ประสบการณ์เรียนและทำงานที่ DVC
คุยกับ “ก้อง” เด็กไทยอ่อนอังกฤษ
ที่กำลังจะเข้า University of California
Major : Political Science
แม้ไม่มี IELTS สักคะแนนเดียว!
ก้อง – ก้องภพ ลี้มิ่งสวัสดิ์
อีกหนึ่งเด็กไทยตามมาตรฐานการศึกษาเดิมๆ ที่ตัดสินใจบินไปเรียนต่อในอเมริกาแม้ว่าภาษาของเขาจะไม่แข็งแรง และไม่มีผลการทดสอบภาษาอังกฤษใดๆ ติดตัวไปเลย! ปัจจุบันก้องกำลังจะเข้าเรียนต่อที่ University of California ในสาขารัฐศาสตร์ ที่ต้องใช้ทักษะการเขียนบรรยาย และถกเถียงระดับสูง
” อะไรที่ทำให้เขาเปลี่ยนแปลงตัวเองในระยะเวลาเพียง 2 ปี ? “
‘ก้อปันกัน’ ต่อสายตรงถามทุกเรื่องที่เด็กไทยอยากรู้ และเคล็ดลับการเรียนต่อที่หลายคนยังไม่รู้ เพราะใครๆ ก็มีโอกาสเรียนต่อในต่างประเทศได้ไม่ยาก!
ก้องขอเลื่อนเวลาการคุยออกไปอีกครึ่งชั่วโมง เพราะเพิ่งกลับจากการทำงานพิเศษ
“จริงๆ ถ้าเด็กนักเรียนต่างชาติมาทำงานในอเมริกาถือว่าผิดกฎหมายนะครับ แต่งานที่ผมทำเป็นส่วนที่ทางคอลเลจเขาจัดไว้ให้ สามารถทำได้สัปดาห์ละไม่เกิน 20 ชั่วโมง งานที่ผมทำเป็นพวก Front Desk แนวโต๊ะประชาสัมพันธ์ให้ข้อมูลนักเรียนคนอื่นๆ ได้ค่าตอบแทนชั่วโมงละ 11 เหรียญ แล้วก็ได้ฝึกภาษาไปในตัวด้วยครับ”
เท่าที่รู้มาคือภาษาไม่ได้ดีเลย เอาความกล้าจากไหนบินไปเรียนต่อคนเดียว?
(หัวเราะ) แม่ผมเขาอยากให้ไปครับ แล้วก็มีญาติอยู่ที่นั่นด้วย ก่อนไปเราก็ทำการบ้านพอสมควร มาเจอ ‘ก้อปันกัน’ ตอนที่สมัครเรียนที่นี่ไปแล้ว ตอนแรกก็กลัวว่าจะสื่อสารไม่รู้เรื่องน่ะครับ แต่พอมาเรียนปรับภาษาที่ Intensive English Classes (IEC) ก็ใช้เวลาไม่นานครับ เพราะนักเรียนทุกคนก็มาจากต่างประเทศกันหมด ระดับภาษาก็พอๆ กัน เราเลยรู้สึกกล้าพูด กล้าถาม กล้าคุย ซึ่งพวกเขาก็กลายเป็นเพื่อนกลุ่มแรกที่เข้าไปเรียนต่อใน Diablo Valley College ด้วยกัน สรุปว่าใช้เวลาปรับตัวเร็วกว่าที่คิดด้วยซ้ำ
มีอะไรอีกบ้างที่รู้สึกดีกว่าที่คิด
คงเป็นเรื่อง Community College นี่ล่ะครับ คือตอนแรกเราเห็นแค่ชื่อก็รู้สึกว่าเป็นสถาบันเล็กๆ ถ้ามาอเมริกาแล้วเรียนแค่นี้ ต่อมหาวิทยาลัยในเมืองไทยดีกว่า (หัวเราะ) เพื่อนที่ไทยทุกคนก็ไม่รู้จัก ถามทุกครั้งว่ามันคืออะไร คำตอบที่ได้จากการมาเรียนเกือบ 2 ปีก็คือมันเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของเด็กไทย ผมตัดสินใจไม่เรียนเศรษฐศาสตร์เพราะวิชาเลขค่อนข้างยาก เลยลองเปลี่ยนไปเรียนรัฐศาสตร์ซึ่งสนุกมาก ปกติเรียนเก็บหน่วยกิต 2 ปีก็ยื่นเข้าไปเรียนต่อใน University of California ได้ แต่ผมลงหลายวิชา เลยใช้เวลาแค่ปีครึ่งก็ยื่นได้แล้วครับ
ก็บินไปเข้า University of California ตั้งแต่ทีแรกไม่ง่ายกว่าเหรอ?
ภาษาอย่างนี้เหรอพี่ (หัวเราะ) ถ้าจะเล่าจริงๆ คือผมแอดมิสชั่นติดที่ไทยไปแล้ว พวกสอบวัดระดับอย่าง SAT หรือ TOEFL นี่ไม่เคยสอบเลยครับ พอเปลี่ยนใจมาอเมริกา ถ้าจะเข้ามหาวิทยาลัยก็ต้องมีเอกสารพวกนี้ ยังไม่นับว่าต้องเจอกับอาจารย์และเพื่อนนักศึกษาชาวอเมริกันแบบเนทีฟ อาจจะท้อง่ายกว่าแบบนี้ด้วยซ้ำ
แล้วอาจารย์ที่ Diablo Valley College เป็นยังไง?
เป็นคนที่เข้าใจนักเรียนครับ คือถ้าจำไม่ผิด ที่นี่มีนักเรียนชาวต่างชาติประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ อาจารย์เขาจะมีความเข้าใจในเรื่องนี้มากๆ คลาสนึงเรียนประมาณ 30 คน พอต้องส่งเปเปอร์ ตรงไหนที่ผิดเขาก็จะอธิบายได้อย่างละเอียดเป็นคนๆ ไป เมเจอร์รัฐศาสตร์ที่เลือกก็เหมือนกัน คือตอนแรกท้อกับเศรษฐศาสตร์แล้วเพราะศัพท์วิชาเลขมันยากมาก เลยลงทะเบียนเรียนตัวนี้ อาจารย์ก็เรียกไปคุยว่า การเมืองที่นี่มันเป็นของอเมริกานะ แต่อาจารย์จะช่วยให้เธอเรียนให้ได้ ผมเลยเปลี่ยนเมเจอร์เป็นรัฐศาสตร์เลย
เรียกว่าชีวิตเปลี่ยน…
อย่างนั้นก็ได้ครับ แพลนตอนนี้คือจะเข้าไปเรียนต่อสายรัฐศาสตร์ใน UC ล่ะครับ แต่กำลังดูอยู่ว่าจะไปแคมปัสไหน ส่วนการเรียนก็อาจจะโฟกัสไปที่ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ พอเรียนจบก็อยากกลับมาทำงานในกระทรวงการต่างประเทศ หรือหน่วยงานระหว่างประเทศก็ได้ครับ
สรุปว่ามั่นใจเนอะว่าจะยื่นเข้าเรียนต่อที่ UC ได้?
อ้อ เรื่องนี้มันเป็นข้อตกลงกันระหว่าง Community College และมหาวิทยาลัยที่มีมาก่อนแล้วน่ะครับ ใครที่ยังไม่มั่นใจว่าจะเข้าได้มั้ยอาจจะต้องศึกษาข้อมูลก่อนเลือกวิทยาลัยที่จะไปเรียน อาจจะมีรายละเอียดปลีกย่อย เช่น เกรดที่ต้องได้ วิชาที่ต้องเรียน หรือแคมปัสที่สามารถไปเรียนต่อได้ เรื่องพวกนี้เราอาจจะต้องศึกษาเองหมดเลย หรืออาจจะมีตัวช่วยเป็นพวกสถาบันเรียนต่อและศูนย์นักเรียนต่างชาติที่อยู่ในนั้น
แค่ฟังมาก็รู้เลยว่าก้องโตขึ้นเยอะเลย?
มากครับ (หัวเราะ) ที่นี่เราต้องทำเองทุกอย่าง เลือกวิชาที่ลง จัดตารางเรียนเอง ตัดสินใจเอง ปกติคนอื่นเขาเรียน 2 ปี แต่ผมพยายามจัดวิชาของตัวเองให้เก็บหน่วยกิตได้ครบภายในปีครึ่ง เหนื่อยเหมือนกันเพราะทำงานไปด้วย เรียนไปด้วย แต่ก็นะ
อากาศเป็นไง?
หนาวมากพี่ (หัวเราะ) จริงๆ แคลิฟอร์เนียอากาศดีอยู่แล้ว แต่ผมอยู่ที่ Pleasant Hill คือเหนือนซานฟรานขึ้นมาอีก มันแอบเป็นเขา ลมก็เลยแรง หน้าหนาวจะหนาวมาก แต่ไม่มีหิมะครับ ถ้าหน้าร้อนก็จะอุ่น บางวันนี่ร้อนเหมือนเมืองไทย แต่อากาศดี ไม่มีมลพิษ อ้อ พอเราอยู่ตรงนี้มันก็ต้องคอนเซิร์นเรื่องมหาวิทยาลัยด้วย เพราะ UC มันมีหลายแคมปัส ที่เล็งๆ ไว้อาจจะเป็น San Diego แต่ก็ต้องย้ายข้าวของจริงจังเลย สังคมก็อาจจะเปลี่ยนไปด้วยตามบริบทที่อยู่
แล้วที่อยู่ตอนนี้ชอบมั้ย?
ชอบครับ บรรยากาศค่อนข้างเงียบสงบไม่วุ่นวายมากเหมาะกับการเรียนจริงๆ แต่ถ้าต้องการความบันเทิงในชีวิตต้องไปแถว Concord ก็จะมีความเป็นเมืองสูงกว่า สถานที่ท่องเที่ยวเยอะกว่า
ชอบแบบนี้ยังจะอยากกลับเมืองไทยมั้ย?
กลับครับ (หัวเราะ) ยังไงก็อยากกลับไปทำงานที่เมืองไทยอยู่แล้ว!
เรายืนยันในความเป็นคนเขินอายของน้องก้องจากน้ำเสียง และคำตอบที่ครุ่นคิดอยู่บ่อยครั้ง แต่นั่นไม่ใช่อุปสรรคอันยิ่งใหญ่ของการเรียนต่อ โอกาสต่างหากที่เด็กต่างชาติได้รับเมื่ออยู่ถูกที่และถูกเวลา อย่างน้อยนี่ก็เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของตัวเลือกในโลกแห่งการศึกษา เมื่อ Community College ไม่เคยปิดกั้นความทะเยอทะยานของคนที่อยากไปต่อในต่างประเทศ ที่สำคัญคืออย่าปิดกั้นตัวเอง…
” อยากมาและมีโอกาส… ก็ตัดสินใจเลย! “
Photo Credits : ก้องภพ ลี้มิ่งสวัสดิ์, ประสบการณ์เรียนและทำงานที่ DVC
เรียนต่ออเมริกากับ DVC คลิกที่นี่