[รีวิว] เรียนหลักสูตร Diploma in Architectural and Building ที่แคนาดา กับสถาบัน BCIT โดยคุณกล้า

รีวิว เรียนหลักสูตร Diploma in Architectural and Building ที่แคนาดา
กับสถาบัน BCIT โดยคุณกล้า

อะไรทำให้ตัดสินใจมาเรียนต่อที่แคนาดา?

ของกล้าจบวิศวกรรมศาสตร์เครื่องกลมา แล้วมีโอกาสได้ทำงานเกี่ยวกับงานก่อสร้างที่ออสเตรเลียครับ เป็นผนังกันไฟตามตึก ตามสถานีรถไฟ และสถานที่สาธารณะครับ เวลาไปทำงานคือเราไปติดตั้งพวกผนังกันไฟให้กับสถานที่ต่าง ๆ มันจะมีรายละเอียดเยอะ อย่างที่ไทยตามคอนโดหรือตึกใหม่ ๆ มันยังไม่มีเทคโนโลยีแบบนี้ ก็เลยคิดว่ามันเป็นสายงานที่น่าสนใจ คิดว่าในอนาคตที่ไทยก็ต้องมีอะไรแบบนี้เข้าไปผสมผสานอยู่ในงานก่อสร้าง ก็เลยสนใจอยากเรียนต่อด้านนี้ เผื่อไปต่อยอดต่างประเทศได้ หรือว่าจะกลับไปทำงานที่ไทยได้ บวกกับว่าสายงานนี้เงินดี และมองว่าเป็นสายงานที่สามารถเติบโตต่อได้ในอนาคตครับ

ทำไมถึงเลือกเรียน Diploma in Architectural and Building ที่ BCIT แทนการเรียนต่อสายนี้ในออสเตรเลียคะ?

จริง ๆ ตอนนั้นมีคิดอยู่เหมือนกันครับ ว่าโปรแกรมที่กล้าเรียนอยู่ปัจจุบันที่แคนาดา มันจะมีโปรแกรมที่คล้าย ๆ กันที่ออสเตรเลีย แต่พอดูคอร์ส และเปรียบเทียบดูแล้ว กล้าว่าไม่ต่างกันมาก แต่เห็น BCIT มีชื่อเสียงดีกว่านิดนึงเลยเลือกที่นี่ครับ ตอนกล้ายื่นเข้าเรียนที่นี่ เขาต้องการ 3 อย่าง คือ 1.Transcript มัธยมปลายกับมหาวิทยาลัย 2.คะแนน IELTS 3. มีเอกสารที่ให้เราตอบคำถามประมาณว่า ทำไมถึงสนใจโปรแกรมนี้ จบแล้วอยากทำอะไร Background เดิมของเราเกี่ยวข้องอะไรกับสายงานนี้บ้าง 

ถ้าคนที่ยังไม่เคยมีประสบการณ์เกี่ยวข้องกับสายงานด้านนี้มาก่อน สามารถเข้าเรียนในหลักสูตรนี้ได้ไหมคะ?

กล้าเคยคุยกับครูที่อยู่ในทีม Admission เขาเคยบอกว่า ที่ BCIT เขาจะแบ่งจำนวนการรับนักเรียนเป็นสัดส่วนครับ อันนี้คร่าว ๆ นะครับผมไม่แน่ใจตัวเลข ประมาณว่า 20% เป็นเด็กจบใหม่จาก High school อีก 20% เป็นคนที่เคยทำงานมีประสบการณ์มาแล้ว อีก 20% เป็นนักเรียนต่างชาติ เพราะเขาต้องการให้มีความหลากหลายในชั้นเรียน อย่างเด็ก High school เขาก็จะมาจัดอันดับตามเกรดและการตอบคำถามครับ ถ้าอย่างคนที่จบม.ปลายมาแล้วอยากเรียนหลักสูตรนี้ กล้าว่ามีเปอร์เซ็นต์ที่จะเข้าได้ ขึ้นอยู่กับการตอบคำถามด้วยครับ

การเรียนการสอนในหลักสูตรนี้ได้เรียนเกี่ยวกับอะไรบ้างคะ?

กล้าว่ามันจะเรียนเหมือน ปี 1 ในมหาลัยเลยครับ จะมีเรียนฟิสิกส์ เลข อังกฤษเพื่อการสื่อสาร และวิชาที่เจาะไปทางด้านงานก่อสร้างมีใช้ซอฟท์แวร์เป็น AutoCAD มี building code ที่เกี่ยวกับ กฎหมายในการขอทำเอกสารก่อสร้างที่นี่ครับ ประมาณว่าการออกแบบตึกแต่ละตึกต้องมีกฎอะไรบ้าง ต้องทำบันไดกี่ขั้น กว้างเท่าไหร่ ยาวเท่าไหร่ มันจะเรียนเกี่ยวกับรายละเอียดที่จะขอ building permit ที่นี่ครับ

หลังจากเรียนหลักสูตรนี้แล้วเป็นยังไงบ้าง ช่วยรีวิวหลักสูตรนี้ให้ฟังหน่อยค่ะ?

สำหรับกล้า กล้าจบวิศวะมาเลยไม่ถึงกับยากมาก แต่จะมีบางวิชาที่ต้องใช้ภาษาเยอะ ๆ อย่าง building code ที่เราต้องเรียน คือเราต้องพยายามอ่านคำถามและไปเทียบกับตัว building code ที่อยู่ในอินเทอร์เน็ตหรืออยู่ในหนังสือ ต้องใช้สกิลการอ่านค่อนข้างเยอะและไว มันยากตรงนั้นนิดนึงครับ แต่พวกฟิสิกส์ เลข อังกฤษ ไม่ได้มีปัญหา เพราะมันไม่ได้เน้นการใช้ภาษาเหมือนคณะอื่น ๆ ที่เขาต้องใช้พรีเซนท์อะไรงี้ครับ

อาจารย์ที่นี่ กล้าว่าดีตรงที่ เขาจะเป็นคนที่ทำงานอยู่ในสายงานนี้ อย่างของกล้าถ้าเรียนจบไปจะเป็น Technologist / Licensed architect / Consultant ได้ครับ พวกอาจารย์จะทำงานในสายนี้หมดเลย อย่างอาจารย์ที่สอนคลาสวาดรูป จะเป็นคนที่เป็น Licensed architect มาสอน ถ้าคลาสเกี่ยวกับโครงสร้างก็จะเป็นคนที่เป็น Structure engineer มาสอน แล้วก็มีทั้งคนที่เป็น Construction manager มาก่อน บางคนเขาสอนเราเสร็จก็กลับไปทำงานในสายเขาต่อก็มีครับ เขามาสอนเป็น part-time หรือ contract แล้วแต่คนครับ มันดีตรงที่มันหลากหลายกว่าที่ไทย อย่างที่ไทยตอนเรียนอาจารย์ทุกคนก็เป็น Engineer หมดเลยไม่มีอย่างอื่นปนเลยครับ

ส่วนเพื่อนในคลาส ค่อนข้างสนิทกันอยู่ครับ ไปไหนด้วยกัน เรียนด้วยกัน ทำการบ้านด้วยกัน เพราะตารางเป็นเรียน 5 วัน จะเจอเพื่อนหน้าเดิมตลอด งานที่สั่งก็แล้วแต่วิชาเรียน ถ้าอย่างวิชาออกแบบซอฟท์แวร์ เขาก็จะให้ทำโปรเจค ให้เวลา 2 อาทิตย์ ในช่วงเวลาภายใน 2 อาทิตย์นี้ อาจารย์เขาจะให้เข้าไปทำแล็บ เรามีความคืบหน้าอะไรก็อัปเดตเขาตลอด และก็ส่งงานตามเดดไลน์ แต่ถ้าเป็นพวกเลข ฟิสิกส์ อังกฤษให้เขียน essay ก็เหมือนที่ไทยครับ สั่งอาทิตย์นี้ส่งอาทิตย์หน้า วิธีการประเมินที่นี่แอบปล่อยเกรดกว่าที่ไทย ถ้าเขาเรียนครบเขาก็ให้ผ่านทุกคนนะครับ ที่นี่จะเป็น 100% แต่ละวิชาจะมีเกณฑ์ผ่านที่ 50 หรือ 60% ถ้าเข้าเรียน ส่งงานครบยังไงก็ผ่านแน่นอนครับ ไม่ค่อยมีคนตกนะครับ

หลักสูตรนี้มีให้ฝึกงานด้วยไหมคะ?

จะมีเป็น Work placement คือปกติเทอม 1-3 เราจะเรียน 5 วัน จ-ศ และเทอมสุดท้ายเขาจะมีให้เราเว้นว่างไว้วันนึง อาจจะเป็นวันศุกร์และเขาจะให้เราไปลองทำงานที่ construction firm สักที่หนึ่ง เป็นส่วนหนึ่งของคอร์ส อาทิตย์ละหนึ่งวัน ประมาณ 15 อาทิตย์ เท่าที่ถามรุ่นพี่มา เขาจะลิสท์บริษัทพร้อม contact มาให้ และเราน่าจะต้องติดต่อไปทำงานเองครับ

BCIT มีบริการอะไร Support นักเรียนบ้างคะ?

ด้วยความที่ BCIT เป็นโรงเรียนใหญ่ เขาจะมีทุกอย่างที่มหาวิทยาลัยในไทยส่วนใหญ่มี เช่น Student association จะช่วยเกี่ยวกับ เราอยากถามเรื่อง Resume สายงาน หรือการสัมภาษณ์งาน เขามีบริการด้านนี้อยู่ และจะมี Career fair ที่เขามาจัดบูธสายงานต่าง ๆ เช่น สาย IT, Business, Marketing, Engineering, Architecture, Construction จะวนไปเรื่อย ๆ มาเกือบทุกเดือน บางทีก็เป็นบูธสาย IT เขาก็จะเอาบูธมาตั้งที่มหาวิทยาลัย และก็ให้คนที่สนใจเข้ามาสอบถามข้อมูลได้เลยครับ และก็จะมียิม ห้องสมุดกลางเปิด 24 ชม. มีห้องประชุมให้สามารถจองได้เกือบทุกตึกเลยครับ

ช่วยแชร์ประสบการณ์การหางานและการทำงานที่แวนคูเวอร์ได้ไหมคะ?

กล้าทำเป็นร้านพิซซ่า ตำแหน่งทำในครัวครับ ตอนนั้นเพื่อนในห้องทำอยู่เลยให้เขาช่วยถาม ๆ ให้ กล้าว่าถ้าสมัครออนไลน์ ด้วยความที่ช่วงหลังโควิดมา เด็กต่างชาติเข้ามาเยอะ ทำให้ได้งานค่อนข้างยาก ถ้าไม่มีคนรู้จักนะ แต่ว่าถ้าผ่านคนรู้จัก งานที่กล้าได้ เขาไม่ได้สัมภาษณ์อะไร เราก็ได้เลย กล้าว่าด้วยเนื้องานมันไม่ได้ยากขนาดนั้น ประมาณว่าใครก็ทำได้ และกล้าเคยทำงาน kitchen มาตั้งแต่อยู่ที่ออสเตรเลียแล้ว ก็ไม่ได้มีอะไรมาก กล้าทำ 3 วัน เสาร์ อาทิตย์ และวันจันทร์ วันละ 7 ชม. ก็ประมาณ 20 ชม. ต่อสัปดาห์ครับ ก่อนหน้านี้กล้าลองสมัครออนไลน์และได้ที่ร้านซูชิ ไปทำอยู่ประมาณ 2-3 อาทิตย์ แต่ว่ามันไกลมาก กล้าเลยไม่ได้ทำต่อ แต่สำหรับคนที่ทั้งไม่มีประสบการณ์และไม่มี Reference ด้วยก็อาจจะยาก เพราะบางทีเขาตัวเลือกเยอะ เขาก็เลือกคนที่มีประสบการณ์ก่อน

มีวิธีการหาที่พักที่แคนาดาอย่างไรคะ?

กล้าอยู่หอพักของมหาวิทยาลัยเลยครับ มันจะอยู่หลังแคมปัสเดินมานิดนึง ไม่ไกลครับ ประมาณ 10 นาที ตอนหาหอพัก กล้าว่ากล้าเหมือนโชคดีด้วย ตรงที่ตอนจะมาก็ใกล้เปิดเทอมแล้ว เราไม่ได้หาอะไรเท่าไหร่ แต่ก็ลองสมัครหอของมหาวิทยาลัย และจังหวะตอนนั้นมันมีคนออกพอดีเราเลยได้ เรทค่าหอพักประมาณ 850$ ต่อเดือน รวมค่าไฟค่าน้ำ ห้องนอนส่วนตัว แต่แชร์ห้องครัว ห้องน้ำ และห้องนั่งเล่นกัน

เมือง Vancouver เป็นยังไง หลังจากอยู่แล้วเมืองนี้มีข้อดีและข้อเสียอะไรบ้างคะ?

กล้าว่ามันก็มีข้อดีข้อเสียของมันครับ ข้อดีคือ อากาศที่มันไม่หนาวมาก ค่อนข้างอยู่กับธรรมชาติ ไม่ได้มีมลพิษเหมือนที่กรุงเทพ รถไม่ค่อยติด แต่ข้อเสียเลยคือ คนไร้บ้านและปัญหาเศรษฐกิจภายใน เขารับผู้อพยพเยอะเกินไป และเหมือนทุกคนก็จะมาเริ่มที่เมืองใหญ่ ปัญหาบ้านก็หายาก ราคาแพง พวกของกินของใช้ค่อนข้างแพงเมื่อเทียบกับรายได้ที่นี่ คนไร้บ้านหลอน ๆ ก็หนัก เขาก็ไม่ได้จัดการจริงจัง ถ้าเราอยู่ในโซนที่ไม่ปลอดภัย ก็อันตรายเหมือนกัน อย่างเพื่อนกล้าย่าเขาอยู่โซน Hasting street – Chinatown เขาอยู่ไม่ได้ นอนไม่ได้เลย เดี๋ยวก็ได้ยินเสียงโวยวาย มันก็มีหลายโซนที่เป็นแบบนี้ มันก็ไม่ได้ปลอดภัยขนาดนั้น

ปกติช่วงว่าง ๆ กล้าทำกิจกรรมอะไรบ้างคะ?

ช่วงว่าง ๆ กล้าไปต่อยมวย และก็ตอนไปเที่ยว ส่วนมาก ก็ไป Joffre lake ไปปีนเขา Hiking ไปสกีช่วงหิมะตก ส่วนมากก็เที่ยวในแวนคูเวอร์ครับ

ก่อนมาแคนาดามีข้อกังวลอะไรบ้างไหม และมีวิธีการรับมือและแก้ไขปัญหายังไง?

มีแอบไม่อยากมานิดนึงครับช่วงแรก ๆ เพราะถ้ามานี่เราไม่มีคนรู้จักเลย ตอนนั้นอยู่ไทยและลังเลว่า ถ้าหางานที่ไทยทำงานที่ไทยก็อาจจะดี แต่ด้วยความที่ไหน ๆ สมัครมาแล้ว และที่บ้านก็อยากให้มาลองเรียนดู เพราะกล้าอยากเรียน Architect ตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว แต่พอมาแล้วกล้าก็ไม่ได้ติดหรือกังวลอะไรครับ เพราะกล้าก็พอได้ภาษาอยู่แล้วด้วยครับ

มีข้อคิด คำแนะนำอะไรสำหรับคนที่กำลังตัดสินใจอยากมาเรียนต่อหรือมาอยู่แคนาดาบ้างไหม?

ถ้าอยากมาแนะนำให้ทำรีเสิร์ชมา ต้องมีเป้าหมายว่าเราอยากมาทำอะไร เพราะว่าที่นี่สังคมมันค่อนข้างหลากหลาย ถ้ามาแล้วมาเคว้ง ๆ แค่อยากเปลี่ยนบรรยากาศ กล้าว่าไม่ค่อยได้อะไร ถ้ามาแล้วกลับไทยส่วนตัวคิดว่าไม่ค่อยคุ้มเท่าไหร่ครับ

รีวิวก้อปันกันให้ฟังได้ไหมคะ อะไรทำให้เลือกใช้บริการของก้อปันกัน?

กล้าว่าก็ดีครับ ตอนแรกกล้าเสิร์ชหาที่เรียนก่อน ไปเจอ BCIT และอ่านรีวิวไปเรื่อย ๆ และก็เจอที่พี่กันต์ไปสัมภาษณ์ไว้ กล้าว่าบทสัมภาษณ์ในยูทูปหรือบทสัมภาษณ์นักเรียนเก่าค่อนข้างดีครับ เพราะมันเข้าถึงง่าย บวกกับ Portal ที่ใช้ออนไลน์ดีเลยครับ ทำให้เรียบเรียงเอกสารง่ายและเป็นระบบครับ เพราะว่ากล้าเคยยื่นวีซ่าหลายที่เขาจะใช้อีเมลส่งไป-มา ทำให้พวกไฟล์มันหายาก มีหายบ้าง แต่ตัว Portal ที่ใช้อยู่ดีเลยครับ สุดท้ายกล้าคิดว่า เอเจนซี่สามารถให้ข้อมูลเราได้ประมาณนึง แต่เราต้องค้นหาข้อมูลเองค่อนข้างเยอะเลยครับ เขาไม่ได้รู้ว่าสายงานหรือการเรียนเราเป็นยังไงเท่ากับตัวเรา เราควรรีเสิร์ชเอาเองดีกว่าครับ

อ่านเกี่ยวกับ BCIT – คลิก

Photo Credits :  กล้า

ติดต่อขอรับคำปรึกษา

 

เรียนต่อแคนาดา อเมริกา

Line : @korpungun

เรียนภาษาที่ฟิลิปปินส์

Line : @kpglearn

คอร์สออนไลน์ KPG LIVE

Line : @kpglive

TEL: 094-883-8778