Canada
ประเทศนิวซีแลนด์ตั้งอยู่ในตะวันตกเฉียงใต้ของมหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งเป็นประเทศแห่งหมู่เกาะ และได้รับการขนามนามว่าเป็นสถานที่ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวแบบไม่มีใครเหมือน ชนเผ่าพื้นเมือง (Māori) เรียกดินแดนแห่งนี้ว่า Aotearoa ซึ่งแปลว่า long white cloud
นิวซีแลนด์เป็นหนึ่งในประเทศที่ร่วมก่อตั้ง the United Nations (UN) และเป็นสมาชิกขององค์กรระดับนานาชาติมากมายที่ส่งเสริมสันติสุข การปกป้องสิ่งแวดล้อม และความเท่าเทียมทางเศรษฐกิจ นักเรียนต่างชาติจะได้ใช้ชีวิตในสภาพแวดล้อมที่อบอุ่นและเปิดกว้างต่อการปฏิสัมพันธ์ข้ามความแตกต่างทางวัฒนธรรม
ทำไมต้องไปเรียนที่นิวซีแลนด์?
หากพูดถึงเรื่องตัวท็อปด้านการศึกษาแล้ว นิวซีแลนด์ถือเป็นประเทศที่ขึ้นชื่อด้านคุณภาพของการศึกษาติดอันดับโลก ที่เปิดโอกาสให้นักศึกษานานาชาติได้เข้าถึงการศึกษาคุณภาพสูง ซึ่งนิวซีแลนด์มีความน่าสนใจ เนื่องจาก
• ปลอดภัยและสงบสุข: นิวซีแลนด์ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่ปลอดภัยที่สุดในโลก โดยติดอันดับประเทศที่สงบสุขเป็นอันดับ 4 ของโลกจากดัชนีสันติภาพโลกปี 2024 (อ้างอิง vision of humanity) และยังมีสังคมที่เป็นมิตร ผู้คนท้องถิ่นให้การต้อนรับนักศึกษาต่างชาติอย่างอบอุ่นและเปิดกว้างต่อความหลากหลายทางวัฒนธรรม เอื้อต่กการปรับตัวได้ของนักเรียนต่างชาติ
• คุณภาพการศึกษาสูง: ระบบการศึกษาของนิวซีแลนด์ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ มหาวิทยาลัยทุกแห่งของประเทศติดอันดับท็อป 3% ของโลก ส่วนสถาบันสอนภาษาก็อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานมาตรฐานการศึกษา (The New Zealand Qualifications Authority or NZQA) ที่เข้มงวด หลายแห่งจัดอยู่ใน Category 1 ซึ่งการันตีคุณภาพการสอน และนักเรียนต่างชาติในหลักสูตรภาษาที่ยาวกว่า 14 สัปดาห์กับสถาบัน Category 1 ยังสามารถทำงานพิเศษได้ตามเงื่อนไขวีซ่าอีกด้วย
• ธรรมชาติสวยงามและประสบการณ์ชีวิตที่โดดเด่น: นิวซีแลนด์มีภูมิประเทศงดงามหลากหลาย ตั้งแต่ชายหาด ป่าเขา ไปจนถึงเทือกเขาและธารน้ำแข็ง นักเรียนจะได้สัมผัสธรรมชาติระดับโลก (นิวซีแลนด์เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ The Lord of the Rings) พร้อมเปิดประสบการณ์กิจกรรมกลางแจ้ง เช่น เดินเขา กระโดดบันจีจัมพ์ และกีฬากลางแจ้ง หรือเอ็กซ์ตรีมอื่น ๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ วัฒนธรรมท้องถิ่นยังผสมผสานความเป็นตะวันตกกับมรดกของชาวเมารีดั้งเดิม นักเรียนจะได้เรียนรู้วิถีชีวิต ขนบธรรมเนียม รวมถึงได้ลองอาหารและเข้าร่วมเทศกาลต่าง ๆ ของชุมชนท้องถิ่น
• โอกาสในการทำงานระหว่างเรียน: นักเรียนต่างชาติที่เรียนนิวซีแลนด์แบบเต็มเวลาในระดับที่กำหนดสามารถทำงานพิเศษได้สูงสุด 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ตามเงื่อนไขวีซ่า ซึ่งช่วยให้นักเรียนมีประสบการณ์ทำงานและรายได้เสริม ทำให้นักเรียนสามารถแบ่งเบาค่าครองชีพตนเองระหว่างเรียนได้
ดังนั้นถ้าคุณเป็นหนึ่งในคนที่มีความใฝ่ฝันที่จะพัฒนาตัวเอง เรียนในระบบการศึกษาที่มีคุณภาพ มีความปลอดภัย อีกทั้งยังเป็นประเทศที่ให้ความสำคัญกับกฎหมายคุ้มครองนักเรียนต่างชาติ และการทำงานหารายได้ระหว่างเรียนและทำงานได้กับทุกประเทศทั่วโลก (รวมถึงโอกาสที่จะทำงานได้อย่างถูกกฎหมายในช่วงที่เรียนภาษาอังกฤษ) การเลือกเรียนต่อที่นิวซีแลนด์ถือว่าตอบโจทย์เลยทีเดียว
ระบบการศึกษาที่นิวซีแลนด์
ระบบการศึกษาในนิวซีแลนด์แบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลัก และแบ่งออกเป็น 10 ระดับ โดยมีรายละเอียดดังนี้
1) Early Childhood Education: การศึกษาก่อนวัยเรียน
• ระดับ 1 วัยก่อนเรียน (Preschool) อายุ 2-5ปี: ระบบคล้ายกับเนอสเซอรี่ทั่วไป เป็นการเรียนรู้ในเด็กก่อนวัยเริ่มเรียน เพื่อช่วยพัฒนาให้เด็กมีความมั่นใจ และเตรียมพร้อมเพื่อการเข้าเรียนในอนาคต
2) Primary and Secondary School: การศึกษาระดับประถมและมัธยมศึกษา
• ระดับ 2 ประถมศึกษา (Primary School: Year 1-6) อายุ 5-10 ปี: นักเรียนในระดับประถมศึกษาจะเรียนวิชาต่างๆ ตามหลักสูตรการศึกษาประจำชาติ (New Zealand National Curriculum)
• ระดับ 3 มัธยมศึกษาตอนต้น (Intermediate School: Year 7-8) อายุ 10-13 ปี: การศึกษาระดับนี้จะเป็นการสร้างพื้นฐานการเรียนให้เข้มข้นขึ้น นักเรียนจะพัฒนาความสามารถในการคิด การสร้างความมั่นใจในตัวเอง และการค้นหาความสนใจของตัวเอง
• ระดับ 4 มัธยมศึกษาตอนปลาย (Secondary School: Year 9-13): อายุ 13-18 ปี นักเรียนในโรงเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายจะได้รับคุณวุฒิ National Certificate of Educational Achievement (NCEA) เมื่อจบการศึกษา ซึ่งได้รับกรรับรองจากสถาบันชั้นสูงทั้งหมดของนิวซีแลนด์ และมหาวิทยาลัยทุกแห่งในโลก
3) Tertiary Education: การศึกษาระดับสูง ซึ่งรวมทั้งสายวิชาการและสายวิชาชีพ
• ระดับ 5-6 การศึกษาขั้นสูงและหลักสูตรวิชาชีพ หรือประกาศนียบัตร (Certificate / Diploma) ซึ่งมีให้เลือกหลากหลายสาขา
• ระดับ 7-10 วุฒิการศึกษาระดับปริญญา บัณฑิตศึกษาและสูงกว่าปริญญาตรี ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
- ระดับ 7: หลักสูตรปริญญาตรี (Bachelor’s Degree) หรือ Graduate Diploma / Certificate
- ระดับ 8: หลักสูตรปริญญาตรี (Bachelor Honours Degree) หรือ Post Graduate Diploma / Certificate
- ระดับ 9: หลักสูตรปริญญาโท (Master’s Degree)
- ระดับ 10: หลักสูตรปริญญาเอก (Doctoral Degree)
ประเภทของสถาบันการศึกษาที่นิวซีแลนด์
1) มหาวิทยาลัย (Universities)
ประเทศนิวซีแลนด์มีมหาวิทยาลัยทั้งหมด 8 แห่ง เปิดสอนหลักสูตรระดับปริญญาตรี ปริญญาโท และปริญญาเอก มหาวิทยาลัยทั้ง 8 แห่งนี้ได้ถูกจัดอันดับให้อยู่ใน Top 3% ของหมาวิทยาลัยจากทั่วโลก สำหรับการวิจัย การจ้างงานหลังจบการศึกษาและความเป็นนานาชาติ ซึ่งสาขาการเรียนที่ได้รับความนิยมจากนักเรียนต่างชาติมีหลากหลาย อาทิ Accounting and Finance, Anatomy & Physiology, Anthropology, Civil & Structural Engineering, Dentistry, Education, English Language & Literature, Library & Information Management, Nursing, Psychology, Sport-related subjects เป็นต้น
มหาวิทยาลัยทั้ง 8 แห่งนี้ ประกอบด้วย
• Auckland University of Technology (Auckland)
• The University of Auckland (Auckland)
• University of Canterbury (Christchurch)
• Lincoln University (Lincoln)
• Massey University (Palmerston North, Auckland, Wellington)
• University of Otago (Dunedin)
• University of Waikato (Hamilton, Tauranga)
• Victoria University of Wellington (Kelburn, Wellington)
2) Te Pūkenga/New Zealand Institute of Skills and Technology (NZIST)
กลุ่มที่สองนี้เป็นสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษาที่ได้รับเงินสนับสนุนโดยรัฐบาลของนิวซีแลนด์ ซึ่งจะแตกต่างจาก university ด้วยพันธกิจหลักที่จะให้ความสำคัญต่อการจัดการเรียนการสอนที่เน้นการฝึกปฏิบัติ การเรียนรู้ผ่านประสบการณ์และการทำงานจริง เพื่อให้ได้มาซึ่งทักษะและความรู้ที่สามารถนำไปใช้งานได้ทันทีหลังสำเร็จการศึกษา โดยมีจะมีองค์ประกอบที่สำคัญดังนี้
• ได้รับทุนสนับสนุนจากรัฐบาลของนิวซีแลนด์
• มีการทำงานร่วมกับภาคอุตสาหกรรม เพื่อให้ผู้เรียนได้มีประสบการณ์ทำงานในสายงานที่ศึกษา พร้อมทำงานหลังเรียนจบ
• ให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนแปลงทักษะตามความต้องการของภาคอุตสาหกรรมและผู้ว่าจ้าง
• มีองค์ประกอบของการศึกษาวิจัย เพื่อพัฒนานวัตกรรมในภาคอุตสาหกรรม
• เปิดสอนหลักสูตรการเรียนที่หลากหลาย ทั้งหลักสูตรสำหรับการประกอบอาชีพ หลักสูตรพัฒนาทักษะเฉพาะทาง
• โดยทั่วไปแล้วจะมีอัตราค่าเล่าเรียน (tuition fees) ที่ประหยัดกว่ามหาวิทยาลัย
3) Private Training Establishments (PTEs)
PTEs ทำหน้าที่เหมือนกับ NZIST แต่จะเป็นสถาบันของเอกชน ซึ่งปัจจุบันมีอยู่มากกว่า 380 สถาบันที่ได้รับการอนุมัติและรับรองคุณภาพโดยรัฐบาลของนิวซีแลนด์ เปิดสอนหลักสูตรที่หลากหลาย รวมถึงหลักสูตรเพื่อการพัฒนาทักษะด้านภาษาอังกฤษ หรือหลักสูตร pathways เพื่อเข้าศึกษาต่อในหลักสูตรการศึกษาระดับที่สูงขึ้นในมหาวิทยาลัย หรือ Institutes of Technology and Polytechnics (ITPs) ซึ่ง PTEs มีองค์ประกอบสำคัญดังนี้
• ได้รับการรับรองคุณภาพโดยรัฐบาลของนิวซีแลนด์ โดยเฉพาะสถาบันที่มีความน่าเชื่อถือ จะต้องได้รับการรับรองโดย NZQA
• ให้ความสำคัญกับการพัฒนาทักษะเฉพาะทาง ที่นำไปใช้งานได้จริง โดยหลักสูตรการเรียนจะประกอบด้วยการทำงานร่วมกับภาคอุตสาหกรรม และการเรียนรู้ผ่านการทำโปรเจค
• ชั้นเรียนที่มีอัตราส่วนของนักเรียนต่อผู้สอนในอัตราที่ต่ำ เพื่อทำให้ผู้เรียนได้มีปฏิสัมพันธ์และเข้าถึงผู้สอนได้เป็นอย่างดี
• บางสถาบันมีหลักสูตรเฉพาะทาง ทั้งในระดับพื้นฐานและระดับประกาศนียบัตรสำหรับบัณฑิต อาทิด้าน การบิน แอนิเมชั่น การก่อสร้าง รวมถึงการศึกษาสำหรับเด็กเล็ก
หลักสูตรการเรียนภาษาอังกฤษที่นิวซีแลนด์
สำหรับการเรียนภาษาอังกฤษที่นิวซีแลนด์ โดยทั่วไปแล้วจะเปิดสอนโดยสถาบันที่เป็น PTEs ซึ่งจะมีตัวเลือกที่หลากหลายให้ผู้เรียนเลือกได้ตามความเหมาะสมของผู้เรียน รวมถึง
• ระยะเวลาเรียน: ระยะสั้น (เช่น 4–12 สัปดาห์) หรือ ระยะยาว (เช่น 6 เดือน หรือมากกว่า)
• วัตถุประสงค์ของการเรียน: เพื่อพัฒนาทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษสำหรับการใช้งานทั่วไป (General English), เพื่อการเตรียมตัวศึกษาต่อ (Academic English), เพื่อการเตรียมตัวสอบวัดระดับภาษา เช่น Cambridge, IELTS หรือ TOEIC (Exam Preparation), หรือเพื่อการทำงาน (English for Business)
• ชั่วโมงเรียนต่อสัปดาห์: แบบเต็มเวลาทั่วไป (โดยทั่วไปจะเริ่มต้นที่ 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์) หรือ แบบเข้มข้น (โดยทั่วไปจะเริ่มต้นที่ 25 ชั่วโมงต่อสัปดาห์)
• บริการที่พัก: ไม่ว่าจะต้องการที่พักแบบ host family, ที่พัก residence ของสถาบัน หรือหาที่พักเองก็เป็นไปได้ *ทั้งนี้จะขึ้นอยู่กับแต่ละสถาบันด้วย
ที่สำคัญสถาบันสอนภาษาที่น่าเชื่อถือ ควรจะมีผลการประเมินคุณภาพดีเยี่ยมจะจัดอยู่ใน Category 1
สนใจเรียนภาษาอังกฤษที่นิวซีแลนด์
พร้อมสิทธิทำงานได้อย่างถูกกฎหมาย สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ที่นี่เลย
ค่าใช้จ่ายเรียนต่อที่นิวซีแลนด์
สำหรับค่าเงินของประเทศนิวซีแลนด์ คือ NZ dollar ปัจจุบันนี้ 1 NZ$ จะอยู่ที่ประมาณ 20 บาท
ค่าเล่าเรียนโดยประมาณ
• ระดับป.ตรี (Bachelor’s Degree) NZ$22,000 – NZ$40,000 ต่อปี
• ระดับปริญญาโท (Master’s Degree) NZ$20,000 – NZ$45,000 ต่อปี
• ระดับปริญญาเอก (Doctoral Degree) NZ$6,500 to NZ$9,000 ต่อปี
• เรียนภาษาอังกฤษ NZ$300 – $500 ต่อสัปดาห์
ในส่วนค่าครองชีพ (Living costs)
สำหรับค่าครองชีพในนิวซีแลนด์ แนะนำว่าควรมีอย่างน้อย NZ$ 20,000 ต่อปี (อ้างอิง studywithnewzealand.govt.nz) ซึ่งจะแตกต่างกันไปตามเมืองที่อาศัย โดยทั่วไปเมืองใหญ่อย่าง Auckland (โอ๊คแลนด์) จะมีค่าครองชีพสูงกว่าเมืองเล็กหรือเมืองชนบท
รายการด้านล่างนี้คือค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อสัปดาห์:
• ค่าที่พัก: ประมาณ NZ$ 200–400 ต่อสัปดาห์ (ขึ้นอยู่กับประเภทที่พัก เช่น ห้องเช่าแชร์กับผู้อื่นหรือหอพักที่มีอาหารให้) โดยการพักกับโฮสต์แฟมิลี่ (Homestay) รวมอาหารสองมื้อจะตกอยู่ราว NZ$ 250–350 ต่อสัปดาห์
• ค่าอาหาร: ราว NZ$ 80–120 ต่อสัปดาห์ สำหรับการซื้อของทำอาหารกินเองตามบ้าน ถ้าทานอาหารนอกบ้านหรือร้านอาหารอาจสูงกว่านี้
• ค่าเดินทาง: โดยเฉลี่ยประมาณ NZ$ 37 ต่อสัปดาห์ สำหรับค่ารถสาธารณะในชีวิตประจำวัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับระยะทางระหว่างที่พักกับสถานที่เรียน
• ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ: ค่าสาธารณูปโภค (น้ำไฟอินเทอร์เน็ต) ประมาณ NZ$ 100–140 ต่อเดือนต่อคนเมื่อแชร์บ้านกับผู้อื่น ส่วนค่าโทรศัพท์มือถือแบบเติมเงินเริ่มต้นราว NZ$ 19 ต่อเดือน
ดังนั้น โดยรวมๆแล้ว ค่าครองชีพต่อสัปดาห์ จะอยู่ที่ประมาณ NZ$ 400 – 700 ต่อสัปดาห์
การทำงานพิเศษระหว่างเรียนที่นิวซีแลนด์
หากโปรแกรมการเรียนและวีซ่าของนักเรียนเข้าเกฑ์ที่จะทำงานระหว่างเรียนได้อย่างถูกกฎหมาย นักเรียนอาจะเลือกที่จะลดภาระค่าครองชีพด้วยการทำงานพิเศษควบคู่ไปด้วยได้ โดยการทำงานพาร์ทไทม์ 20 ชม./สัปดาห์ ที่ค่าแรงขั้นต่ำ NZ$23.50/ชม. ข้อมูลอัพเดทปี 2025 (อ้างอิง: employment.govt.nz) จะมีรายได้ราว NZ$470 ต่อสัปดาห์ ซึ่งสามารถช่วยแบ่งเบาค่าใช้จ่ายได้พอสมควร
ซึ่งสำหรับคุณสมบัติที่พึงมีเพื่อที่จะสามารถทำงานระหว่างเรียนได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย สามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ immigration.govt.nz ทั้งนี้สามารถสรุปได้ว่า
• นักเรียนต่างชาติระดับวิทยาลัยหรือมหาวิทยาลัยส่วนใหญ่และนักเรียนภาษาที่เข้าเกณฑ์ สามารถทำงานพิเศษได้ไม่เกิน 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ในภาคเรียน และเต็มเวลาในช่วงปิดเทอมยาว (เช่น ช่วงคริสต์มาสปีใหม่)
• สำหรับเกณฑ์ของนักเรียนภาษา คือ จะต้องลงเรียนแบบเต็มเวลา (ขั้นต่ำ 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์) โดยมีระยะเวลาเรียน 14 สัปดาห์ขึ้นไปติดต่อกัน ในสถาบันที่เป็น Category 1 ถึงจะได้สิทธิทำงานพิเศษตามกฎของวีซ่า ขณะที่สถาบัน Category 2 หรือต่ำกว่าจะต้องลงเรียนหลักสูตร 24 สัปดาห์ขึ้นไป
• ก่อนเริ่มงานควรตรวจสอบเงื่อนไขบนวีซ่านักเรียนของตนเองให้ชัดเจน
การทำงานพิเศษไม่เพียงช่วยเรื่องการเงิน แต่ยังเป็นโอกาสฝึกภาษาอังกฤษในสถานที่ทำงานและสร้างประสบการณ์ทำงานต่างประเทศอีกด้วย