เตรียมตัวเรียนภาษาในนิวซีแลนด์ : ฤดูกาล สภาพอากาศ และการเดินทาง

นิวซีแลนด์มี 4 ฤดูกาลชัดเจน ซึ่งตรงข้ามกับซีกโลกเหนือ (เช่นประเทศไทย) เนื่องจากตั้งอยู่ในซีกโลกใต้ ฤดูร้อนจะอยู่ช่วงปลายปี และฤดูหนาวจะอยู่ช่วงกลางปี โดยสามารถแบ่งฤดูและเดือนของนิวซีแลนด์ได้ดังนี้:

• ฤดูร้อน (Summer) – ธันวาคม ถึง กุมภาพันธ์: ช่วงนี้อากาศอบอุ่น ไม่ร้อนจัด (เฉลี่ยกลางวันประมาณ 20–25°C) ท้องฟ้าแจ่มใส กลางวันยาวนาน (พระอาทิตย์ตกดินประมาณสี่ทุ่ม) ทำให้มีกิจกรรมกลางแจ้งและเทศกาลต่าง ๆ คึกคัก เหมาะกับการไปชายหาดและเล่นกีฬาทางน้ำ​ เช่น พายเรือ ว่ายน้ำ และเดินเขาชมธรรมชาติ

• ฤดูใบไม้ร่วง (Autumn) – มีนาคม ถึง พฤษภาคม: อากาศเริ่มเย็นลงอย่างสบาย ๆ กลางวันยังอบอุ่น (ประมาณ 17–21°C) และกลางคืนเย็นขึ้น (บางพื้นที่ต่ำราว 6°C) ใบไม้เปลี่ยนสีสวยงามทั่วชนบท กิจกรรมกลางแจ้งอย่างเดินป่าหรือปั่นจักรยานนิยมมากเพราะอากาศไม่ร้อนเกินไป เป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวบางตาลง ทำให้เที่ยวได้อย่างสงบมากขึ้น

• ฤดูหนาว (Winter) – มิถุนายน ถึง สิงหาคม: ช่วงที่อากาศหนาวที่สุดของปี อุณหภูมิกลางวันเฉลี่ยประมาณ 12–16°C และสามารถลดต่ำใกล้ 0°C ในตอนกลางคืนหรือพื้นที่เกาะใต้​ หลายพื้นที่มีหิมะตกบนภูเขา โดยเฉพาะแถบเกาะใต้และที่สูง จึงเป็นฤดูแห่งการเล่นสกีและสโนว์บอร์ดบนลานสกีชื่อดัง เช่น ที่เมืองควีนส์ทาวน์และบริเวณเทือกเขาแอลป์ใต้ ส่วนตามเมืองชายฝั่งอากาศจะหนาวเย็นและมีฝนบ้างเป็นช่วงๆ เหมาะกับการชมวิวภูเขาหิมะและแวะจิบชาร้อนๆ ในคาเฟ่

• ฤดูใบไม้ผลิ (Spring) – กันยายน ถึง พฤศจิกายน: อากาศอบอุ่นขึ้นอย่างสดชื่น เฉลี่ยกลางวันประมาณ 16–19°C ดอกไม้ผลิบานทั่วประเทศและลูกแกะเกิดใหม่ตามฟาร์มทำให้วิวชนบทมีชีวิตชีวา บางวันอาจมีฝนแต่โดยรวมฟ้าโปร่ง อากาศเย็นสบาย ไม่หนาวจัด เป็นช่วงที่เหมาะกับการท่องเที่ยวชมธรรมชาติและเริ่มต้นกิจกรรมกลางแจ้งหลังจากผ่านหน้าหนาว

นิวซีแลนด์ขึ้นชื่อว่าในวันหนึ่งอาจเจอสภาพอากาศครบทุกฤดู! ดังนั้นไม่ว่าจะเดินทางช่วงไหน ควรเตรียมเสื้อผ้าให้พร้อมกับการเปลี่ยนแปลงของอากาศ เช่น พกเสื้อกันฝนหรือเสื้อกันหนาวไว้เสมอ นอกจากนี้ ด้วยตำแหน่งที่ตั้งของประเทศทำให้ฤดูร้อนมีช่วงเวลากลางวันยาวนานมาก ในขณะที่ฤดูหนาวช่วงกลางวันจะสั้นกว่าปกติ (ฤดูร้อนพระอาทิตย์ตก ~22:00 น. ส่วนฤดูหนาวตก ~17:00 น.)​ การรู้ลักษณะเหล่านี้จะช่วยให้เราวางแผนการเรียนและท่องเที่ยวได้เหมาะสมยิ่งขึ้น

สภาพอากาศของนิวซีแลนด์โดยรวม เย็นสบายตลอดปี ไม่ร้อนชื้นเหมือนเมืองไทย และในบางพื้นที่บนเกาะใต้ฤดูหนาวอาจมีหิมะตกได้ เพื่อให้เห็นภาพรวม นี่คือช่วงอุณหภูมิเฉลี่ย (ประมาณค่าต่ำสุด-สูงสุด) ของแต่ละฤดูในนิวซีแลนด์​:

หมายเหตุ:

1) ตัวเลขข้างต้นเป็นค่าเฉลี่ยคร่าวๆ ของอุณหภูมิช่วงกลางวันตลอดฤดูกาล ในเขตเกาะเหนืออุณหภูมิโดยทั่วไปจะสูงกว่าเขตเกาะใต้เล็กน้อย และบริเวณยอดเขาสูงหรือพื้นที่ในแผ่นดินใหญ่อาจมีอุณหภูมิต่ำกว่าค่าเฉลี่ยได้ (เช่น กลางคืนฤดูหนาวอาจติดลบในบางเมืองของเกาะใต้)​ – อ้างอิง newzealand.com

2) นิวซีแลนด์มีแสงแดดแรงกว่าหลายที่เพราะชั้นบรรยากาศบาง นักท่องเที่ยวและนักเรียนไทยจึงควรทาครีมกันแดดและสวมหมวกในวันที่แดดออก โดยเฉพาะช่วงฤดูร้อน

การเดินทางจากประเทศไทยสู่นิวซีแลนด์ส่วนใหญ่ สะดวกที่สุดโดยเครื่องบิน โดยมีสนามบินหลักของนิวซีแลนด์อยู่ที่เมืองโอ๊คแลนด์ (Auckland) นอกจากนี้ยังมีสนามบินนานาชาติที่ไครสต์เชิร์ช เวลลิงตัน และควีนส์ทาวน์ (แต่เที่ยวบินจากเอเชียส่วนใหญ่จะลงโอ๊คแลนด์ หรือไครสต์เชิร์ช) ด้านล่างคือข้อมูลสายการบินหลัก, ระยะเวลาเดินทาง, และเส้นทางยอดนิยมที่ควรรู้:

• สายการบินหลัก: สายการบินที่ให้บริการเส้นทางกรุงเทพฯ–นิวซีแลนด์ ได้แก่ Singapore Airlines (แวะเปลี่ยนเครื่องที่สิงคโปร์), Qantas หรือ Emirates (แวะที่ออสเตรเลีย), และ Cathay Pacific (แวะที่ฮ่องกง) ก็เป็นตัวเลือกยอดนิยม โดยรวมแล้วหากต้องต่อเครื่อง ระยะเวลารวมจะอยู่ราว 13–15 ชั่วโมง ขึ้นกับเส้นทางและเวลารอเปลี่ยนเครื่อง

• เส้นทางบินยอดนิยม: ผู้โดยสารไทยมักบินไปลงที่ โอ๊คแลนด์ เพราะเป็นเมืองใหญ่และศูนย์กลางการบิน จากนั้นหากต้องการเดินทางต่อไปยังเมืองอื่นก็สามารถต่อเที่ยวบินภายในประเทศได้ (เช่น บินต่อไปไครสต์เชิร์ชหรือควีนส์ทาวน์) อีกเส้นทางที่นิยมคือการบินลง ไครสต์เชิร์ช (ผ่านการแวะพักที่ออสเตรเลียหรือสิงคโปร์) สำหรับผู้ที่ตั้งใจจะเรียนหรือท่องเที่ยวเกาะใต้โดยตรง

• เที่ยวบินและบริการ: ควรจองตั๋วล่วงหน้า หากบินช่วงหน้าร้อน (ธ.ค.–ก.พ.) ซึ่งเป็น ช่วงท่องเที่ยวไฮซีซั่น ของนิวซีแลนด์เพราะตั๋วมักจะราคาสูงและที่นั่งเต็มเร็ว

นิวซีแลนด์เป็นประเทศที่มีระบบขนส่งสาธารณะระหว่างเมืองที่ครอบคลุมพอสมควร แม้ว่าคนท้องถิ่นจำนวนมากนิยมขับรถเอง แต่สำหรับนักเรียนหรือผู้ที่ไม่มีรถยนต์ส่วนตัว การเดินทางด้วยรถโดยสารสาธารณะก็เป็นทางเลือกที่สะดวกและปลอดภัย โดยมีรูปแบบหลัก ๆ ดังนี้:

• รถบัสระหว่างเมือง (Intercity Bus): การเดินทางข้ามเมืองนิยมใช้บริการรถบัสเป็นหลัก เพราะราคาประหยัดและมีเครือข่ายเส้นทางครอบคลุมทั่วประเทศ บริษัท InterCity เป็นผู้ให้บริการรายใหญ่ที่มีเที่ยวรถเชื่อมต่อทั้งเกาะเหนือและเกาะใต้ นักเดินทางสามารถขึ้นรถบัสไปยังเมืองสำคัญต่างๆ ได้เกือบทุกวัน รถบัสมีมาตรฐานดี พร้อมที่นั่งสบายและห้องน้ำบนรถ เส้นทางยอดนิยม เช่น โอ๊คแลนด์–เวลลิงตัน (ประมาณ 10 ชั่วโมง), ไครสต์เชิร์ช–ควีนส์ทาวน์ (7–8 ชั่วโมง) เป็นต้น ระบบรถบัสในเมืองใหญ่ก็มีให้บริการเช่นกัน เช่น โอ๊คแลนด์, เวลลิงตัน และไครสต์เชิร์ช ต่างมีเครือข่ายรถเมล์ครอบคลุมพื้นที่เมือง ทำให้นักเรียนสามารถเดินทางไปโรงเรียนหรือที่พักได้โดยสะดวก​ – อ้างอิง newzealand.com​

• รถไฟ (Train): แม้ระบบรถไฟนิวซีแลนด์จะไม่ทั่วถึงเท่ารถบัส แต่ก็มีรถไฟสายสำคัญเพื่อการท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลกอยู่ 3 สาย ได้แก่ Northern Explorer (วิ่งระหว่างโอ๊คแลนด์–เวลลิงตัน), Coastal Pacific (ไครสต์เชิร์ช–พิคตัน) และ TranzAlpine (ไครสต์เชิร์ช–เกรย์เมาท์ ข้ามเทือกเขาแอลป์ใต้) รถไฟเหล่านี้ขึ้นชื่อเรื่องวิวสองข้างทางที่งดงามมาก นักเรียนสามารถใช้บริการรถไฟเหล่านี้ทั้งเพื่อการเดินทางและเปิดประสบการณ์ชมวิวไปพร้อมกัน นอกจากนี้ ในเมืองใหญ่อย่างเวลลิงตันและโอ๊คแลนด์ยังมี รถไฟชานเมือง ให้บริการสำหรับการเดินทางภายในภูมิภาคด้วย (เช่น รถไฟจากโอ๊คแลนด์ไปยังเขตปริมณฑล หรือรถไฟจากเวลลิงตันไปยังเมืองใกล้เคียง)​ – อ้างอิง newzealand.com อย่างไรก็ตาม เมืองอื่น ๆ ส่วนใหญ่ไม่มีรถไฟโดยสารประจำทาง ดังนั้นการเดินทางข้ามเมืองหลักๆ ยังคงพึ่งพารถบัสหรือเครื่องบินเป็นหลัก

• เรือเฟอร์รี่ระหว่างเกาะ (Ferry): เนื่องจากนิวซีแลนด์แบ่งเป็นสองเกาะหลัก การเดินทาง ข้ามเกาะเหนือ-เกาะใต้ สามารถทำได้ด้วยเรือเฟอร์รี่ประจำเส้นทาง Wellington–Picton ซึ่งให้บริการทั้งผู้โดยสารและยานพาหนะ (ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงต่อเที่ยว) เฟอร์รี่นี้จะพาข้ามช่องแคบคุก (Cook Strait) พร้อมชมวิวทะเลและฟยอร์ดที่สวยงาม นักเรียนที่ต้องการนำรถยนต์เช่าข้ามไปอีกเกาะหนึ่งสามารถใช้บริการนี้ได้ เรือเฟอร์รี่มีรอบวิ่งวันละหลายเที่ยวและมีสิ่งอำนวยความสะดวกบนเรือครบครัน เช่น ร้านกาแฟ ร้านอาหาร และเลานจ์ให้นั่งพักผ่อน​ – อ้างอิง newzealand.com (กรณีไม่สะดวกเดินทางทางเรือ ยังมีสายการบินภายในประเทศที่บินข้ามเกาะระหว่างเมืองใหญ่ เช่น โอ๊คแลนด์–ไครสต์เชิร์ช/เวลลิงตัน)

• ระบบขนส่งสาธารณะในเมืองใหญ่: เมืองหลักอย่างโอ๊คแลนด์และเวลลิงตันมีระบบขนส่งมวลชนที่พัฒนาและใช้งานง่าย – โอ๊คแลนด์มีทั้ง รถเมล์ประจำทาง, รถไฟชานเมือง และ เรือเฟอร์รี่ในอ่าว เชื่อมย่านสำคัญต่าง ๆ ส่วนเวลลิงตันมีรถไฟชานเมืองและรถเมล์ที่ครอบคลุมทั่วเขตเมือง (รวมถึงรถกระเช้าเคเบิลคาร์ขึ้นเขา Kelburn ที่เป็นทั้งจุดชมวิวและระบบขนส่งยอดนิยม) ขณะที่ไครสต์เชิร์ชและควีนส์ทาวน์ไม่มีรถไฟในเมือง แต่มีเครือข่ายรถเมล์ให้บริการภายในเมืองและชานเมืองได้อย่างเพียงพอ บางเมืองมีบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ (เช่น AT HOP Card ในโอ๊คแลนด์ หรือ Metrocard ในไครสต์เชิร์ช) ที่ช่วยให้การขึ้นลงรถสาธารณะสะดวกและประหยัดขึ้น สำหรับการเดินทางเชื่อมต่อระหว่างเมืองใหญ่ หากระยะทางไกล (เช่น โอ๊คแลนด์ไปควีนส์ทาวน์) นักเรียนอาจเลือกบินภายในประเทศเพื่อลดเวลาการเดินทาง แต่หากไม่เร่งรีบ การนั่งรถบัสหรือรถไฟชมวิวไปเรื่อย ๆ ก็ถือเป็นประสบการณ์ที่น่าประทับใจไม่แพ้กัน

Tip สำคัญ อย่าลืมพก Global Adapter (ปลั๊กแปลงไฟ) ที่ใช้ได้กับนิวซีแลนด์!

ปลั๊กไฟของนิวซีแลนด์ใช้แบบเดียวกับออสเตรเลีย (Type I) ซึ่งมี 3 ขา โดยขาคู่จะเอียงเฉียงคล้ายตัว / ดังนั้นแม้คุณมีปลั๊กอเมริกัน 2 ขาแบนธรรมดา คุณอาจจะต้องพึ่ง adapter ที่สามารถบิดขาเสียบให้เอียงตามช่องเสียบของนิวซีแลนด์ได้ จึงแนะนำให้พก Universal Adapter ที่รองรับเต้าเสียบหลากหลายแบบ และมีหัว USB ติดตัวมาด้วย เพื่อให้ใช้งานได้กับทั้งโน้ตบุ๊ก มือถือ และเครื่องใช้ไฟฟ้าพื้นฐานของคุณ

พร้อมลุยนิวซีแลนด์แล้วหรือยัง?

หากคุณกำลังวางแผนมาเรียนภาษาในนิวซีแลนด์ — ไม่ว่าจะเลือกเมืองไหน ซีซั่นไหน หรือยังลังเลกับการเตรียมตัวและเส้นทางการเดินทางต่าง ๆ KPG (ก้อปันกัน) พร้อมเป็นเพื่อนคู่คิดและพี่เลี้ยงให้คุณตั้งแต่วันแรก

• ให้คำแนะนำการเลือกเมืองและสถาบันที่ตรงกับเป้าหมาย
• ช่วยจัดการเรื่องวีซ่า เอกสาร และวางแผนการใช้ชีวิตในต่างแดน

ทัก LINE มาคุยกับทีม KPG ได้เลยที่ LINE : @korpungun