[รีวิว] เรียนหลักสูตร Baking and Pastry Arts Management ที่แคนาดา กับสถาบัน Algonquin โดยคุณไอซ์

รีวิว เรียนหลักสูตร Baking and Pastry Arts Management ที่แคนาดา
กับสถาบัน Algonquin College โดยคุณไอซ์

อะไรทำให้ตัดสินใจมาเรียนต่อที่แคนาดา และเลือกเรียน Baking and Pastry Arts Management ที่ Algonquin?

ตอนแรกพอดีมีคนรู้จักอยู่ที่นี่ เขาก็บอกว่าลองมาเรียนดูสิ ตอนแรกมองไว้สองเมือง เลือกไม่ถูกว่าจะไปเมืองไหนดี เพราะว่าแพงไปหมดเลย 5555 แล้วเราตั้งใจว่าจะเรียนคอร์สนี้อยู่แล้ว และที่บ้านก็มองว่าให้ไปเรียนต่อเร็วที่สุดก็ยิ่งดี เพราะเราก็เรียนจบมหาวิทยาลัยมาหลายเดือนแล้ว ทำงานไปสักพักและก็มาเรียนต่อเลย จริง ๆ เป็นคนที่ชอบทำขนมทำอาหารอยู่แล้วด้วย คือตอนแรกดูคอร์สไว้ แต่ละมหาลัยจะมีคอร์สที่เรียนคล้ายกัน แต่เรียนไม่เหมือนกันซักทีเดียวบางที่ก็จบ 1 ปี บางที่ 2 ปี ตามที่เราดูไว้ถ้าเราอยากได้ work permit เราต้องลงคอร์ส 2 ปีขึ้นไปอยู่แล้ว และพอเทียบราคากับเมืองอื่น มันแพงกว่ามากค่ะ คอร์สเดียวกันแต่ว่าราคาไม่เท่ากัน เราก็ดูคอร์สที่ราคาพอดี ไม่ต้องแพงมาก ก็เลยมาจบที่ Algonquin ค่ะ ไอซ์เลือกคอร์สเรียนก่อนแล้วค่อยมาเทียบแต่ละเมือง ว่าเดินทางช่วงไหนได้บ้างเร็วที่สุด และที่นี่เขาเปิดให้เด็กเข้าเรียนได้ 3 รอบ มีช่วง Winter, Fall, Spring ค่ะ

การเรียนการสอนในหลักสูตรนี้ได้เรียนเกี่ยวกับอะไรบ้างคะ?

จะมีเรียนทั้งแล็บและทฤษฎี แล็บคือเข้าครัวทำขนม 5-8 ชม.ต่อแล็บ อาจารย์จะปล่อยให้พัก 10-15 นาที แล้วแต่คนสอนด้วยค่ะ ถ้าเราทำเสร็จช้าก็จะได้พักสั้นลง ถ้าเราทำเสร็จเร็วก็ได้พักนานขึ้นค่ะ ส่วนทฤษฎีจะเรียน 2-3 ชม. โอเคดีค่ะ ไม่อะไรมาก แค่ต้องเผื่อเงินมาซื้อหนังสือด้วย เขาบังคับให้ซื้อค่ะ เพราะมีควิซทุกอาทิตย์ ข้อสอบก็ต้องทำ งานแล็บก็มีเป็นสอบมิดเทอมกับไฟนอล ต้องตั้งใจนิดนึงค่ะ และก็ต้องทำใจก่อนเลยค่ะ คนที่เรียนคอร์สนี้ต้องตื่นเช้ามาก ไอซ์เข้าเรียน 7 โมงเช้า อยู่ใกล้หรือไกล ตีห้าหกโมงคุณต้องตื่นขึ้นรถบัสไปโรงเรียนแล้ว

เขาสอนตั้งแต่พื้นฐาน การชั่งตวง ทำไม เพราะอะไร เราเรียนควบคู่กันไปทั้งทฤษฎีและแล็บ มันจะไปสอดคล้องกัน ถ้าเราเรียนเกี่ยวกับช็อกโกแลต เราก็จะได้ทำช็อกโกแลต ส่วนตอนสอบ รุ่นไอซ์สอบในคอม เป็น multiple choice แต่หลังจากรุ่นไอซ์เป็นช่วงที่ Chat GPT ระบาด เขาเลยเปลี่ยนให้ทำในกระดาษแทนค่ะ ส่วนสอบปฏิบัติ ถ้าเป็นเทอมแรก ๆ ไม่กดดันค่ะ เพราะเราถือสูตรทำขนมเข้าไปได้ แต่พอเป็นเลเวล 3-4 เขาให้เอาสูตรเข้าได้นะ แต่เอาเข้าได้แค่ตัวเลขกับส่วนผสมเข้า จะไม่ให้เอาวิธีทำเข้า ซึ่งเราต้องคิดเป็นขั้นตอนในหัวเอาเองว่า อันนี้ต้องเทลงไปในอุณหภูมิเท่าไหร่ เราต้องจำมาแล้วว่าทำยังไงบ้าง อาจจะเครียดนิดนึงค่ะ เขาจะบอกช่วงใกล้มิดเทอม ถ้าเราทำบราวนี่ เราต้องเตรียมตัวแล้ว ก็คือต้องปรับสูตรใหม่เอง ไม่ต้องเปลี่ยนส่วนผสมอะไร แค่พอเราทำคนเดียวเราต้องผลิตน้อยลง คนเดียวถาดเดียว แต่ถ้าอยู่ในห้องเรามีทีมสามคนเพราะฉะนั้นปริมาณมันก็จะเยอะกว่า เวลาทำสามคนจะทำสามถาด อันนี้ก็เป็นหนึ่งในคะแนนเหมือนกัน ที่ต้องยื่นสูตรที่เราคำนวณมาแล้วให้อาจารย์ ปริ้นท์มาสองฉบับ ยื่นให้เขาหนึ่งฉบับและเราเอาเข้าห้องหนึ่งฉบับ และก็ต้องทำ schedule มาเอง เช่นเราเริ่มสอบ 7-9 โมง เราต้องเขียนว่า 7:00 น. ทำความสะอาดโต๊ะ ฆ่าเชื้อ เป็นเวลาเลยค่ะว่าเราเริ่มทำตรงนี้หยิบถาด อุปกรณ์ หยิบส่วนผสมต้องละเอียดนิดนึง และมันจะเป็นแบบนี้ทุกเทอม และเขาจะเปลี่ยนว่า จะให้เราจะทำอะไรบ้างในมิดเทอมและไฟนอล เขาอาจจะไม่ให้เอาอันนี้เข้า ส่วนอุปกรณ์เขาจะมีให้ไม่ต้องห่วง ไปวันแรกของยื่นยูนิฟอร์มและกล่องอุปกรณ์มันใหญ่มาก ข้างในเป็นอุปกรณ์ทำขนมหมดเลย เพราะฉะนั้นเราต้องเช่าล็อคเกอร์ไว้ทุกเทอม ต้องแย่งกันด้วยนะคะเพราะว่ามีน้อย ถ้าจองไม่ทันต้องไปเก็บไว้ที่ตึกอื่นเลย ก็จะไกลและต้องแบกของหนัก เพราะมันมีอุปกรณ์เยอะ มีด ที่รีดแป้ง เครื่องชั่งตวง

Baking กับ Pastry ต่างกันยังไงคะ?

Baking คือ เราเรียนทำขนมปังอย่างเดียวเลยค่ะ ทุกอาทิตย์อบแต่ขนมปัง มันจะมีหลายอย่าง ขนมปังที่ทำจากยีสต์ ขนมปังพวกนี้ไม่เหมือนกันนะ มันจะแตกต่างกันออกไป แต่ Pastry คือ ชิ้นเล็ก ๆ น้อย ๆ เอแคล์ มาการอง ประดิดประดอยนิดนึง แล้วก็ได้เรียนการตกแต่งเค้ก การปั้นน้ำตาล ปั้นช็อกโกแลต ได้ทำทุกอย่างเลย หนูก็มีพวกดอกไม้ที่ทำจากน้ำตาลวางอยู่ในห้องค่ะ ตอนทำเขาก็ให้เราเลือกว่าอยากทำเดนิชหน้าอัลมอนด์ ครีม หรือผลไม้ ส่วนขนมที่เราทำ กลับบ้านได้นะแต่เลเวล 1-2 ต้องจ่ายเงินซื้อ ไม่ได้ให้ฟรี แต่เขาลดให้ ถ้าขนมปังถุงละ 6$ เราจ่ายแค่ 3$ ค่ะ ที่เรียนมาการปั้นน้ำตาลยากสุดแล้วค่ะ เขาสอนให้ทำพวกหงส์ ผลไม้ และมันอันตรายมาก เพราะน้ำตาลมันร้อนมาก หนูเคยโดนไปสองรอบ พองเหลืองเลยค่ะ เรียนคอร์สนี้ต้องทำใจว่าจะได้แผลเป็นกลับบ้านไม่มากก็น้อย โดนลวกจากเตาบ้าง น้ำตาลกระเด็นใส่บ้าง แต่มันออกมาดีมาก อาจารย์สอนใจเย็นกันทุกคนค่ะ ค่อย ๆ ทำตัวหงส์ ทำปีกออกมาแบบนี้นะ แล้วก็คิดเผื่อไว้แล้วว่า บางทีคนที่มาเรียนคอร์สนี้เขาก็มีประสบการณ์มาก่อนแล้ว ก็อย่าไปเทียบตัวเองกับเขา เพราะมันจะดูเศร้านิดนึง ทำไมของเราออกมาเป็นแบบนี้ 555

หลังจากเรียนหลักสูตรนี้แล้วเป็นยังไงบ้าง ช่วยรีวิวหลักสูตรนี้ให้ฟังหน่อยค่ะ?

หลักสูตรเป็น 2 ปี มีทั้งหมด 4 เทอม คิดว่าคุ้มค่าอยู่นะคะ เพราะว่าเป็นอะไรที่ไม่เคยเรียนมาก่อน เรียนครอบคลุมเกือบทุกอย่าง ทั้งทฤษฎี ทั้งปฏิบัติ แต่ละคลาสเราทำขนมไม่ซ้ำกันเลยสักอาทิตย์ สามารถใช้ในชีวิตจริงได้ดีเลย แต่มาแล้วอาจจะหางานทำยากนิดนึงค่ะ คือคนที่นี่เขาไม่ได้สนใจว่าคุณเรียนจบมาได้เกียรตินิยมไหม คะแนนเท่าไหร่ เขาดูแค่ว่าคุณมีประสบการณ์มากน้อยแค่ไหน เคยทำอะไรมาแล้วบ้างมากกว่าค่ะ คอนเนคชันก็สำคัญค่ะ เวลาเราเรียนถ้าตั้งใจฟังอาจารย์เขาพูด และคอยถามเขาว่าทำงานที่ไหน มีงานที่ไหนว่างบ้าง เขาจะช่วยเราหางานได้เยอะเลย ตอนเรียนในคลาส เพื่อนรุ่นไอซ์ 90% เป็นคนอินเดีย เพื่อนบ้านไอซ์ก็คนอินเดีย และก็จะมี จีน เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และก็จะมีจากฝั่ง US บ้าง แทบไม่เจอคนไทยเลยค่ะ แต่สังคมคนไทยที่นี่ก็มีนะคะ แต่จะเรียนสาขาอื่นค่ะ

Algonquin มีบริการอะไร Support นักเรียนบ้างคะ?

เขาจะมีสิ่งที่เรียกว่า IEC คอยช่วยเหลือเด็กต่างชาติที่เข้ามาเรียน ไม่รู้อะไรเดินเข้าไปถามได้เลย เรื่อง passport/ VISA/ เอกสารใด ๆ มหาวิทยาลัยนี้ช่วยเหลือค่อนข้างดีเลยค่ะ และก็จะมีที่ไอซ์ใช้บริการเลยคือ Helper เป็นคนช่วยเหลือเรา เขาไปรับไอซ์ที่สนามบิน ไปส่งที่พักเพื่อเก็บกระเป๋า แล้วไปเปิดบัญชีธนาคารของที่นี่ กับซิมโทรศัพท์ อีกอย่างคือเขามี Consultant ไปปรึกษาปัญหาเกี่ยวกับจิตใจได้ อารมณ์แบบนักจิตวิทยาค่ะ แล้วก็มีคลินิกในมหาลัย จริง ๆ เขามีศูนย์กายภาพบำบัด ถ้าเราปวดหลังปวดข้อมือ เขามีศูนย์ให้เราเข้าไปใช้บริการได้ ครอบคลุมประกัน ไอซ์ก็เข้าไปใช้ตอนข้อมืออักเสบ แนะนำว่าให้รีบใช้ตอนเป็นนักเรียน พอเรียนจบเราไม่สามารถใช้ได้แล้วค่ะ

ช่วยแชร์ประสบการณ์การหางานและการทำงานที่ Ottawa ได้ไหมคะ?

งานที่ไอซ์ทำอยู่ตอนนี้คือที่ Convention Center ใหญ่เลย เดือนนี้ก็จะยุ่ง เพราะเขาจะมี UN meeting ครัวเขาใหญ่ จะมีฝั่งครัวร้อนและฝั่ง pastry ไอซ์อยากทำฝั่ง pastry อย่างเดียว ไม่ได้อยากทำฝั่งร้อน เพราะทำงานกันแค่ 5-6 คนเอง ซึ่งเราก็ควรจะพูดคุยกับอาจารย์อยู่เรื่อย ๆ เรื่องตำแหน่งงาน โชว์ให้เขาเห็นถึงความสนใจของเรา และโชว์ให้เขาเห็นว่าเราดีพอไหมที่จะเข้าไปทำงาน อันนี้สำคัญมากค่ะ เหมือนเขาเคยพูดกับไอซ์ตรง ๆ ว่าเขาแนะนำไอซ์เข้าไปทำงานเพราะไอซ์ดีพอที่จะเข้าไปนะ เพราะว่าเขาก็ต้องใช้ชื่อเขาเอง reference เราเข้าไปเหมือนกัน เราแค่สัมภาษณ์เป็นพิธีแล้วจบ เขาก็รับเราเข้าทำงานเลย อันนี้ค่อนข้างสำคัญมาก กับอาจารย์ทุกคนเลยนะคะ

แล้วคนที่นี่ไม่ได้ทำงานกันแค่ที่เดียว ส่วนใหญ่เขาทำกัน 2-3 ที่ อย่างอาจารย์บางคนเป็นพาร์ทไทม์ บางคนเป็นฟูลไทม์ เขาจะมีงานที่ 2 ที่ 3 อยู่แล้ว ไอซ์ก็ทำงานสองที่เหมือนกัน อีกร้านทำพาร์ทไทม์เบเกอรี่ทั่วไป ขายโดนัทเป็นหลัก เป็นโดนัทที่ทำจากแป้งครัวซองท์ มันจะกรอบๆ ตอนหางานใช้เว็บไซต์ Indeed ตอนเพิ่งมาถึงที่นี่ ค่อนข้างหางานยาก ไอซ์ใช้เวลาสี่เดือนในการหางานแรก ได้งานที่ Tim Horton แต่ที่ Tim Horton เขาให้เรทขั้นต่ำ และงานค่อนข้างหนักเลย ทำในครัว เป็นคนเตรียมอาหาร เครื่องดื่ม ไม่ได้เสิร์ฟหรือคุยกับลูกค้าโดยตรง แต่ต้องทำใจว่างานหนักจริง เขาถือว่าเป็นฟาสต์ฟู้ดเชน มี motto ว่าต้องเสิร์ฟลูกค้าภายใน 30 วินาที เมเนอเจอร์ที่นี่เขาจะเร่งเรา ทำให้เร็ว แต่ตอนนี้ไม่ได้ทำแล้ว ทำงานที่ปัจจุบันก็แฮปปี้ดีค่ะ ไม่เคยโดนดูถูก โดนเหยียดเป็นกฎที่นี่เลยค่ะห้ามเหยียด ถ้าเจออาจจะไล่ออกจากที่ทำงานเลยค่ะ และคนที่เมืองนี้ค่อนข้างอัธยาศัยดีมาก อย่างไอซ์ไปเที่ยวมอนทริออลมา คนเขาไม่ได้ดีเท่าเมืองที่อยู่ คนที่มอนทริออลถ้าเราไม่ได้พูดภาษาฝรั่งเศสกับเขา เขาจะค่อนข้างเหยียดเรานิดนึง แต่คนที่ออตตาวาเป็นมิตรมาก เดินไปไหนทักทาย คอยถามว่าเป็นยังไงตลอด เหมือนเป็นธรรมเนียมของที่นี่เลย

มีวิธีการหาที่พักที่แคนาดาอย่างไร?

ตอนนี้พักอยู่ใกล้มหาวิทยาลัยค่ะ ยังไม่ได้ย้ายไปไหน แต่ตอนเดินทางไปทำงาน 1 ชม. ไอซ์พักอยู่ Shared house ห้องไอซ์ 923$ รวมค่าน้ำค่าไฟ อินเตอร์เน็ตแล้ว แต่ปีหน้าจะขึ้นค่าเช่าแล้วค่ะ แต่ว่าได้รูมเมทดี เราแชร์ห้องครัวกัน อาจจะมีปัญหาแค่ตู้เย็น เราต้องแชร์กับคนอีกห้าคน ซึ่งไอซ์กับเพื่อนเลยตัดปัญหาโดยการซื้อตู้เย็นเพิ่มอีกตู้นึง ก็เลยคิดว่าคงไม่ย้ายแล้วเพราะเราลงทุนกับตู้เย็น ของแต่งบ้านไปหมดแล้ว ตอนหาที่พักไอซ์หาเองในเฟซบุ๊ค แต่กลัวว่าจะโดนหลอกไหม แล้วก็ไปเจอเว็บไซต์ของคนที่ดูแลบ้านเช่าในละแวกนี้ทั้งหมด แนะนำว่าให้มาดูของจริงดีกว่า ที่นี่เขาจะมี VR 3D แต่ไอซ์ว่ามันไม่เหมือนของจริงเท่าไหร่ เพราะแต่ละยูนิตจะไม่เหมือนกัน อย่างห้องที่ไอซ์ได้ ไม่รู้ว่าทำไมไม่มีไฟบนเพดานให้ มีแค่โคมไฟเล็ก ๆ มาให้เรา ไอซ์เคยถาม พวกห้องใหญ่ หรือ ห้องมาสเตอร์ที่นี่จะไม่มีไฟ เราไปซื้อมาติดเองไม่ได้ด้วยค่ะ เพราะเขาไม่ได้เดินไฟตั้งแต่แรก และห้องที่นี่ลืมแอร์แบบบ้านเราไปได้เลย จะเป็นช่องรูแคบ ๆ เล็กมาก ๆ ไม่ได้ช่วยอะไรเท่าไหร่ ต้องไปซื้อฮีตเตอร์และพัดลมเพิ่ม พัดลมสำหรับหน้าร้อน ฮีตเตอร์สำหรับหน้าหนาว มีช่วงนึงที่ไอซ์พยายามถามเขาว่าทำไมห้องไอซ์มันเย็นเท่าข้างนอกเลย เหมือนเขาลืมใส่ Insulated ให้ใต้หลังคา ไอซ์ก็อยู่แบบนั้นมาปีนึง แต่ตอนนี้ใส่ให้เรียบร้อยแล้ว เราก็ต้องคอยตรวจเอง ซึ่งอันนี้เราไม่รู้เลย เพราะบ้านเราไม่มีหน้าหนาว มีปัญหาอะไร ก็ต้องส่งอีเมลไปถาม maintenance ตลอด

เมือง Ottawa เป็นยังไง หลังจากอยู่แล้วเมืองนี้มีข้อดีและข้อเสียอะไรบ้างคะ?

เงียบดีนะคะ เป็นเมืองหลวง แต่ไม่ได้มีอะไร สถานที่ท่องเที่ยวก็ไม่ได้มีอะไร เฉย ๆ เลย เป็นเมืองที่เงียบเป็นชุมชน หกโมงเย็นร้านทุกอย่างปิดหมดแล้ว แต่ใช้ชีวิตได้นะ แต่ถ้าคนที่ติดเมืองไม่ควรอยู่ที่นี่ ควรไปอยู่เมืองอื่นดีกว่า แต่ถ้าใครแค่จะมาเรียนทำงานเก็บเงิน เมืองนี้ก็เป็นตัวเลือกที่ดี เพราะภาษียังไม่สูงมาก เหมือนเมืองใหญ่ ๆ อยางโทรอนโตและแวนคูเวอร์ สองเมืองนี้ภาษีสูงมาก ข้อดีของเมืองนี้ไอซ์ว่าผู้คนที่นี่เป็นมิตรมาก ยิ้มแย้มให้เราตลอด แต่ข้อเสียเลยคือทุกอย่างจะอยู่ในเมืองพวกร้านอาหาร ข้าว เราต้องเดินทางเข้าเมือง 1 ชม. ไกลนิดนึงค่ะ แต่ง่ายสุดเลยคือทำอาหารเอง หรือ MC Donald ไม่ได้เหมือนไทยที่ทุกอย่างเชื่อมหากันง่ายขนาดนั้น ที่นี่การเดินทางไปหลายต่อหน่อยค่ะ ร้านอาหารไทยอยู่ในเมืองหมด หรืออยู่เมืองข้าง ๆ ถ้าไม่มีรถไกลมากค่ะ แต่ถ้ามีรถ 30-40 นาที แต่ทำใจราคาเลย ราคาแพงมาก บวกค่าส่ง บวกทิป และที่นี่เราต้องให้ทิปเป็นธรรมเนียม ให้เท่าไหร่ก็ได้ แต่ควรให้ค่ะ

ขนส่งสาธารณะที่เมืองนี้เป็นยังไงคะ?

ขนส่งสาธารณะสะดวกค่ะ ทุก ๆ 300-500 เมตร มี bus-stop ตลอด สะอาดด้วย แต่รถไฟฟ้าจะมีแค่ในเมืองเลย ตอนไปทำงานไอซ์นั่งบัสไปสุดทางและก็ไปต่อรถไฟเข้าเมือง พวกบัตรเดินทางหลังจากเราจบมหาลัยแล้ว เราต้องจ่ายเอง ราคาบัตรรายเดือนตอนนี้ประมาณ 129$ ใช้ขึ้นได้ทั้งรถบัส รถไฟฟ้า และก็พวกกิจกรรมส่วนใหญ่ของที่นี่ เขาจะมี Festival ต่าง ๆ มีอาหารคล้าย ๆ ไชน่าทาวน์ มีกิจกรรมเป็นซุ้มต่าง ๆ ซื้ออาหารได้ แล้วก็ถ้าเป็นกิจกรรมหน้าหนาว เขาจะจัดในเมืองหรือตามทะเลสาบ มี ice-skating /ski แต่โดยส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยมีอะไรมาก พอเลิกงานทุกคนก็ต่างกลับบ้าน เมืองมันจะเงียบ ร้านค้าเขาจะปิดเร็วกัน ไม่มีเปิด 24 ชม. เหมือนไทยนะคะ จะมีแค่ Tim Horton บางสาขาที่เปิด 24 ชม. ห้างก็ปิดเร็ว สองทุ่มคือปิดหมดเลย แถวนี้มี 3-4 ห้างใหญ่ ๆ แค่นั้นเลย โซนที่ไอซ์อยู่ มีซุปเปอร์มาร์เก็ตอยู่ 2 ที่ แนะนำ Walmart ราคาถูก แต่ Loblaws ราคาแพงยิ่งสาขาที่ใกล้มหาลัยยิ่งแพง เขาเลยบอยคอตกันว่าจะไม่ไปซื้อของที่นี่ เพราะแพงมาก ถ้าเทียบเราไปเดิน Walmart ได้ของเยอะกว่าและโปรโมชั่นเขาเยอะ แล้วที่นี่ก็จะมี Costco จะขายของเป็นแพ็คใหญ่ขายส่ง แต่ต้องมีบัตรสมาชิก อันนี้แนะนำว่าถ้าเฮาส์เมทดี เราสามารถแชร์บัตรกับเพื่อนได้ค่ะ

วันว่าง ๆ คุณไอซ์ได้ไปเที่ยวไหนบ้างไหมคะ?

ไม่มีเลยค่ะ นอนพักยาว ๆ ค่ะ เพราะงานสองไอซ์ต้องตื่นตีสามเพื่อไปทำงานตอนตีสี่ แล้วแต่ว่าเราได้กะเวลาไหน แต่ที่ Convention Center ได้กะเช้า แต่วันหยุดจะตื่นสายหน่อย และก็จะชวนเพื่อนเล่นเกม ทำนู่นทำนี่ ถ้ากิจกรรมที่ไปทำจริง ๆ เลย คือ เข้ายิม ปีนผา เล่นแบดมินตัน โบลลิ่ง สนุ๊กเกอร์ ถ้าเป็นนักเรียนที่นี่ใช้ให้คุ้มมันฟรีทั้งหมด เพราะเขาคิดรวมในค่าเทอมเราแล้ว แต่ถ้าจบแล้ว เราต้องเสียเงินเข้าค่ะ

มีข้อคิด คำแนะนำอะไรสำหรับคนที่กำลังตัดสินใจอยากมาเรียนต่อหรือมาอยู่แคนาดาบ้างไหม?

ล่าสุดไอซ์โดนคนตาม จริง ๆ เกิดสองรอบแล้ว รอบล่าสุดที่โดน ไอซ์คอลสายกับทางบ้านไว้ เผื่อถ้าเกิดอะไรขึ้นกับเรา เขาจะได้รู้ และก็รีบเดินเข้าร้านที่เราทำงาน แต่ไอซ์ไม่รู้ว่าเขาเดินตามเข้ามาในร้าน เพราะใส่แจ็คเก็ตแล้วฮู้ดมันหนา มันบังตาเรา แต่มีนักเรียนอินเดียกลุ่มหนึ่งซึ่งเขาก็เป็นเพื่อนไอซ์ด้วยค่ะ เขาเดินตามไอซ์เหมือนกัน มีไอซ์เดินนำ คนไร้บ้านเดินตาม และกลุ่มนักเรียนอินเดียเดินตามอีกที และเขาก็มาบอกไอซ์ว่า เขาเดินตามไอซ์เข้ามาในร้านนะ แต่เราไม่เห็น เลยรีบไปบอกเพื่อนร่วมงาน ว่าเจอคนตามอีกแล้ว เท่านั้นแหละเขารีบหยิบมีด และโทรตามตำรวจและโทรหาเจ้าของร้าน ตำรวจมาถึงเร็วมาก 5 นาทีเอง มาพร้อมกับรถสองคัน คนไร้บ้านเขาเดินเข้าไปในร้านสุดทางเลย ตำรวจบอกว่าผู้ชายคนนี้เขาถอดเสื้อผ้าแล้วและนอนอยู่ในห้องน้ำตำรวจก็หิ้วปีกออกมา แต่จับกุมเขาไม่ได้นะ เพราะเขาไม่ได้ทำอะไรไอซ์ เขาผิดแค่ข้อหาเดียวคือ บุกรุกพื้นที่ส่วนบุคคล ได้แค่ตักเตือน และพาเขาไปด้วย

แต่รอบแรกเนี่ย เป็นคนที่เราไม่รู้จักลงบัสมา เขาก็เข้ามาคุยและกอดคอไอซ์ เขาเป็นผู้ชาย เรารู้สึกไม่ปลอดภัย เลยบอกเพื่อนร่วมงานกับเจ้าของร้านไว้และเราก็บอกลักษณะหน้าตาของเขาและพวกเขาก็รีบขับรถออกไปตรวจดูก็ไม่พบ แต่ก็ไม่ได้ทำอะไรกับเคสแรก เพราะเราหาเขาไม่เจอ ตอนนั้นไอซ์ก็รีบเดินและรีบวิ่งมา เราควรพกมีดพกไว้ ไอซ์พกมีดปลอกผลไม้ และสเปรย์พริกไทย นี่ขนาดแคนาดานะคะ แต่คนไร้บ้านที่นี่จะเยอะแถวในดาวน์ทาวน์ ชานเมืองไม่ค่อยพบ เขาไม่ได้มีพิษมีภัยอะไร แต่เราก็ควรเดินห่าง ๆ หรือพยายามเปลี่ยนเส้นทางในการเดินตลอด

สุดท้ายสนุกดีค่ะ มาเรียนเยอะ ๆ นะคะ เพราะคนไทยไม่ค่อยมีแถวนี้ และทำใจเรื่องค่าใช้จ่ายนิดนึงค่ะว่ามันอาจจะสูง ถ้าเราซัพพอร์ทตัวเองควรรีบหางานทำ ให้ดูไว้ก่อนที่จะมาที่นี่เลยค่ะ ว่ามีงานที่ไหนเปิดรับสมัครบ้าง ใกล้ที่พักไหม ดูเส้นทางการเดินทางว่าบัสแถวที่พัก มีกี่สาย วิ่งไปไหนบ้าง ควรศึกษาไว้ให้ดีก่อนว่าเส้นทางที่เราต้องใช้ทุกวันบัสผ่านเราหรือเปล่า เพราะตอนไอซ์มาไม่ค่อยได้ดูไว้ แต่โซนที่ไอซ์อยู่บัสวิ่งทุกสายเลย ไม่เปลี่ยวด้วย เป็นแนวหมู่บ้าน มีนักเรียนพักอาศัยกันเยอะ

รีวิวก้อปันกันให้ฟังได้ไหมคะ อะไรทำให้เลือกใช้บริการของก้อปันกัน?

ที่จริงไอซ์ไม่ได้ไปเจอก้อปันกัน แต่เป็นคุณน้า เขาจะไปเรียนภาษาที่ก้อปันกัน เลยแนะนำไอซ์มาอีกทีนึง และก็เจอผ่านโซเชียลมีเดีย เคยเห็นคนรีวิว และเราสามารถติดต่อผ่านไลน์ได้ด้วย ก็ง่ายและรวดเร็วดีค่ะ พี่เขาตอบเร็ว และช่วยได้ทุกเรื่องเลย ตั้งแต่เตรียมเอกสาร ยื่นวีซ่า ดีตรงที่แพลตฟอร์มของพี่เขา และหนูก็อัปโหลดเข้า ซึ่งเอกสารมันก็จะอยู่ตรงนั้นเลย เวลาเราเดินทางมาถึงที่นี่ เราไม่จำเป็นจะต้องปริ้นท์เอกสารเป็นปึ๊งออกมา เราก็เอามาแค่อันหลัก ๆ ที่เขาจะตรวจตรงตม. เพราะไอซ์เห็นคนอินเดียเขาพกเอกสารเยอะมาก เราไม่จำเป็นต้องทำขนาดนั้นค่ะ

อ่านเกี่ยวกับ Algonquin College – คลิก

Photo Credits : คุณไอซ์

JOIN OUR UPCOMING EVENTS

ติดต่อขอรับคำปรึกษา

 

เรียนต่อแคนาดา อเมริกา

Line : @korpungun

เรียนภาษาที่ฟิลิปปินส์

Line : @kpglearn

คอร์สออนไลน์ KPG LIVE

Line : @kpglive

TEL: 094-883-8778