนี้ หนูเคยไปโทรอนโตรู้สึกว่าเลือกถูกที่มาอยู่แวนคูเวอร์ เพราะมันเป็นเมืองที่มีธรรมชาติ ไปชายหาด 30 นาที ไปภูเขาก็ 30 นาที มีหมดทุกอย่าง ดาวน์ทาวน์ไม่ใหญ่เท่าโทรอนโต แต่ก็โอเคแล้ว แล้วก็หนูไม่ชอบหิมะเยอะขนาดนั้น เลยรู้สึกว่าที่นี่ตอบโจทย์มาก อาจจะน่าเบื่อหน่อย เพราะมันไม่มีอะไรมาก ส่วนใหญ่ก็ hiking, camping โดยรวมหนูโอเค แต่ข้อเสียคือ บัสช่วงหน้าหนาวแย่มากหิมะตกหนัก เขาไม่ได้เตรียมตัวรับมือ และก็เพิกเฉย เนื่องจากมีปัญหาทุกปี อีกอย่างก็คนไร้บ้านค่า ช่วงแรกมาอาจจะตกใจหน่อย แต่อยู่ไปเดี๋ยวก็ชิน คนแปลก ๆ ก็เยอะค่ะ ขึ้นรถบัสอาจจะมีตะโกนบ้างแต่ก็ไม่ต้องไปสนใจค่ะ หน้าหนาวฝนจะตกเยอะหน่อยทุกอาทิตย์เลย และก็ถ้าคนที่ชอบชีวิตกลางคืนอาจจะไม่ตอบโจทย์ ทุกอย่างปิดเร็วหมด 1 ทุ่มก็ปิดแล้ว
แต่ข้อดีคือธรรมชาติ หนูชอบตรงที่มีทั้งเมืองและธรรมชาติ เราสามารถไปชายหาดดูพระอาทิตย์ตกได้ตลอด ชอบซัมเมอร์ที่นี่มากมันคึกคักคนออกมาทำกิจกรรมกันค่ะ เล่นวอลเลย์บอล hiking ทะเลสาบสวยมาก ซัมเมอร์ที่แล้วหนูไปแคมปิ้งสามรอบ ธรรมชาติสวยมาก น้ำสีฟ้าเขียวดีมากเลยค่ะ นั่งรถบัสไปไม่ถึงชั่วโมง ส่วนอาหารมีทุกอย่างเลยค่ะ หนูเตรียมของเอเชียมาเยอะมากเพราะไม่ได้หาข้อมูลมาก่อนว่ามีอาหารเอเชียเยอะ คือเรามีภาพจำจากการไปแลกเปลี่ยนที่อเมริกามา ตอนนั้นมีร้านอาหารเอเชียแค่ร้านเดียว แต่ที่แคนาดาไม่ใช่ มีหมดเลย ร้านอาหารเกาหลี ญี่ปุ่น ไทย เวียดนาม มีแทบทุกอย่าง ไม่ต้องกังวลเรื่องอาหารมากค่ะ
ช่วยเปรียบเทียบอเมริกากับแคนาดาให้ได้ไหมคะมีอะไรแตกต่างกันบ้าง?
ตอนหนูไปอยู่ตอนนั้นเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน เราไม่ได้มีอิสระอะไรเท่ากับตอนนี้ที่มาอยู่เอง หนูอยู่เกือบหนึ่งปี เจอคนไทย 1 คน 5555 คือมันดีตรงที่เราได้ฝึกการใช้ภาษาจริง ๆ ภาษาหนูพัฒนาเร็วกว่าเมื่อเทียบกับอยู่ที่นี่ เพราะที่นี่เอเชียเยอะ เราก็จะจับกลุ่มคนไทย แล้วก็มีเพื่อนญี่ปุ่น เราก็ต่างถู ๆ ไถ ๆ แต่อยู่อเมริกาก็จะเหงาหน่อย เหมือนหนูอยู่ เมืองจอร์เจีย รถบัสไม่ได้เยอะ อาหารเอเชียน้อยมาก ค่อนข้างเหงาเพราะหนูไม่ได้อยู่ในเมือง แต่ที่นี่เพื่อนเยอะกว่า อาหารเอเชียเยอะกว่า การเรียนการสอนตอนนั้นหนูไปตอนอยู่ High school มันชิลค่ะ ไม่ได้เครียดมากและเป็นต่างจังหวัดด้วย เรียนง่ายกว่าไทยด้วย บางทีนักเรียนทะเลาะกับครูก็มี แบบเด็กเกเร ครูก็เชิญออกจากห้องค่ะ ค่อนข้างสุดโต่งอยู่ค่ะที่อเมริกา
มีข้อคิด คำแนะนำอะไรเพิ่มเติมสำหรับคนที่กำลังตัดสินใจอยากมาเรียนต่อหรือมาอยู่แคนาดาบ้างไหมคะ?
อย่างแรกให้เช็คสถาพแวดล้อมที่เราชอบ บางคนกลัวคนไร้บ้าน มันก็มีค่ะแต่เขาก็ไม่ได้มายุ่งอะไรกับเรา สแปมเยอะมาก เบอร์แปลกโทรมาไม่ต้องรับค่ะ กฎรัฐบาลเปลี่ยนทุกปี ให้ติดตามดีดีค่ะ
รีวิวก้อปันกันให้ฟังได้ไหมคะ อะไรทำให้เลือกใช้บริการของก้อปันกัน?
ตอนแรกหาเยอะมาก หลายโครงการค่ะ แต่ไปเจอพี่กันต์ก็ทักแชทและประชุมผ่าน Zoom กับพี่กันต์ พี่เขาตรงไปตรงมา ตอบตามความเป็นจริง ไม่ได้สวยหรูอะไร แต่ที่อื่นคือขายแต่ข้อดีให้ฟัง เลยรู้สึกว่าชอบตรงที่เขาไม่ได้พยายามขายฝันเรา เลยตัดสินใจใช้บริการพี่กันต์มาตลอด พี่เขาใส่ใจมาก คอยตามเรื่องให้หนูตลอด มีมานัดกินข้าว อัปเดตกันบ้าง ไม่ค่อยมีที่ไหนทำกันนะคะ เพื่อนหนูยัง งง ว่าเอเจนซี่เธอดีจัง ประทับใจมากค่ะ