[รีวิว] เรียนหลักสูตร Art Fundamental ที่แคนาดา กับสถาบัน Seneca โดยคุณอุ้ม

รีวิว เรียนหลักสูตร Art Fundamental ที่แคนาดา
กับสถาบัน Seneca ที่แคนาดา โดยคุณอุ้ม

อะไรทำให้ตัดสินใจไปเรียนต่อที่ประเทศแคนาดา?

อุ้มจบวิศวกรรมอุตสาหการ (Industrial engineering) พอจบแล้ว ก็อยากเรียนต่อ แต่ก็ลังเลว่าจะต่อสาขาอะไรดี แล้วรู้สึกว่าไม่อยากต่อด้านวิศวกรรมแล้ว อุ้มอยากเรียนด้าน Art และทำงานในสายนี้มากกว่าค่ะ แล้วคืออุ้มอยากไปเรียนและอยู่ในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษ มันก็จะมีอเมริกา อังกฤษ แคนาดา ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ แต่เหตุผลจริง ๆ คือน้องสาวอุ้มเขาเป็นคนเลือกประเทศค่ะ ไม่ได้มีเหตุผลอื่นพิเศษเลย 5555 น้องสาวอุ้มเขาติดต่อก้อปันกันไปก่อน เพราะเขาจะไปเรียนต่อที่แคนาดา แล้วเขาก็มาชวนอุ้มให้ไปเรียนด้วยกัน บวกกับเราก็อยากไปต่างประเทศอยู่แล้วด้วยค่ะ

ทำไมถึงเลือกเรียนที่ Seneca?

ตอนนั้นน้องสาวไปงานสัมมนาเรียนต่อต่างประเทศ แล้วเขาได้โบรชัวร์มาหลายสถาบันเลย ก็เอามานั่งเลือกดู อุ้มเปิดเจอของ Seneca แล้วรู้สึกชอบที่นี่เป็นพิเศษ น่าสนใจ และมีโปรแกรมที่เราอยากเรียนด้วย ก็เลยเลือกที่นี่ค่ะ

หลักสูตร Art Fundamental Certificate ได้เรียนอะไรบ้าง ช่วยเล่าความน่าสนใจของหลักสูตรนี้ให้ฟังหน่อยค่ะ?

จริง ๆ แล้วอุ้มเลือก Illustration ไปค่ะ เป็นการเรียนเกี่ยวกับการวาดรูปแต่ Advance กว่า แล้วตอนนั้นอุ้มไม่สามารถเรียน Illustration ได้ หลักสูตรนี้คนจะเข้าเรียนได้ต้องมีพอร์ท แต่อุ้มไม่เคยมีพื้นฐานศิลปะมาก่อนเลย ทางก้อปันกันก็เลยแนะนำ Art fundamentals ซึ่งเป็นพื้นฐานของการเรียนศิลปะ แล้วพอจบหลักสูตรนี้ อยากเรียน Illustration ค่อยต่อทีหลังก็ได้ค่ะ

หลักสูตรนี้สอนทฤษฎีสี การวาดรูปทั่วไป การวาดรูปมนุษย์ การออกแบบ การ painting และการใช้โปรแกรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการออกแบบ อย่างวิชา Colour Studio ก็จะสอนหลักการเกี่ยวกับสี เช่น colour values, colour palette วิชา Digital design ก็จะสอนการใช้โปรแกรม Adobe Illustrator, Photoshop, Indesign วิชา Drawing เรียนเกี่ยวกับพื้นฐานการวาด เช่น 1-2 point perspective, shading technique และวิชา Figure เกี่ยวกับการวาดมนุษย์โดยเน้นเรื่อง gesture และ proportion ค่ะ

ถ้าเป็นวิชา Digital design อาจารย์จะสอนใช้เครื่องมือพื้นฐานทุกอย่าง เช่น เครื่องมือลากเส้น การลงสี การทำ 3D การซูมเข้า-ออก และคำสั่งต่าง ๆ ตัวอย่างการบ้านที่เคยได้ทำก็เป็นการออกแบบนามบัตร โลโก้ และโพสเตอร์ของธุรกิจค่ะ หลังจากรู้วิธีใช้เครื่องมือแล้ว ก็ออกแบบงานตามความคิดสร้างสรรค์และให้เป็นตามโจทย์ อุ้มเลือกทำเป็นคาเฟ่เค้กค่ะ เวลาวัดผลอาจารย์จะเก็บคะแนนจากงานที่สั่งเลย ไม่มีสอบ อาจจะมีบางวิชาที่ให้คะแนนเข้าห้องเรียน 5% และนอกนั้นก็คือคะแนนส่งงานทั้งหมดค่ะ

ในส่วนของผู้สอน สำหรับอุ้มอาจารย์ให้ความช่วยเหลือดีมาก ตั้งแต่เรื่องวิชาการ เรื่องการบ้านต่าง ๆ แต่เราต้องรู้จักเข้าหาอาจารย์ คือเขาดูแลดีมากค่ะ แต่เขาจะไม่รู้ว่านักเรียนแต่ละคนติดปัญหาตรงส่วนไหน ดังนั้นเราจึงต้องเป็นฝ่ายเข้าหาเขาก่อน

อยากให้ช่วยเปรียบเทียบการเรียนการสอนด้าน Engineering กับ Art Fundamental ว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร?

ต่างกันมากค่ะ อุ้มเรียนสายวิทย์มาตลอด เราถูกสอนให้คิดเป็นตรรกะมาตลอด และการเรียนในไทยจะเน้นโจทย์ ทฤษฎี มีแล็บนะคะ แต่ไม่เยอะมาก การบ้านก็ไม่เยอะ แต่พอมาเรียน Art การบ้านเยอะมากจนตกใจเลยค่ะ แต่พอมาคิดอีกทีก็เข้าใจค่ะว่าถ้าเราไม่ได้ลองวาด เราก็จะไม่รู้อะไรเลย ต้องได้ลงมือทำเท่านั้นถึงจะรู้ค่ะ อาจารย์จะสอนทฤษฎีก่อน และค่อยให้ลงมือปฏิบัติ จะเน้นปฏิบัติมากกว่ามาก ๆ ถ้าจบหลักสูตรนี้ จะเป็นแค่พื้นฐานของศิลปะ ในมุมมองอุ้มควรลงเรียนต่ออีกค่ะ เพราะถ้าจะใช้ในการทำงานคิดว่าหลักสูตรนี้ยังไม่เพียงพอค่ะ เพื่อนอุ้มหลายคนก็ลงเรียนต่ออีกค่ะหลังจากจบหลักสูตรนี้

หลังจากเรียนหลักสูตรนี้ คุณอุ้มได้อะไรมาบ้าง คิดว่าคุ้มค่าไหมคะ?

อุ้มได้ความรู้พื้นฐานศิลปะที่เราไม่เคยรู้มาก่อนเลย ทำให้รู้ว่าถ้าเราจะไปต่อยอดทางนั้น หลักสูตรนี้มันจำเป็นนะ มันมีเหตุผลว่าทำไมอุ้มถึงเข้าหลักสูตร Illustration ไม่ได้ ต่อให้ตอนแรกหลักสูตร Illustration ที่ Senaca จะไม่ใช้พอร์ทเลย แล้วอุ้มได้เข้าไปเริ่มตรงนั้นเลยน่าจะเป็นเรื่องที่หนักเหมือนกันค่ะ เพราะเราไม่รู้เลยว่าอุปกรณ์ต่าง ๆ มันใช้ยังไง และก็ได้ทักษะการทำงานให้เสร็จตรงเวลา due date เป็นเรื่องที่สำคัญมากค่ะ รู้สึกคุ้มค่ามากค่ะ

ตอนสมัครเรียนหลักสูตรนี้ต้องใช้ IELTS ไหมคะ?

ของอุ้มใช้คะแนน Duolingo ยื่นเข้ามาค่ะ ได้คะแนนประมาณ 100-105 ซึ่งเราก็มองว่าก็โอเคอยู่นะ ไม่แย่ได้มาก แต่พอไปถึงที่แคนาดาจริง ๆ แล้วช็อคมากค่ะ ฟังแทบไม่รู้เรื่องเลย ตอนอยู่ไทยก็ฝึกฟัง Podcast ก็ฟังออก แต่พอไปเจอภาษาอังกฤษในชีวิตจริงมันฟังยากค่ะ 99% ที่อยู่ที่นู่นอุ้มได้ใช้แต่ภาษาอังกฤษ ไม่ได้พูดภาษาไทยเลย

8 เดือนที่อยู่แคนาดา คิดว่าทักษะการใช้ภาษาอังกฤษของเราพัฒนามากน้อยแค่ไหนคะ?

ก่อนกลับอุ้มถามเพื่อนค่ะ เพื่อนบอกว่าเราพัฒนาขึ้นเยอะมาก เพราะคือตอนแรกที่มา เพื่อนแคนาดาบอกเราว่า เขารู้เลยว่าเราไม่ค่อยเข้าใจภาษาอังกฤษ เพราะตอนที่อาจารย์ถามให้ตอบเป็นคำตอบ แต่อุ้มดันพยักหน้า 5555 คือไม่รู้อะไรเลย เราก็พยักหน้าเนียน ๆ ไป แต่พอหลัง ๆ เราเริ่มฟังรู้เรื่อง เริ่มเมาท์มอยกับเพื่อนได้ เริ่มบอกเพื่อนได้ว่าวันนี้ไปเจออะไรมา ชอบอะไรไม่ชอบอะไร แรก ๆ ใครถามอะไร อุ้มตอบแค่พยักหน้า ตอนแรกคือหูยังปรับไม่ได้ ไม่เข้าใจถึงขนาดตอบคำถามตม.ผิด แต่เขาก็ยังให้เข้าแคนาดา 5555

น้องอุ้มมีวิธีการปรับตัว หรือหาเพื่อนอย่างไรบ้างคะ?

อุ้มเดินเข้าไปทักเพื่อนก่อน จริง ๆ อุ้มเป็น introvert ค่ะ ตอนอยู่ไทยเพื่อนทุกคนที่คบ คือเพื่อนเขาเข้าหาอุ้มก่อน เหมือนเขาเห็นเราอยู่คนเดียวแล้วเขาสงสาร 55555 แต่พอรู้จักจริง ๆ ก็รู้ว่าเราเป็น introvert ที่ต้องให้ extrovert มา adopt เราไป พอไปอยู่นู่นเราจะทำแบบนั้นไม่ได้ ถ้าไม่มีเพื่อน เราก็จะไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษ แล้วเราจะมาทำไม บวกกับตอนนั้นอังกฤษก็ไม่ค่อยดี เราก็เลยคิดว่าลองเข้าไปทักเขาก่อนละกัน ไม่เป็นไรหรอกถ้าเขาไม่ได้อยากเป็นเพื่อนกับเราก็ไม่เป็นไร ลองทักเขาดู อยู่ที่แคนาดาเลยกลายเป็นคน make friend กับคนอื่นง่าย เพื่อนพาเพื่อนของเขามาให้รู้จัก ก็เลยรู้จักกันต่อ รู้สึกว่าถ้าเราปิดตัวเองก็จะไม่ได้รู้จักใครเลย

ตอนเรียนน้องอุ้มได้เข้าร่วมกิจกรรมอะไรบ้างกับทางโรงเรียน?

กิจกรรมเขามีเรื่อย ๆ แต่ส่วนใหญ่จะจัดที่แคมปัสอื่น ซึ่งไม่ไกลจากแคมปัสที่อุ้มอยู่ นั่งรถไป 15 นาที มีครั้งนึงเพื่อนพาไปทำเล็บฟรี ตัดผม หรือร้องคาราโอเกะ บางทีก็มีแจกอาหาร แจกของ ก็มีเข้าร่วมบ้างถ้ามีเวลาค่ะ อุ้มไม่ได้ทำพาร์ทไทม์เป็นกิจจะลักษณะ แต่มีครั้งนึงที่สถาบันเขาจัด open house แล้วหาคนไปวาดรูป caricature คือให้คนที่มาร่วมงานไปนั่งเป็นแบบและให้เราไปวาดรูปแนวตลก ๆ อุ้มก็ได้ไปลองทำค่ะ ก็เป็นประสบการณ์ที่ดีค่ะ

คุณอุ้มพักที่ไหนคะ?

อุ้มพัก Shared-house ได้ห้องนอนมีห้องน้ำส่วนตัว ราคา 1,350$ อยู่แถวโรงเรียนเดินแค่ 5 นาทีเองค่ะ ไม่ต้องเสียค่าเดินทางเลย มีเสียค่าเดินทางแค่ตอนเข้าเมืองแต่ก็ไม่ค่อยได้ไปค่ะ การบ้านเยอะมาก 5555 รู้สึกคิดถูกที่เลือกห้องแบบนี้ เพราะถ้าเราต้องมีรูมเมทต้องแชร์ห้องกับคนอื่น อาจจะไม่สะดวกเพราะบางทีเราต้องทำการบ้านหรือนอนดึกอะไรงี้ค่ะ

เมือง Toronto เป็นอย่างไรบ้าง?

ก่อนไปไม่ค่อยรู้อะไรมาก แต่พอไปรู้สึกว่า มันใหญ่มาก ใหญ่อะไรขนาดนี้ มีคนบอกว่าขับรถสองชั่วโมงยังไม่สามารถขับรถออกจาก Ontario ได้เลย แต่ก็รู้สึกคิดถูกค่ะ สิ่งที่เราเลือกโดยใช้ความรู้สึกส่วนตัว คือคิดถูกหมดเลย โซนที่อุ้มอยู่มันเงียบสงบค่ะ แต่ถ้าอยากเข้าเมือง อยากไปเจอแสงสี ก็เดินทางแค่ 1 ชั่วโมง อีกอย่างที่ชอบคือเขามีธรรมชาติ สวนสาธารณะ ทะเลสาบ โอเคเลยค่ะ อุ้มแฮปปี้และชอบ และด้วยความที่มันเป็นเมืองใหญ่ คนเยอะ เราก็ได้เจออะไรที่มันหลากหลายมากค่ะ แต่เรื่องของอาหารด้วยความที่อุ้มอยู่ไกลจากตัวเมือง อาหารไม่ได้มีครบหมด แต่ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรเราสามารถเข้าไปหาอะไรกินในเมืองได้ค่ะ ปกติอุ้มทำอาหารกินเอง ค่าครองชีพที่นี่สูง แต่ข้อดีของต่างประเทศคือราคาของมันสัมพันธ์กับรายได้ ของแพงแต่มันก็สมดุลกับรายได้ค่ะ

ส่วนความปลอดภัยของเมืองโดยรวมอุ้มว่าโอเค แต่เราก็ต้องระวังตัวเอง คือจริง ๆ ก่อนอุ้มกลับไทย ตอนแรกวางแผนจะไปเที่ยว Niagara Falls ก่อนกลับ แต่อุ้มดันเจอ Stalker เลยกลัว ก็เลยตัดใจไม่ไปเที่ยวแล้ว เหตุการณ์คือ อุ้มไปนั่งเล่นที่ Harbor front แล้วตอนนั้นฟ้าก็ยังสว่าง คนก็เยอะ ข้างหลังเป็นลานกว้าง คนก็นั่งเล่นดนตรีกันเยอะมาก อุ้มนั่งอยู่ที่เดิม 2 ชั่วโมง แล้วข้าง ๆ ก็มีผู้ชายเอเชียวัยประมาณ 40 นั่งอยู่ตรงนั้นไม่ไปไหนเลย แล้วหันไปกี่ครั้ง ก็เจอและสบตาอะไรงี้ ทีแรกอุ้มคิดว่าเราคิดไปเอง แต่พออุ้มย้ายที่ เขาก็ตามอุ้ม อุ้มหันไปก็ยังเจอเขา เราเลยแน่ใจละ อุ้มเลยทักข้อความหาเพื่อน เพื่อนเลยแนะนำให้เดินออกมาจากตรงนั้นและให้หาสถานีตำรวจใกล้ ๆ อุ้มก็เดินหาสถานีตำรวจ แล้วพอหันไปเขาก็เดินตามมาและสบตากับเรา เราไม่ได้คิดไปเอง จริง ๆ ตอนนั้นสั่นเลยนะ แต่ก็เดิน ๆ ไปและก็คอยหันมาเช็คเรื่อย ๆ เขาก็หายไปเองค่ะ คือที่กลัวมาก ๆ เพราะสายตาเขาจ้องแบบไม่เป็นมิตร หลังจากนั้นสองวันก็บินกลับไทยเลยค่ะ ก็มีแค่เหตุการณ์นี้ที่ทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัย เสียขวัญนิดนึง แต่ก็ไม่ได้ทำให้เราเกลียดเมืองนะ ก็ยังอยากไปอยู่ค่ะ อุ้มเจอประสบการณ์ดีดีที่ Toronto ก็เยอะค่ะ

รู้จักก้อปันกันได้อย่างไร รีวิวก้อปันกันให้ฟังได้ไหม อะไรทำให้ใช้บริการของก้อปันกัน?

แน่นอนว่าจากน้องสาวค่ะ คือตอนหาข้อมูลน้องบอกว่าทักไปถามหลายที่ แต่ก้อปันกันเป็นที่เดียวที่สามารถตอนคำถามน้องได้หมดทุกอย่าง อุ้มรู้จักน้องว่าเขาเป็นคนเลือกเยอะคิดเยอะประมาณนึง ก็เลยรู้สึกว่าเขาเลือกมาให้แล้ว เราก็ไม่ต้องไปคิดอะไรอีก ก็ตามนั้นเลย หลังจากใช้บริการ อุ้มก็พอใจนะคะ พี่ ๆ ช่วยเหลือและช่วยแนะนำหลักสูตรที่เหมาะกับเรา อย่างตอนที่ต้องยื่นวีซ่ามันต้องเขียน study plan พี่ ๆ ก็ช่วยเขียน ช่วยไกด์ให้ จนสุดท้ายก็ได้ไปและกลับมาแล้วค่ะ

มีข้อคิด คำแนะนำอะไรเพิ่มเติมสำหรับคนที่กำลังตัดสินใจอยากมาเรียนต่อหรือมาอยู่แคนาดาบ้างไหมคะ?

ในมุมอุ้มตอนแรกก็ลังเลมากตอนที่น้องมาชวน ใจนึงก็เป็นห่วงน้องหมา แต่อีกใจก็อยากลองไป อุ้มได้คุยกับพี่คนไทยคนนึงที่เขาอยู่ที่แคนาดา เขาบอกว่าสักครั้งนึงของชีวิต บวกกับเราอยากไปลองอะไรใหม่ ๆ ได้เรียน Art และอยู่ในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษ อุ้มรู้สึกว่ามันเป็นความเสี่ยงเหมือนกัน ถ้าเรามาเรียนแล้วไม่ได้ใช้สิ่งที่เรียนก็แอบเสียดายเหมือนกัน แต่มันก็ต้องไปให้ได้รู้ ถ้ามันไม่ใช่ก็แค่กลับ แต่พอไปจริงก็แฮปปี้มากค่ะ คิดถูกที่ไป ถ้าใครสนใจและมีความฝันว่าอยากไปเรียนต่างประเทศ ก็แนะนำให้ลองไป ถ้าไม่โอเคก็แค่กลับ อย่างน้อยเราได้ประสบการณ์ ไปลองให้ได้รู้ดีกว่า ถ้าพร้อมก็ไปเลยค่ะ

อ่านเกี่ยวกับ Seneca Polytechnic – คลิก

Photo Credits : อุ้ม

ติดต่อขอรับคำปรึกษา

 

เรียนต่อแคนาดา อเมริกา นิวซีแลนด์

Line : @korpungun

เรียนภาษาอังกฤษที่ฟิลิปปินส์

Line : @kpglearn

คอร์สออนไลน์ KPG LIVE

Line : @kpglive

TEL: 094-883-8778