รีวิว หลักสูตร University Pathway Program กับ ILAC
และหลักสูตร Aircraft Maintenance Engineers Technology กับ SAIT โดยคุณฟลุ๊ค
อะไรทำให้ตัดสินใจไปเรียนต่อที่ประเทศแคนาดา?
จริง ๆ อันดับแรกเลย ทำงานในไทยแล้วเริ่มเบื่อ เลยอยากลองไปอยู่ต่างประเทศดูก่อน แล้วก็มาคิดว่าถ้าจะหางานทำเลย น่าจะยากเลยตัดสินใจมาเรียน แต่ตอนแรกไม่ได้คิดจะไปแคนาดาอยากไปออสเตรเลีย เพราะใกล้ประเทศไทยมากกว่าและอากาศไม่หนาวมาก น่าจะปรับตัวได้ง่ายกว่า แต่เป้าหมายถ้าไปแล้วก็อยากได้ PR ครับ อยากอยู่ยาว ๆ แต่พอมาศึกษาแล้วออสเตรเลียได้ PR ยากกว่าแคนาดา เลยตัดสินใจมาเลือกแคนาดาแทนครับ
ทำไมถึงเลือกเรียน University Pathway Program ที่ ILAC, Vancouver?
เพราะว่าคะแนน IELTS ของผมไม่ถึงตามที่ college เขาต้องการ ยังขาดไปประมาณ 0.5 ครับ ผมเลยตัดสินใจเรียน Pathway ก่อน เพื่อเอาตัวเองเข้ามาอยู่ในประเทศ และจะได้ปรับตัวกับสภาพแวดล้อมไปด้วย บวกกับไม่ต้องสอบ IELTS ใหม่ด้วยครับ เราสามารถเรียน Pathway แล้วนำคะแนนยื่นเข้าโปรแกรมของ college ที่ผมอยากเรียนได้เลย โปรแกรม Pathway ใช้เวลาเรียน 4 เดือน หลัก ๆ เขาจะเน้นการเขียน และเน้นเกี่ยวกับการสอบ IELTS ข้อสอบที่ให้เราฝึกทำก็เป็นข้อสอบเหมือนกับตอนสอบ IELTS เลยครับ เป็นฟังอ่านเขียน และสำหรับพาร์ทพูด เขาจะให้เราทำ presentation นำเสนอหน้าห้องครับ
ในมุมมองของเรา หลังจากเรียนโปรแกรมนี้ คิดว่าทักษะการใช้ภาษาอังกฤษมีการพัฒนามากน้อยแค่ไหนคะ?
ถ้ามุมมองการใช้ในชีวิตประจำวัน ขึ้นอยู่กับตัวเราครับว่าได้มีการใช้ภาษาอังกฤษมากน้อยแค่ไหน มันก็มีบ้างที่รู้สึกว่าโอเคเราเรียนรู้คำศัพท์มากขึ้น แต่ถ้ามองด้าน Academic การเขียน ผมว่าช่วยได้เยอะเหมือนกัน
ทำไมถึงเลือกเรียน Aircraft Maintenance Engineers Technology ที่ SAIT?
หลัก ๆ เลย ผมเป็นคนชอบเครื่องบิน ตอนอยู่ประเทศไทย ผมจบปริญญาตรีคณะบริหารการบินมา และทำงานในสนามบิน เลยคิดว่าถ้าจะมาเรียนต่อ ควรเรียนอะไรดี ตอนแรกดู management ด้านการบินไว้เหมือนกัน และก็ด้าน Aircraft Maintenance แต่ก็ตัดสินใจเป็น Aircraft Maintenance เพราะกลัวว่าถ้าเราเลือกโปรแกรมที่เหมือนกับตอนเรียนป.ตรี อาจจะทำให้ได้ VISA ยากขึ้น และก็สายช่างพอจบมา โอกาสที่จะหางานทำน่าจะง่ายกว่า เลยตัดสินใจเลือกโปรแกรมนี้ครับ บวกกับว่าที่เลือกเมือง Calgary เพราะอันดับแรกเลย ผมคิดว่าไม่ใช่เมืองใหญ่ ยื่น PR น่าจะได้ง่ายกว่า ค่าครองชีพน่าจะถูกกว่าเมืองใหญ่ ๆ ไม่ได้วุ่นวายมากด้วย และมหาวิทยาลัยก็ค่อนข้างมีชื่อเสียงที่แคนาดาด้วย เลยเลือกที่นี่ครับ
การเรียนการสอนในหลักสูตรนี้ได้เรียนเกี่ยวกับอะไรบ้างคะ ช่วยเล่าภาพรวมให้ฟังได้ไหม?
เขาจะสอนการซ่อมเครื่องบิน แต่จะแยกออกไปสามแบบ คือ หนึ่งเรียนการควบคุมแผงคอนโทรล สองเรียนเกี่ยวกับโครงสร้างเครื่องบิน แต่ของผม คือ Maintenance เรียนครอบคลุมหมดเลย แต่ไม่ได้เจาะลึกลงไปเฉพาะส่วนตรงแผงคอนโทรลหรือโครงสร้างเครื่องบิน หลัก ๆ ของผมจะเป็นการทำงานเครื่องยนต์ อย่างถ้าเกิดว่าตรงนี้เสีย เราจะต้องสืบว่ามันเกิดจากอะไรยังไง ซึ่งการซ่อมพวกนี้ ทุกอย่างจะเป็น manual มาจากโรงงานผลิตเครื่องบินอยู่แล้วครับ โดยรวมหลัก ๆ เขาค่อนข้างเน้นปฏิบัติให้เราทำจริงช่วงแรกที่เรียนยากเหมือนกันครับ เพราะเป็นภาษาอังกฤษและคำศัพท์เทคนิคเฉพาะด้วย ต้องใช้เวลาปรับตัวพอสมควรเลยครับ
คนที่ไม่ได้มีพื้นฐานอะไร สามารถเรียนหลักสูตรนี้ได้ไหมคะ?
จริง ๆ ได้นะครับ อย่างเพื่อน ๆ ที่มาเรียนแต่ละคน ไม่ได้จบตรงสายด้านนี้กันเลยครับ พอเรียนจบหลักสูตรนี้ จบไปหลัก ๆ จะไปเป็นช่างซ่อมเครื่องบินกันครับ เป็นอาชีพที่ใช้สกิลในระดับนึงครับ แต่ทุกคนก็สามารถทำได้เหมือนกันนะครับ ถ้าได้เข้ามาเรียนและลองปฏิบัติดู สำหรับผมรู้สึกว่าเป็นเรื่องที่ค่อนข้างละเอียดอ่อน มันเกี่ยวกับเรื่องความปลอดภัย มันไม่ได้ยากมาก แต่เราต้องรอบคอบ บางอย่างทำมากไปก็ไม่ดี น้อยไปก็ไม่ดี เช่น การขันน็อต น็อตแต่ละตัวใช้แรงที่ต้องใช้ขันแตกต่างกัน ถ้าขันแน่นไป ก็อาจจะส่งผลต่อการทำงานได้ครับ
หลังจากเรียนคอร์สนี้แล้วเป็นยังไงบ้าง ช่วยรีวิวหลักสูตรนี้ให้หน่อยค่ะ?
โดยรวมอาจารย์สอนแบบ สไตล์ North America เลย เขาจะมีเอกสารให้ และให้เราทำตามเรื่อย ๆ ถ้าเราอยู่ตรงขั้นไหนแล้วไม่เข้าใจ ก็สามารถถามอาจารย์ได้เลย เขาจะเน้นให้เราลงมือทำ ผมชอบที่เราสามารถ ถามเขาได้ทุกเมื่อ อีเมลไปก็ได้ เข้าไปเจอตัวก็ได้ ค่อนข้างต่างจากการเรียนการสอนที่ไทย เวลาเราอยากรู้ก็จะเกรงใจอาจารย์ ไม่กล้าถาม ผมรู้สึกว่าอาจารย์ที่นี่เป็นกันเองครับ ส่วนตอนสอบถ้าเราเตรียมตัวมาดี ไม่ยากเท่าไหร่ครับ ออกข้อสอบตามที่เขาสอนเลย เราต้องจำเยอะ เพราะรายละเอียดค่อนข้างเยอะครับ ส่วนเพื่อนในห้องครึ่งหนึ่งเป็นฟิลิปปินส์เลยครับ มีแคนาเดียน อินเดีย จีน เกาหลีบ้างครับ คนไทยมีสองคน ผมกับน้องอีกคน
SAIT มีบริการอะไร support นักเรียนบ้าง?
เขาก็จะมีเจ้าหน้าที่ให้ความช่วยเหลือ แนะนำนักเรียน มีกิจกรรมแจกอาหารเช้า อย่างพวกประกันก็จะมีรวมไปในค่าเทอมอยู่แล้ว และก็จะมีค่าตัดแว่น ทำฟัน ประมาณนี้ครับ และก็มี Job fair มารับสมัครงานด้วย แต่ตัวผมเองไม่ได้เรียนอยู่ main campus ก็ไม่ค่อยได้ใช้ แต่เขามีเจ้าหน้าที่คอยให้ความช่วยเหลือตลอดทุกแคมปัสครับ
ได้ทำงานไปด้วยไหม ถ้าทำช่วยแนะนำวิธีหางาน part-time / full-time หน่อยค่ะ?
ทำครับ ผมทำอยู่ร้านอาหารไทย ตอนนั้นสมัครโดยการ walk-in เข้าไปสมัครเลยครับ หลัก ๆ ผมทำจันทร์ ศุกร์ ตอนเย็นและก็วันอาทิตย์ครับ ทำ 24 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ไม่ได้ทำเยอะเท่าไหร่ เรทขั้นต่ำตอนนี้ 15$ ใช้ระยะเวลาในการหางานประมาณเดือนครึ่งครับ ส่วนมากคนที่รู้จักเขาจะทำงานในซุปเปอร์มาร์เก็ต Home depo, Tim Horton ผมแนะนำตอนสมัครงานให้เราเดินยื่นเรซูเม่ด้วยตัวเองครับ ดีกว่าสมัครออนไลน์ เพราะบางทีเขาไม่ได้เช็คอีเมลหรือใบสมัครมันอาจจะเยอะเกินไป แต่การเดินเข้าไปหาเขาเลยอย่างน้อยเขาได้เห็นเรามันก็น่าจะโอเคกว่า
มีวิธีการหาที่พักที่แคนาดาอย่างไร?
ตอนแรกเลยผมพักของมหาวิทยาลัยก่อนครับ อยู่ไปสักพักเจ้าของร้านที่ผมทำงานอยู่เขาเปิดบ้านเช่า พอสัญญาหอที่มหาวิทยาลัยหมด ผมก็ไม่ได้ต่อสัญญา และก็ย้ายมาอยู่บ้านเช่าของเจ้าของร้านที่ทำงานอยู่ครับ บ้านเป็น shared-house เรทบ้านตอนนี้จ่ายเดือนละ 800$ รวมค่าน้ำ-ค่าไฟแล้ว แต่ตอนอยู่หอพักมหาวิทยาลัย เฉลี่ยเดือนละ 950$ มีสองห้องนอน แชร์ห้องน้ำ ห้องครัวครับ โชคดีที่บ้านที่ผมอยู่ตอนนี้ทุกคนทำงานหมดเลย เวลาใช้พื้นที่ส่วนกลางเลยไม่ค่อยตรงกันเท่าไหร่ครับ
เมืองแวนคูเวอร์เป็นยังไงบ้าง หลังจากอยู่มา เมืองนี้มีข้อดีและข้อเสียอะไรบ้างคะ?
โดยรวมผมชอบแวนคูเวอร์นะครับ มันใกล้ธรรมชาติดี ผมชอบความเป็นเมืองที่อยู่ใกล้ธรรมชาติ การเดินทางสาธารณะสะดวกมีทั้งรถไฟ รถบัส ค่อนข้างครอบคลุม มีกิจกรรมอะไรให้ทำค่อนข้างเยอะเหมือนกัน ตอนนั้นผมเรียนแค่ภาษายังทำงานไม่ได้ ก็จะมีไปเที่ยวกับเพื่อน ๆ ค่อนข้างสะดวกเลยครับ แต่ที่ผมไม่ค่อยชอบเลยคือที่แวนคูเวอร์ฝนตกเยอะไปหน่อย และก็แพงครับ
แล้วเมือง Calgary เป็นยังไง มีข้อดี-ข้อเสียอะไรบ้าง?
ต่างจากแวนคูเวอร์พอสมควรเลยครับ ไม่ค่อยมีกิจกรรมอะไรให้ทำเท่าไหร่ เป็นเมืองเล็ก ห้างสรรพสินค้า จะอยู่โซน Resident area จะไกลออกไป โซน Downtown มีแต่พวกตึกออฟฟิศหรือสถานที่ทำงาน เวลาวันหยุดเสาร์อาทิตย์ในเมืองก็จะเงียบ ไม่ค่อยมีอะไรให้ทำเท่าไหร่ ส่วนการเดินทางที่นี่มีรถไฟกับรถบัส แต่เส้นทางอาจจะยังไม่ครอบคลุมเท่าแวนคูเวอร์ แนะนำว่าถ้าอยู่คาลการีควรมีรถยนต์ส่วนตัวจะสะดวกกว่าครับ
คุณฟลุ๊คเรียนมาได้ระยะนึงแล้ว ได้สัมผัสเมืองของเขาแล้ว ตอนนี้ยังมีแพลนอยากได้ PR ของที่นี่อยู่ไหมคะ?
ตอนนี้แพลนของผมยังอยากได้ PR อยู่ครับ อยากทำงานเก็บประสบการณ์ และสอบ license ให้ได้ และมีแพลนว่าจะข้ามไปสอบ license ของอเมริกาด้วยครับ ถ้าได้ license อเมริกา และวันนึงสามารถหางานฝั่งอเมริกาได้ ก็โอเคครับ จริง ๆ ที่นี่ก็โอเคครับ การบินที่นี่ใหญ่และกว้างเหมือนกัน สามารถใช้เป็นใบเบิกทางให้เรานำไปต่อยอดได้ ผมรู้สึกว่างานสายนี้ในอเมริกาน่าจะไปได้ไกลและกว้างกว่าแคนาดา อย่างถ้าเทียบค่าจ้างอเมริกาก็ให้เยอะกว่าแคนาดา อย่างตำแหน่งที่ผมเรียน ค่าจ้างเริ่มต้นไม่ถึงสามสิบเหรียญต่อชั่วโมง ผมรู้สึกว่าก็น้อยอยู่นะเมื่อเทียบกับเนื้องาน ความรับผิดชอบที่เราต้องรับผิดชอบ แต่ก็มีเพื่อนในห้องบางคน พอเรียนแล้วไม่โอเค เขาก็ย้ายโปรแกรมไปเรียนเป็นช่างไฟ เพราะรู้สึกว่าสายทางนั้นค่าตอบแทนสูงกว่าช่างซ่อมเครื่องบินครับ
มีข้อคิด คำแนะนำอะไรเพิ่มเติมสำหรับคนที่กำลังตัดสินใจอยากมาเรียนต่อหรือมาอยู่แคนาดาบ้างไหมคะ?
ก็อยากให้มาลองดูครับ จะได้เรียนรู้ว่าเราชอบจริง ๆ ไหม ถ้ามาแล้วไม่ชอบ อย่างน้อยก็เป็นการเปิดประสบการณ์ เป็นการเปิดโลกครับ เหมือนอย่างผมตอนนี้นะครับ เริ่มคิดว่าผมก็ไม่ได้ชอบสาขาที่เรียนขนาดนั้น ไม่ได้แฮปปี้ บางครั้งก็รู้สึกว่ามันเรียนยากมีท้อบ้าง ในบางจุดมันก็เหนื่อยแต่ในบางมุมมันก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้น มันก็สนุก และมีข้อดีของมันครับ
รีวิวก้อปันกันให้ฟังได้ไหมคะ อะไรทำให้เลือกใช้บริการของก้อปันกัน?
ตอนแรกเลยผมหาทางกูเกิลนี่แหละครับ หาเอเจนซี่สำหรับเรียนต่อแคนาดา ก็ติดต่อไปสองสามที่ และก็ตัดสินใจเลือกก้อปันกัน เพราะว่าหนึ่งเวลาผมสงสัย ทางทีมงานจะหาข้อมูลมาให้ หรือบางอย่างที่เขาตอบคำถามผมไม่ได้ เขาก็อีเมลไปทางโรงเรียนและก็มี reference ให้เราว่า เขาถามโรงเรียนไปแบบนี้ โรงเรียนตอบกลับมาแบบนี้ คือผมมองว่าเขามีความใส่ใจนะ เมื่อเทียบกับเอเจนซี่อื่นที่ถามไปแล้วเขาตอบมา ผมกลับรู้สึกว่า ที่เขาตอบมามันจริงแค่ไหน และเขาก็ค่อนข้างแนะนำให้ไปโรงเรียนที่เขาแนะนำเลย แต่ก้อปันกันเขาจะถามว่า เราอยากเรียนที่ไหน มีที่ไหนสนใจอยู่แล้วรึเปล่า เลยรู้สึกว่าไม่ใช่การขายของแต่เป็นการให้เราตัดสินใจเลือกก่อน เสนอไปให้เขาก่อน และเขาตอบกลับเรามาว่ามันเป็นแบบไหน โดยรวมแล้วผมค่อนข้างประทับใจมากครับ
