[รีวิว] เรียน Advanced Diploma in Computer Programming & Analysis กับสถาบัน Seneca ที่แคนาดา โดยคุณกระเต็น

รีวิว เรียน Advanced Diploma in Computer Programming & Analysis
กับสถาบัน Seneca ที่แคนาดา โดยคุณกระเต็น

อะไรทำให้ตัดสินใจไปเรียนต่อที่ประเทศแคนาดา?

หมอดูค่ะ คือกระเต็นเป็นคนที่ใช้ชีวิตตามที่หมอดูบอกเลย เราไปคุยกับหมอดูและเขาบอกว่าให้ไปต่างประเทศอยู่เมืองไทยไม่ดี คือมันก็โอเคสบายแต่ไม่สุด แต่ถ้าไปอยู่ต่างประเทศจะสบายมาก ๆ และหมอบอกให้ไปประเทศที่ไกลจากประเทศไทยเท่าไหร่ยิ่งดี เอาออสเตรเลียไปให้หมอดู หมอบอกว่าใกล้ไป ให้ไปข้ามทวีปเลยอย่างอเมริกา ยุโรป เราเลยลองไปเรียนภาษาเยอรมันและพูดคุยกับคนเยอรมัน รู้สึกสภาพแวดล้อมและ Vibe ต่าง ๆ ไม่เหมาะกับเราเลย และก็ไม่ได้ชอบอเมริกาขนาดนั้น แต่ตอนนั้นแคนาดาบูมมาก และก็มีเพื่อนเป็นคนแคนาดา เขา nice มาก เราเลยไปถามหมอดูว่าแคนาดาได้ไหม หมอดูบอกว่าโอเค เลยมาแคนาดาค่ะ

แล้วผลของการเชื่อหมอดูเป็นยังไงบ้างคะ ดีเหมือนที่หมอบอกเลยไหม?

ไม่เลยค่ะ เป็นครั้งแรกที่อยากจะเลิกเชื่อหมอดูไปเลย 555555 พอมาเดือนแรก ทุกอย่างยังใหม่ แบบดีใจ ตื่นเต้น แต่เดือนที่สอง เริ่มเข้าหน้าหนาวพอดี ไม่มีแดด รู้สึกหดหู่มาก และก็มาเจออินเดียเป็นส่วนใหญ่ ครึ่งห้องที่เรียนเป็นอินเดีย และเขามีวัฒนธรรมการพูดคุยที่เราไม่เข้าใจและเข้าไม่ถึง เลยมีเพื่อนน้อยไปอีก ไหนหมอบอกว่ามาแล้วจะสบาย ไม่สบายเลย หนาวก็หนาว แพ้น้ำ สิวเห่อ ผมเสีย ผิวเสีย ปกติอยู่ที่ไทยเราเข้าคลินิกทุกสัปดาห์ แย่มาก ณ จุดนั้น พูดแล้วก็ภูมิใจในตัวเองที่ผ่านจุดนั้นมาได้

ทำไมถึงเลือกเรียน Advanced Diploma in Computer Programming & Analysis ที่ Seneca?

เพราะว่าพี่ชายทำบริษัทที่ไทยอยู่แล้ว ณ ช่วงนั้นเป็นช่วงที่เราเบื่องานที่ไทย เลยถามเขาว่าเรียนไรดี พี่เลยแนะนำ coding เพราะเป็นอะไรที่ต้องพัฒนาตัวเองและเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา เราก็เชื่อแล้วก็เลือกคอร์สทางด้านนี้เลย

การเรียนการสอนในหลักสูตรนี้ได้เรียนเกี่ยวกับอะไรบ้างคะ?

เทอมแรกเน้นปูพื้นฐานตรรกะ สอน Sudo Code ให้เหตุการณ์สมมติมาและเทียบในชีวิตประจำวัน เช่น เราไปซุปเปอร์มาร์เก็ต เขาจะแบ่งออกเป็น ต้องชั่งน้ำหนักกับไม่ชั่งน้ำหนัก ถ้าเป็นสิ่งที่ต้องชั่งน้ำหนัก ก็จะแบ่งเป็นพวกผักผลไม้อะไรงี้ ส่วนที่ไม่ต้องชั่งก็พวกกล่องซีเรียล แล้วเราก็มาทำโฟลตอนเช็คเอาท์ว่า ถ้าลูกค้าสแกนตัวนี้ เครื่องจะคิดเงินยังไง จะไปทางไหน ถ้าเป็นพวกผักที่ชั่งน้ำหนัก ต้องคิดราคาเท่าไหร่ กี่กรัมคูณเท่าไหร่ เขียนเป็นเหตุการณ์สมมติขึ้นมา และลูกค้าจ่ายเงินด้วยวิธีไหน เราก็เขียนแผนภาพเหตุการณ์ทั้งหมดขึ้นมา อันนี้คือ 1 วิชา และอีกวิชานึงก็ให้เราเอาแผนภาพเหตุการณ์พวกนี้ไปเขียนเป็น Code ค่ะ เราต้องมีตรรกะและจินตนาการพอสมควร เขาก็ดีนะคะ ไม่ได้เอาอะไรที่เวอร์เกินไป เป็นอะไรที่เราเห็นได้ในชีวิตประจำวันเพื่อที่เราจะได้จินตนาการได้ว่า เราต้องทำอะไรยังไงต่อไป เราเรียน 6 เทอม บวก co-op 2 เทอม รวมทั้งหมด 8 เทอม ตอนนี้ เรียนจบไปสามเทอมกับทำ Co-op 2 เทอมจบแล้ว

หลังจากเรียนคอร์สนี้แล้วเป็นยังไงบ้าง ช่วยรีวิวหลักสูตรนี้ให้ฟังหน่อยค่ะ?

รู้สึกสนุก กระเต็นชอบเทอม 1-2 มากที่สุด เพราะว่าเทอมหนึ่งยังใหม่อยู่ และเขาปูพื้นฐานให้เราค่อนข้างดี เรากำลังสนุกกับการหัดคิดอะไรใหม่ ๆ ตรรกะของคุณเป็นยังไง กับ Coding มีแค่ภาษา C อย่างเดียวเลย เทอมสองเริ่มลงลึก จะเกี่ยวกับ Coding อย่างเดียว ภาษา C++ และภาษา HTML, CSS, Java script เข้ามา เทอมสามยังสนุกอยู่ เรียนแค่ C++ เพราะเรียนลึกมาก ๆ เราได้สร้างแอปพลิเคชันที่ advanced มากขึ้น แต่ภาษาอื่นเราว่าไม่ค่อยสนุกเท่าไหร่ อย่าง Java script สำหรับเรารู้สึกว่ามันเป็นภาษาที่ open source เลยมีการพัฒนาที่ไวมาก จะแตกต่างจาก C++ ที่จะมีความตรง ๆ 1+1=2 แต่ Java script 1+1 อาจจะเป็น 11 ก็ได้ มันพลิกแพลง ตรรกะเราก็จะเพี้ยนไปเลย เราเลยไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ แต่โดยรวมชอบวิชาอยู่ค่ะ แต่เพื่อนรีวิวว่า เทอม 4-6 ไม่ค่อยโอเค เพราะจะเป็นวิชาเลือก คนเรียนน้อย อาจารย์ไม่ค่อยตั้งใจสอนเท่าไหร่ ส่วนกระเต็นเรียนแค่สามเทอมอยู่เลยไม่รู้ว่าชะตากรรมจะเป็นยังไง 5555

ส่วนเพื่อนในห้องก็ดีค่ะ เพื่อนทุกคนขยัน แต่ถ้าทำงานกลุ่มต้องระวังชาวอินเดียไว้สักหน่อย ในความคิดเราคิดว่าเขาต้องปากกัดตีนถีบมาก่อน ต้องทำงานเยอะมาก ๆ เพราะฉะนั้นถ้ามีงานกลุ่มเขาก็ไม่ได้ทุ่มเทให้กับงานกลุ่มขนาดนั้น เราคิดว่ามันเป็นการเอาเปรียบ เพราะทุกคนก็ต้องลำบากและทำงานเหมือนกัน แต่เขาเอาเวลางานกลุ่มไปทำงานของตัวเอง สัญชาติเพื่อนที่เจอในคลาสรองจากอินเดียจะเป็นเกาหลี กับอเมริกาใต้ ส่วนอาจารย์เราต้องเลือกค่ะ ก่อนที่เราจะลงคลาสใครต้องไปดูรีวิวที่เว็บไซต์ Rate my professors ก่อนค่ะ อาจารย์บางคนสอนดีแต่ให้เกรดยาก หรือบางคนสอนไม่ดีแต่ให้เกรดง่ายก็มี แล้วแต่ว่าเราต้องการอะไร

คุณกระเต็นทำ Co-op มาสองเทอมแล้ว เป็นยังไงบ้างคะ?

กระเต็นทำกับบริษัทที่เขาจะทำเว็บไซต์และ infrastructure ให้ลูกค้า เช่น ลูกค้าไม่มีอะไรเลย แต่อยากได้เว็บไซต์แบบนี้ มีพื้นที่เก็บข้อมูลเท่านี้ ทางบริษัทก็จะมีจัดทำด้านนี้ให้ค่ะ ตอนที่เข้าไปแรก ๆ เราเรียนภาษาใหม่เลย เพราะที่นี่ใช้ภาษาที่ Seneca ไม่ได้สอน เขาจะมีคอร์สให้เราไปดูวิดีโอ หัดทำ หัดเขียนเว็บไซต์แล้วส่งให้เขาดูช่วง 2 เดือนแรก แล้วพอเดือนที่ 3 กับ 4 เป็นช่วงที่เรา test พี่ senior จะทำเว็บไซต์มาให้แล้ว ก่อนที่จะส่งให้ลูกค้า เขาจะให้เราเข้าไป test ระบบก่อนว่าใช้ได้จริงมั้ย มีอะไรผิดพลาดรึเปล่า และเดือนที่ 5-8 เราก็ได้เข้าร่วมโปรเจค 2 โปรเจค โดยพี่ ๆ จะส่ง task ง่าย ๆ มาให้เราทำค่ะ

Seneca มีบริการอะไร support นักเรียนบ้าง?

Seneca มีเว็บไซต์ที่จะมีบริษัทมาลงงานให้ อย่างงานของกระเต็นที่ได้ เขาก็มาลงเว็บไซต์ของ Seneca เพราะเจ้าของบริษัทเขาเป็นบอร์ดบริหารใน Seneca เขาก็จะรับเด็กจากมหาลัยทุกเทอม เทอมละสองคน  แล้วก็ที่โรงเรียนจะมี workshop ช่วยปรับเรซูเม่ ถ่ายรูปโปรไฟล์ลง Linked-in ให้ และมีคอร์ส WIP ที่เราต้องลงตอนเราทำ Co-op เขาจะให้เราลงคอร์ส ซึ่งเราต้องเสียเงิน แต่เสียหลังจากเราได้งาน เขาจะมีลิสท์มาให้ว่าเราต้องเขียนเรซูเม่ยังไง เขียน cover letter ยังไง และก็มี MAC/ Window/ Printer ให้ใช้ ทุกเดือนจะมี foodbank ให้เราไปรับได้ฟรี แต่ต้องลงทะเบียนก่อน มีสนาม มียิม มีคอร์ทแบด สนามฟุตบอล ให้ใช้ฟรีหมด มีซุปฟรีแจกตอนกลางวัน ตอนเช้ามีซีเรียลฟรี ส่วนใหญ่จะมี Food truck มาออก จะแจกเบอร์เกอร์ ฮอทดอกบ่อย ส่วนที่ชอบเลยคือ เขาจะให้สิทธิ์ลดราคาค่าสอบพวกใบ License/Certificate ต่าง ๆ อย่าง Smart serve/ Food safe/ First aid   ซึ่งเราต้องลงคอร์สและสอบให้ผ่าน ถึงจะเอาใบนี้มาทำงานที่ร้านอาหารได้ แล้วก็มีส่วนลดให้ในการเดินทางไปเที่ยว เช่น ไนแองกาล่า ค่ะ

ได้ทำงานไปด้วยไหม ถ้าทำช่วยแนะนำวิธีหางาน part-time / full-time หน่อยค่า?

ของกระเต็นได้งาน Co-op จากที่เขาประกาศใน Facebook เราทำ co-op จนจบ แล้วเตรียมกลับบ้านสี่เดือน แต่ตอนนั้นที่บ้านมีเหตุด่วน เราเลยไม่สามารถกลับบ้านได้ เลยขอเขาอยู่ทำงานต่ออีกสองสามเดือน แล้วพอดีว่าตอนนั้นบริษัทก็ต้องการคนช่วยโปรเจคด้วย เขาเลยให้ทำต่อยาวเลยค่ะ พวกงานออฟฟิศเราสามารถหาจาก Linked-in ได้ค่ะ แต่ส่วนใหญ่ที่ได้งานกัน จะใช้ connection ค่ะ มาจากการ reference จากอาจารย์ จากคนรู้จักในที่ทำงาน ส่วนของกระเต็นหางานเองข้างนอกสามเดือนแล้วเฟลเยอะมาก สุดท้ายไม่มีทางเลือกเลยมาดูใน Seneca เป็นรอบสุดท้ายในการหางานแล้ว ช่วง 1 สัปดาห์ก่อนคริสต์มาสคือแทบไม่มีคนสมัครแล้ว คนสมัครรอบเดียวกับเรา 5 คน ถ้าเราลงรอบแรก ๆ เรซูเม่ไม่ต่ำกว่า 20-30 ใบแน่นอน เลยเป็นจังหวะเราด้วยที่ได้งานนี้ค่ะ

มีวิธีการหาที่พักที่แคนาดาอย่างไร?

เราหาเลือกผ่าน Airbnb ก่อนและค่อยสำรวจหาที่พักใหม่ ราคาสูงหน่อย แต่ใกล้โรงเรียน ร้านสะดวกซื้อ ป้ายรถเมล์ เราอยู่นานอยู่ค่ะเกือบ 1 ปี แต่ต้องอยู่ร่วมกับคนอื่น ซึ่งเราไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ เลยหาที่พักใหม่ผ่าน Kijiji กว่าจะได้ เดินหาอยู่หลายหลังเหมือนกัน นั่งรถไปมหาลัยเกือบชั่วโมง ไปที่ทำงานเกือบสองชั่วโมง ดีที่ไม่ต้องเข้าออฟฟิศทุกวัน แต่มันไม่ได้เหมือนกทม. ที่รถติด อันนี้มันเดินทางตลอด เราสามารถหาอะไรทำระหว่างเดินทางได้ ถือว่าไม่ลำบากค่ะ

เมืองโทรอนโตเป็นยังไง หลังจากอยู่แล้วเมืองนี้มีข้อดีและข้อเสียอะไรบ้างคะ?

จริง ๆ ไม่ค่อยชอบไปดาวน์ทาวน์โทรอนโตเท่าไหร่ มีแค่ไปทำงาน มันมีทั้งโซนที่ดีและโซนที่ไม่ดีค่ะ โซนดีคือบ้านจะหรูไปเลย ไม่มีเสาไฟฟ้า มีเกาะกลางถนน มีต้นไม้น่ารัก โซนที่ไม่ดีก็จะสกปรก เต็มไปด้วยก้นบุหรี่และเข็มฉีดยา เท่าที่ฟังจากพี่ที่ทำงานมานะคะ แคนาดาจริง ๆ คือเมืองออตตาวา ที่เป็นเมืองหลวง โทรอนโตคือเมืองที่เขาไม่ได้ตั้งใจจะให้มันเป็น มันเติบโตสะเปะสะปะคล้ายกทม. มันไม่ได้ปลอดภัยขนาดนั้นเพราะมี shelter ในโทรอนโตเยอะมาก เป็นที่ที่เขารับคนไร้บ้านเข้ามาอยู่ มันไม่แปลกที่เราจะเห็นคนเหล่านี้บนท้องถนน กระเต็นไม่ชอบโทรอนโตเลยถึงได้หนีมาอยู่โซนด้านเหนือสุด แล้วคนไร้บ้านจะไปหลบอยู่ที่ subway เราก็ไม่รู้ว่าเขาสติดีไหม เดินมาขอเงินบ้าง มาตะโกนใส่หน้าเราบ้าง บางคนอึฉี่ตรงสถานี ตรง shelter จะแจกเข็มฉีดยาเปล่าให้ แต่ไม่ให้ยา เราคิดว่าเป็นแนวให้ยาหลอก ซึ่งตอนนี้คนเขาเริ่มคุยกันว่า จะให้ shelter ไปอยู่นอกเมืองเพราะเมืองนี้เริ่มมีคนมีเงินเข้ามาอยู่และพวกเขาไม่โอเคที่ลูกหลานเขาต้องเติบโตใกล้ shelter อีกสักสองสามปีน่าจะดีขึ้น แต่ตอนนี้ยังจัดการได้ไม่ดี อย่างคนขับรถบัสก็ไม่ได้เป็นมิตรเท่าไหร่ คือเขาอาจจะเจอกับอะไรแบบนี้ทุกวันด้วย อย่างกระเต็นขึ้นรถแล้วบัตรสแกนไม่ได้ เขาก็จะบ่นและว่าเรา เรารีบวิ่งมาขึ้นรถบัสเขาก็ปิดประตูใส่หน้า กระเต็นเคยเห็นเขาเปิดประตูรับผู้โดยสารแล้วก็ปิด เขาติดไฟแดงไปไหนไม่ได้แล้วมีคุณป้าวิ่งมาเคาะให้ช่วยเปิดหน่อย เขาก็มองเฉย ๆ อารมณ์แบบเสียใจด้วยฉันติดไฟแดงแต่ฉันไม่เปิดให้คุณ หมดเวลาที่ฉันจะจอดรับป้ายนี้แล้ว รถไฟใต้ดินก็เสียบ่อย มีคนลงไปเดินตรงรางบ้าง แรคคูนลงไปบ้าง เขาก็จะปิดไม่ให้ใช้บริการ

แต่โซนที่กระเต็นอยู่สะอาด ปลอดภัย เวลาขึ้นบัสเราลืมเอาบัตร Presto มา คนขับก็ไม่ว่าอะไร เพราะเขารู้ว่าเราขึ้นมาไม่กี่ป้ายก็ลงแล้ว เราขึ้นประจำ เขายิ้มทักทายเราตลอด แต่จะแพงกว่า TCC อยู่ค่ะ ข้อดีอีกอย่างที่นี่ตอนเราเกษียณ ระบบขนส่งสาธารณะเขารองรับดี มีรถเข็นให้ฟรี แต่เบี้ยคนสูงอายุมีให้แค่ 1000$/เดือน ถ้าเทียบกับราคาที่พักยังไม่ถึงครึ่งหนึ่งเลยค่ะ ระบบสาธารณสุข หาหมอยากมาก รอนานมาก กิจกรรมที่นี่เขามีอีเวนท์เยอะนะคะ เราไม่ค่อยได้เที่ยวเท่าไหร่ ส่วนใหญ่จะรู้แค่งานที่คนไทยจัด อย่างสงกรานต์ ฮาโลวีน งานปีใหม่ก็มี มีทุกเทศกาลสำคัญ แต่ถ้าของเมืองโทรอนโตเอง จะมีซุ้มงานช็อกโกแลต วาดรูป ลานสเก็ตน้ำแข็ง

มีข้อคิด คำแนะนำอะไรเพิ่มเติมสำหรับคนที่กำลังตัดสินใจอยากมาเรียนต่อ หรือมาอยู่แคนาดาบ้างไหมคะ?

กระเต็นอยากให้ถามตัวเองดีดีว่ามาเพื่ออะไร เพราะมาอยู่ที่นี่ช่วงแรก ต้องใช้พลังเยอะมากในการสู้กับตัวเองและในการปรับตัว ตอนเรามาแรก ๆ ทุกคนจะเตือนตลอดว่ามันหนาวนะ เราอยู่ได้หรอ ตอนนั้นเราไม่ได้คิดอะไรเรื่องหนาว แต่พอเรามาจริง ๆ มันมีอะไรมากกว่าคำว่าหนาว คือมันไม่มีแสงแดด ตลอด 3-4 เดือนเลย เราอยู่ได้ไหม เราต้องทำทุกอย่างด้วยตัวเองทั้งหมด ถ้าเจอคนสติไม่ดีทำร้ายเรา เรามีวิธีป้องกันตัวเองยังไง ทุกคนต้องพึ่งตัวเองทั้งนั้น แม้ว่าเราจะมีกลุ่มคนไทยที่นี่ แต่สุดท้ายเราต้องช่วยเหลือตัวเอง ถ้ามาคนเดียวมันสู้กับความคิดตัวเอง ต้องคิดดีดี เพราะเราลงทุนมาเป็นแสนเป็นล้านเพื่อที่จะมาอยู่ที่นี่ แล้วเราทนไม่ไหวเรากลับ มันคุ้มไหม ถ้ามาเป็นคู่มันยังช่วยกันคิดได้ อีกอย่างอันนี้ประสบการณ์ส่วนตัว มาที่นี่คนส่วนใหญ่จะเริ่มจากร้านอาหารคือเสิร์ฟ ด้วยความที่เราไม่เคยได้เงินเยอะอะไรขนาดนั้นมาก่อน ทุกคนทำงานกันหมด เราก็ทำงานจัดเต็ม 7 วันเลยค่ะ ไม่มีวันหยุด ด้วยความตอนนั้นยังไม่ได้จำกัดชั่วโมง เราก็ทุ่มเททำงาน อยากจะบอกว่ามัน burn out ไวมาก เป็นอะไรที่เหนื่อยทั้งร่างกายและจิตใจ อยากให้ระวังตรงจุดนี้ไว้ เพราะเงินมันไม่ใช่ทุกอย่างค่ะ

กระเต็นรู้สึกว่าแต่ละที่มีข้อดีข้อเสียค่ะ กระเต็นว่าพื้นฐานของคนที่จะมาแคนาดาได้ ที่บ้านต้องมีฐานะพอสมควรค่ะ อย่างค่าเทอมของกระเต็น ก็ 4,000 CAD ค่าใช้จ่ายต่อเดือนก็ 2,500 CAD แล้วก็ถ้ามาอยู่ที่นี่มันไม่ได้สบายเหมือนอยู่ที่บ้านค่ะ มันต้องทำอะไรเองหลาย ๆ อย่าง เช่นทำกับข้าวเอง เช่าบ้านอยู่ร่วมกับใครก็ไม่รู้ ตรงจุดนี้ suffer มาก ช่วงแรกที่มา แบบฉันทิ้งความสุขสบายที่ไทยมาเจออะไรที่นี่ แต่ตอนนี้ปรับตัวได้แล้ว เพราะได้บ้านที่ดี มีห้องนอนห้องน้ำส่วนตัว ได้งานที่ดี สภาพแวดล้อมดี ไม่กดดันอะไรขนาดนั้น เข้างาน 9:00 น. เลิก 17:00 น. เสาร์อาทิตย์ไม่มีตามงานอะไรทั้งนั้น ถ้าไม่สบายขึ้นว่า sick-leave จะไม่มีใครมารบกวนอะไรคุณทั้งนั้น ซึ่งตรงนี้ที่ไทยให้เราไม่ได้ พอเราอยู่มาถึงจุดนี้เลยรู้สึกว่าเราโอเคเราชอบ แต่ตอนที่ยังไม่ได้มาถึงจุดนี้ suffer มากค่ะ โทรหาที่บ้านตลอด

รีวิวก้อปันกันให้ฟังได้ไหมคะ อะไรทำให้เลือกใช้บริการของก้อปันกัน?

เราชอบพี่กันต์มาก พี่เขาดูแลดีมาก รู้สึกว่าตัวเองโชคดีมากที่ตัวเองเจอก้อปันกัน มีอะไรก็ทักกลับไปหาพี่เขาตลอด พี่เขาตอบกลับไว พอมาอยู่ที่นี่ พี่เขาก็ยังแวะมาเยี่ยมมาถามไถ่ความเป็นอยู่ มาเลี้ยงข้าวด้วย ไม่ทิ้งเราเลย หรือเรามีปัญหาต้องต่อ permit เขาก็ยังช่วยเราทำอยู่เลยค่ะ หรือน้องที่รู้จักเขามีปัญหาการต่อ PGWP พี่กันต์ก็ช่วยตอบให้แม้ว่าจะไม่ใช่ปัญหาของเราที่เคยเป็นคนใช้บริการของเขา แต่เป็นปัญหาคนอื่นที่เขามาถามเราและเรามาถามพี่กันต์อีกที ดีมากค่ะ

อ่านเกี่ยวกับ Seneca Polytechnic – คลิก

Photo Credits : กระเต็น

JOIN OUR UPCOMING EVENTS

ติดต่อขอรับคำปรึกษา

 

เรียนต่อแคนาดา อเมริกา

Line : @korpungun

เรียนภาษาที่ฟิลิปปินส์

Line : @kpglearn

คอร์สออนไลน์ KPG LIVE

Line : @kpglive

TEL: 094-883-8778