[รีวิว] เรียนภาษาอังกฤษที่ฟิลิปปินส์ ดีไหม?

เรียนภาษาอังกฤษที่ฟิลิปปินส์ ดีไหม?
รวมรีวิว เรียนภาษาอังกฤษที่ฟิลิปปินส์ กับก้อปันกัน

ต่างคน ต่างวัย ต่างประสบการณ์ ต่างความรู้สึก ในโพสต์นี้เราได้รวบรวมประสบการณ์จริง ความรู้สึกจริง ของน้องๆ พี่ๆ เพื่อนๆ ที่ได้สมัครไปเรียนภาษาอังกฤษที่ฟิลิปปินส์กับก้อปันกัน

ร่วมสัมผัสประสบการณ์การใช้ชีวิต และ เรียนภาษาอังกฤษที่ฟิลิปปินส์ ว่าแต่ละคนมีความรู้สึกอย่างไร จะเปลี่ยนความคิดคนให้มองภาพฟิลิปปินส์เปลี่ยนไปได้ไหม?

” ฟิลิปปินส์ไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้น “

เบสตัดสินใจเลือกที่เรียนระหว่างอินเดียและฟิลิปปินส์ อินเดียถูกกว่าฟิลิปปินส์ แต่เรื่องความปลอดภัย เบสคิดว่าฟิลิปปินส์ดีกว่า เพราะว่าเป็นโรงเรียนแบบปิด กิน นอน ในโรงเรียนเสร็จหมด เบสเคยขึ้นรถจิปนีย์แล้วหลง เขาก็พามาส่ง พอถามทางเขา เขาก็ใจดีเดินไปส่ง

เบส : BECI 
อ่านประสบการณ์ของเบส คลิกที่นี่

คุณท็อป-smeag
  ” ก้าวแรกที่เราไปปูพื้นฐานภาษาอังกฤษ “
ตกลงปลงใจที่ฟิลิปปินส์ก็เนื่องด้วยค่าใช้จ่าย แล้วก็ระยะเวลาที่เรียนมันเหมาะสม แล้วก็มีคลาส 1:1 ด้วยListening & Speaking อาจารย์เค้าก็มีเทคนิคในการสอนของเค้าค่อนข้างดี ผมค่อนข้างชอบ ก็คือ เค้าจะให้ผมพูด ช่วยแก้ไข แล้วก็สอน Accent (สำเนียง) ให้ครับ
ท้อป : SMEAG 
อ่านประสบการณ์ของท้อป คลิกที่นี่ 
คุณโอ๊ต-
  ” ไม่ต้องกลัวที่จะไปเรียนรู้ภาษาอังกฤษ “
พอเราไปเราเห็นคนอายุ 60 ชาวญี่ปุ่นก็มาเรียนนะ มันก็แสดงว่ามันไม่มีขีดจำกัดด้านอายุเลย สำหรับการเรียนภาษาอังกฤษ อาจจะมีขีดจำกัดด้านการรับรู้มากกว่า คือ อาจจะรู้ช้ากว่าเด็กอายุ 18 ปี แค่นั้น คนที่อายุยิ่งเยอะ จะมีความขยัน มีวินัยในการฝึกฝนมากกว่าเด็ก คนละแบบ ถ้าเป็นเด็ก ก็จะเรียนรู้ไว มีความงอแงนิดหน่อย
โอ๊ต : EV Academy 
อ่านประสบการณ์ของโอ๊ต คลิกที่นี่ 
” ตอนแรกที่ไป คือไม่ได้เลยจริงๆ “
ครูเค้าถามหรือพูดอะไรมา หนูงงมากค่ะ หลังจาก 1 เดือน หนูสามารถพูด สามารถเข้าใจ แล้วพออยู่ไปเรื่อยๆ คือ ครูพูดมาแป๊บเดียวก็เข้าใจง่าย คือตอบได้อย่างรวดเร็ว ไม่ต้องคิดอะไรมาก มันไหลออกไปจากสมองเองค่ะเวลาตอบ ตอนเรียน ESL เริ่มต้นที่ Beginner ค่ะ พอครบ 12 สัปดาห์ก็ได้ B2 ค่ะ ได้ขึ้นมาเยอะอยู่นะคะ จาก Beginner เป็น A1 A2 B1 B2 ค่ะ ก่อนจะย้ายไปเรียน IELTS
ใบเตย : SMEAG 
อ่านประสบการณ์ของใบเตย คลิกที่นี่ 
 ” ได้เปลี่ยนความคิดตัวเอง “
ในความคิดของออม แค่อย่าอคติไปก่อน อย่าคิดเอง เออเองไปก่อน ทุกอย่างมันก็จะดีเองอ่ะค่ะ ถึงแม้เราอาจจะคิดว่าฟิลิปปินส์มันดูแย่ แต่ออมรู้สึกว่ามันมีเรื่องดีๆมากกว่าค่ะ ไม่ต้องเตรียมตัวอะไรมาก แค่เรากล้าพูด กล้าทักทายคนอื่นก็พอแล้ว และเตรียมตัวที่จะเรียนแค่นั้นค่ะ ออมได้เพื่อนเยอะ ได้รู้จักคนเยอะ ได้รู้จักครู ได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ ได้รู้อะไรมากขึ้นค่ะ เหมือนตอนแรกชีวิตมันไม่มีเป้าหมาย แต่พอไปแล้วมันมีเป้าหมายมากขึ้น ออมรู้ว่าควรทำอะไรมากขึ้น รู้ว่าตัวเองมีข้อผิดพลาดตรงไหนในการใช้ภาษาอังกฤษ
ออม : Philinter 
อ่านประสบการณ์ของออม คลิกที่นี่ 
” ครูที่นี่ เทคแคร์นักเรียนดีมาก “
เค้ารู้ว่าจุดเด่นและจุดด้อยของนักเรียนแต่ละคนเป็นอย่างไร ถ้าสมมติว่าเราอ่อนเรื่องคำศัพท์ เค้าจะพยายามหาคำศัพท์มาให้เรา สถาบันนี้เอาความต้องการของนักเรียนเป็นที่ตั้งก่อนว่านักเรียนต้องการอะไร teacher โอเคมากเลยนะที่นี่ สมมติว่าเราไม่ได้ตรงนี้สักที ถึงคลาสนั้นเค้าไม่ใช่คลาส Pronunciation (การออกเสียง) เค้าก็พยายามจะหาคำศัพท์ที่ฝึกให้ลิ้นออกเสียงตัวอักษรที่เรามีปัญหา (R และ L) เพื่อให้เราชินกับคำนั้นๆ Teacher ที่นี่เค้าค่อนข้างที่จะ push นักเรียนมากค่ะ
ตุ๊กตา : Philinter & SMEAG
อ่านประสบการณ์ของตุ๊กตา คลิกที่นี่
 ” อาจารย์ใจดีมาก “
เเกรมม่าของผมตอนนั้นไม่ค่อยดีครับ อาจารย์ที่สอนตัวต่อตัว เค้าก็เเนะนำ สอนเคร่งครัดมากครับ เเล้วก็ Wrting อาจารย์ก็มีการบ้านให้ทุกวัน ให้ไปหาเรื่องเขียนบรรยายมา ถ้าผิดตรงไหนอาจารย์ก็จะมาเเก้ให้ มาเเนะนำครับ การพูดก็ดีขึ้นมากๆครับเเต่ก่อน พูดกับคนทั่วไปได้ จะไปไหนก็บอกก็พูดกับคนพื้นที่ได้ สำเนียงไม่มีปัญหาครับ
คิม : IDEA Academia 
อ่านประสบการณ์ของคิม คลิกที่นี่ 
 ” เป็นนักเรียนไทยคนเดียวค่ะ “
ข้อดีก็คือ มันสามารถทำให้เราฝึกพูด กล้าที่จะพูด เพราะว่าเราไม่สามารถถามคนอื่นได้ ถ้าเราไม่พูดเราก็ไม่สามารถเปลี่ยนคลาสเรียน เปลี่ยนครู เปลี่ยนอะไรได้ค่ะ มันก็ทำให้เรากล้าพูด กล้าคุย เเล้วก็ทำให้เรามีเพื่อนใหม่ด้วย มีเพื่อนต่างชาติ ถ้าสมมติว่าหนูมีเพื่อนคนไทย หนูก็จะพูดเเต่ภาษาไทย จะไม่ได้พัฒนา หนูว่าก็ดีที่ไม่มีเพื่อนคนไทยค่ะ
ไอรีน : Monol 
อ่านประสบการณ์ของไอรีน คลิกที่นี่ 
” ทุกวิชาเรียนได้ฝึกครบทุกทักษะ “
อรฟังเข้าใจเยอะขึ้น แฟนของอรฟังสื่อภาษาอังกฤษอยู่แล้วเป็นประจำ ไม่ได้ฟังสื่อที่เป็นภาษาไทย เราจึงสังเกตเห็นพัฒนาการของตัวเองได้ เช่น เวลาดูหนังก่อนหน้านี้จะต้องอ่านซับไทเทิล กลับมานี่แทบจะไม่ต้องใส่แว่น โดยเฉพาะสำหรับหนังบางเรื่องที่เคยดูแล้ว อรไม่ได้เข้าใจทุกคำนะแต่เข้าใจมากขึ้นโดยไม่ต้องอ่านซับ ยกตัวอย่าง อรเข้าใจการเชื่อมคำเวลาออกเสียงมากขึ้น เมื่อก่อน อรฟังและแยกไม่ออกมาว่ามันเป็นคำสองคำสอง กล้าคุยกับเพื่อนเยอะขึ้น รู้ศัพท์เยอะขึ้น จึงใช้ศัพท์ได้มากขึ้น อรคิดว่า 1 เดือนยังไม่เพียงพอที่จะไปถึงจุดที่ต้องการ ถ้ามีเวลาไปเรียนสัก 2-3 เดือน น่าจะคุยได้เยอะกว่านี้ แต่โดยรวมๆแล้ว คิดว่าสกิลดีขึ้นทุกๆด้าน
อรอนงค์ : BECI 
อ่านประสบการณ์ของอรอนงค์ คลิกที่นี่ 
 ” จากตอนแรกที่โคตรประหม่า “
การพูดภาษาอังกฤษยาวๆ ต่อหน้าคนเยอะๆ รู้สึกเหมือนปีนภูเขาที่โคตรสูง พูดไปคิดไปเมื่อไหร่มันจะจบสักทีวะ ก็เริ่มคุ้นเคยมากขึ้น พยายามน้อยลง และทำจนผ่านมันไปได้สำเร็จ ครูที่นี่จะพูดกับคนที่ออกไปพรีเซนต์ทุกคนว่า ยินดีด้วย เหมือนการพรีเซนต์นี้เป็นเรื่องใหญ่มากๆ และนักเรียนที่ไม่ได้มีภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่ ย่อมต้องรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องใหญ่
ภูมิ : EV Academy & Philinter 
อ่านประสบการณ์ของภูมิ คลิกที่นี่ 
 ” จากตอนแรกพูดไม่เป็นเลย “
เราได้ใช้ภาษาอังกฤษคุยทุกวันครับพอไปเรียนมาเสร็จก็พูดได้เยอะขึ้นมากๆ เมื่อก่อนจะไม่กล้าพูดภาษาอังกฤษเลยแต่ตอนนี้กล้าพูดอัพเกรดขึ้นมากเลยครับ จากระดับ Elementary ขึ้นมา Intermediate 1 ครับ
บอล : Monol 
อ่านประสบการณ์ของบอล คลิกที่นี่ 
 ” โรงเรียนจัดการได้เร็วค่ะ “
ตอนตรีไปรู้สึกจะมีช่วงนึงที่อาจารย์ลาออก 2 คน แล้วเราเจออาจารย์ที่มาสอนแทนไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เราก็เลยแจ้งทางก้อปันกันไปว่าเราอาจจะย้ายโรงเรียน จนทางก้อปันกันก็ไปแจ้งทางโรงเรียนให้ ซึ่งได้รับผลตอบรับเร็วมากๆค่ะ เราบอกไปตอนเช้า ตอนเย็นเขาก็เรียกเราไปคุยว่าเกิดอะไรขึ้น เราก็เลยได้มีโอกาสเปลี่ยนอาจารย์ภายในวันนั้นเลย วันถัดไปก็ได้เรียนเลย
ตรี : IDEA Academia 
อ่านประสบการณ์ของพี่ตรี คลิกที่นี่ 
 ” เห้ย! ทำไมครูที่ไทยเขาไม่เคยสอนเราเรื่องนี้ “
เราก็เคยเรียนภาษาอังกฤษมาเยอะแล้ว เด็กนักเรียนไทยนี่เรียนกันตั้งแต่อนุบาล เรียนกันมาตลอด แต่พอไปเรียนที่นี่มันจะมีบางอย่างที่เรากลับไม่เคยรู้มาก่อนยิ่งพวกคำศัพท์ Tricky Words กับการออกเสียง เพราะเราเรียนกันมาแต่แกรมม่าแล้วก็ไม่ค่อยได้เอามาฝึกใช้ รู้แกรมม่าแต่ใช้ไม่เป็น การสื่อสารเลยลำบาก อย่างที่ไปเรียนก็จะมีทั้ง Speaking, Grammar, Reading, Vocabulary, Listening และก็จะมีเรียนการออกเสียง ทุกคลาสก็จะมีการเรียนเน้นเฉพาะทางของมัน และในทุกคลาสเราก็จะได้พูด ได้ฝึกใช้ตลอดทุกคลาสถึงจะเรียน Listening หรือ Grammar ก็ตาม
คุณตูน-นำทาง : Philinter 
อ่านประสบการณ์ของคุณตูน-นำทาง คลิกที่นี่ 
 ” ฟิลิปปินส์มีการสอนที่เข้มข้น “
มีเรียนตัวต่อตัวและใช้เวลาเรียนเกือบทั้งวัน สามารถกินอยู่ที่โรงเรียนได้ คิดว่าน่าจะปลอดภัยเลยทดลองดูค่ะ เพราะเพิ่งไปครั้งแรกเลยใช้คำว่าลองทดลองดูค่ะ น้องมีความมั่นใจมากขึ้นในการสนทนากับชาวต่างชาติ ตอนนั้นพี่จูน (Thai Manager) มาส่งขึ้นเครื่อง เขาจะหลงแถวบ่อยมาก แต่เขาบอกว่าหลงแถวเขาก็ไม่กลัวเพราะเขาสื่อสารได้ เขาขอความช่วยเหลือกับคนในสนามบินได้ เขาสามารถพูดเป็นประโยคขอร้อง หรือ ขอความช่วยเหลือได้ เอาตัวรอดได้ค่ะ เราก็ไม่กังวลตรงนั้น เพราะจากเซบูมาต่อเครื่องที่มะนิลา เขาก็บอกว่ามันเป็นการต่อเครื่องที่ชิลมากเลย เมื่อก่อนเขาจะเป็นกังวลเพราะเขาสื่อสารกับคนในสนามบินไม่ได้ แต่หลังจากเขากลับมา เขาก็มั่นใจที่จะพูดมากขึ้นค่ะ
คุณสุมาลี : ผู้ปกครองส่งลูกไปเรียนที่ฟิลิปปินส์ 
อ่านประสบการณ์ของคุณสุมาลี คลิกที่นี่ 
 ” ภาษาอังกฤษพัฒนามากขึ้น “
ทั้งๆ ที่เราเป็นคนฟังภาษาอังกฤษไม่ค่อยเข้าใจ แต่เขาก็สามารถอธิบายภาษาอังกฤษให้เราฟังจนเข้าใจได้ เราสามารถพูดคุยกับครูต่างชาติได้มากขึ้นจากแต่ก่อนเราหลบหน้าครูทุกครั้งเลยเพราะไม่กล้าพูด แต่ตอนนี้ก็คุยเล่นกับเขาได้เหมือนเพื่อนเลยค่ะ
พู่กัน : Philinter 
อ่านประสบการณ์ของพู่กัน คลิกที่นี่ 
 ” รู้สึกว่าคนฟิลิปปินส์โอเคเลย “
ไม่ได้น่ากลัวค่ะ เพราะตอนแก้มออกไปเที่ยวข้างนอกวันเสาร์-อาทิตย์ ก็รู้สึกว่าคนฟิลิปปินส์โอเคเลย เฟรนด์ลี่ด้วย เขาก็จะชวนคุย ส่วนเรื่องสำเนียง ถ้าเป็นครูในโรงเรียน สำเนียงเขาก็โอเค เขาจะฝึกเราให้ออกเสียงให้ถูก แต่ถ้าเป็นข้างนอกสำเนียงพวกเขาก็จะเพี้ยนๆนิดนึงแต่ไม่ถึงขั้นฟังไม่รู้เรื่องเลยค่ะ
แก้ม : Philinter 
อ่านประสบการณ์ของแก้ม คลิกที่นี่ 
 ” ที่นี่เรียนเยอะ รู้สึกว่าพัฒนาได้เร็ว “
ที่นี่มันดีตรงที่มี 1:1 ค่ะ เวลาเราไม่เข้าใจตรงไหนก็ถามได้เลย อยากให้เขาช่วยเจาะตรงไหนให้ก็ได้เลย ที่นี่ดีตรงที่มี test ทุกสัปดาห์ กว่าจะสอบเสร็จก็ 5 ทุ่มเลยค่ะ แรกๆก็เหนื่อยเพราะว่ามันดึกมาก แรกๆทำไม่ได้ก็เฟลๆ แต่ตอนนี้ก็ชินไปแล้วเพราะได้สอบมา 10 กว่าครั้ง มันก็ดีที่ทำให้เราคุ้นเคยกับข้อสอบดี
แน็ต : SMEAG 
อ่านประสบการณ์ของแน็ต คลิกที่นี่ 
 ” ตัดสินใจกลับมาอีกรอบ “
ที่จริงโปรแกรมภาษาอังกฤษในไทยมันก็มี แต่พอเราเรียนเสร็จ เราก็กลับไปคุยภาษาไทยเหมือนเดิม แต่ถ้ามาอยู่ที่ฟิลิปปินส์นี่ เรามีเพื่อนต่างชาติ พอเลิกเรียนเสร็จ เราก็ยังใช้ภาษาอังกฤษคุยกันต่อ
เจ : EV Academy & IDEA Academia
อ่านประสบการณ์ของเจ คลิกที่นี่ 
 ” ได้ฝึก ได้ฟัง เหมือนเราอยู่ที่อเมริกาเลย “
หนูอาจจะโชคดีที่ได้อาจารย์สำเนียงอเมริกันทุกคน เดือนแรกที่ได้ครู ก็ได้ครูที่ดีและมีประสบการณ์เยอะ มีอะไรก็ถามได้ ช่วยเหลือเป็นอย่างดี ถ้าพูดแล้วออกเสียงผิด หรือ แกรมม่าผิด เขาก็จะแก้ไขให้เรา ส่วนเดือน 2 หนูติด Top10 พอดี เลยได้เลือกอาจารย์ 2 คน ก็เลยเลือกอาจารย์ที่สอน Top1 เดือนที่แล้ว ก็ไม่ผิดหวังเลยค่ะ ดีมากๆ เขาไม่ได้คุยแค่เรื่องตำราเรียนอย่างเดียว เขาก็คุยเรื่องความรู้ใช้ การสมัครงาน สงสัยอะไรก็ถามได้หมด เขาตอบได้หมดเลย ไม่เสียใจที่เลือกครูคนนี้
ซาร่า : EV Academy 
อ่านประสบการณ์ของซาร่า คลิกที่นี่ 
 ” สิ่งที่ชอบน่าจะเป็นเรื่องคุณครู “
ครูที่นี่เขามีวิธีจัดการเรียนการสอนให้กับนักเรียนดี เขารู้ว่านักเรียนอยู่ในระดับไหน แล้วเขาควรจะสอนอยู่ในระดับประมาณไหน ครูที่นั่นเหมือนเขาเป็นเพื่อน ครูบางคนก็อายุ 20 ต้นๆเอง เราเลยคุยกันง่าย ส่วนวิชาที่ชอบมากที่สุด คือ กรุ๊ปคลาส เราจะเรียนกันเป็นกลุ่มแล้วก็มีเพื่อนต่างชาติมาอยู่ด้วย ส่วนมากเป็นคนญี่ปุ่นและคนไต้หวัน ครูก็จะยก Topic เรื่องทั่วไป หรือ สำนวนภาษาอังกฤษขึ้นมาเพื่อให้เราได้แลกเปลี่ยนความเห็นกัน
หวาน : IDEA Cebu 
อ่านประสบการณ์ของหวาน คลิกที่นี่ 
 ” การมาที่นี่มันทำให้เราโตขึ้น “
สังคมที่นี่ไม่ได้ต่างจากไทยมากนัก หน้าตาคนที่นี่ก็คล้ายๆคนไทย ตอนมาใหม่ๆก็คิดถึงบ้านเหมือนกัน พอเรามาอยู่นี่ได้สักเดือนสองเดือน สภาพแวดล้อมของสังคมทำให้เราต้องปรับตัว เรื่องของวัฒนธรรมก็ด้วยเช่นกัน คนที่ฟิลิปปินส์เป็นคนค่อนข้างใจดีมากๆ อย่างเวลาเราเดินทางก็จะคอยเทคแคร์ ให้คำแนะนำตลอด ส่วนที่โรงเรียนนี้มีคนต่างชาติเยอะมาก ทั้ง จีน เกาหลี เวียดนาม ไต้หวัน คนไทยมันอยู่น้อย ถ้าเราไม่พูดเราก็ไม่มีเพื่อน นี่คือ สิ่งที่เป็นแรงผลักดันให้เราต้องพูด ถึงจะมีเพื่อน นั่นเลยเป็นสิ่งที่ถูกใจที่สุด
ปาว : IDEA Academia 
อ่านประสบการณ์ของปาว คลิกที่นี่ 
 ” ชอบคลาสเรียนตัวต่อตัว “
เราประทับใจอาจารย์ที่ชื่อ ซาร่า เขาทำให้เรากล้าพูดมากขึ้น และไม่เคยเบรคเราเวลาพูดผิด พูดถูกเท่าไหร่ ส่วนคลาสอื่นๆ อย่างแกรมม่า เราก็ชอบ active speaking ก็โอเคเลยแต่ก็ขึ้นอยู่กับการกระตุ้นของอาจารย์ด้วย ถ้าได้อาจารย์ที่ชอบให้นักเรียน debate กันเราจะชอบมาก เขาจะพยายามกระตุ้นให้เราพูดตลอดเวลา
เจน : EV Academy 
อ่านประสบการณ์ของเจน คลิกที่นี่ 
 ” ฟิลิปปินส์เป็นตัวเลือกที่ดี “
เราจะได้ใช้ภาษาอังกฤษแบบไม่ “ตกใจ” มากนัก ผู้คนที่นี่เป็นมิตร อัธยาศัยดี หากสื่อสารกับเราแล้วไม่เข้าใจ เขาก็จะรับรู้ว่าควรสื่อสารกับเราภาษาอังกฤษแบบง่ายๆ ทำให้เราสบายตัวไม่กลัวที่จะพูด เราจะรู้สึกได้ว่าคนที่นั้นมีความคล้ายคลึงกับไทย ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหน้าตา วัฒนธรรม อาหาร สภาพอากาศ แตกต่างเพียงการสื่อสาร
เกด : IDEA Cebu 
อ่านประสบการณ์ของเกด คลิกที่นี่ 
 ” ประทับใจระบบการเรียน “
ทำให้เราปรับตัว จัดการชีวิตของตัวเองให้เข้ากับตารางเวลาที่กำหนดตั้งแต่ตื่นนอน ท่องศัพท์วันละ 20 คำ ได้ใช้ภาษาอังกฤษอย่างต่อเนื่องตลอด 8 คาบ หลังจากนั้นก็บังคับให้เราต้องเข้าไปอยู่ในห้องเรียนเพื่อเรียนด้วยตัวเองถึง 2 ชั่วโมง ซึ่งช่วยฝึกให้เรามีวินัยในตัวเอง ถ้าอยู่ที่บ้านเราคงทำไม่ได้ถึงขนาดนี้ นอกจากนี้ยังประทับใจในสำเนียงการพูดที่ชัดเจนราวกับเป็น native speaker ของครูชาวฟิลิปปินส์ ซึ่งถ้าใครไม่เคยสัมผัสมาก่อนก็มักจะคิดว่า พวกเขาคงพูดเพี้ยน แต่พอได้มาเจอด้วยตัวเองแล้ว ไม่ทำให้ผิดหวังเลยค่ะ
จันจิรา : EV Academy 
อ่านประสบการณ์ของคุณจันจิรา คลิกที่นี่ 
 ” เป็นสถาบันสอนภาษาที่ดี “
สถานที่และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่ค่อนข้างใหม่ รวมถึงคลาสเรียนที่หลากหลายทำให้มีช่องทางในการเลือกมากขึ้น เริ่มตั้งแต่ระดับพื้นฐานจนไปถึงการเตรียมตัวเพื่อสอบวัดผลต่างๆในระดับสากล ซึ่งค่าใช้จ่ายในการเรียนการสอนอยู่ในระดับที่เหมาะสมค่ะ
เวฟ : IDEA Academia 
อ่านประสบการณ์ของเวฟ คลิกที่นี่ 
 ” ผมชอบวิชา Listening “
รู้สึกว่าเนื้อหาและวิธีการสอนค่อนข้างมีประโยชน์ในเรื่องของจับใจความและการฟังมากๆ ผมรู้สึกว่าได้อะไรจากclassนี้มากที่สุดละครับ ส่วน Writing เนื้อหาในหนังสือค่อนข้างมีประโยชน์และผมเจอครูที่ค่อนข้างจะโอเคในระดับหนึ่งครับ
แวน : EV Academy 
อ่านประสบการณ์ของแวน คลิกที่นี่ 
 ” รู้สึกว่าได้อะไรกลับไปเยอะ “
ไม่ว่าจะเป็นประสบการณ์ เพื่อนใหม่ ทักษะในการใช้ภาษา อาจารย์ทุกคนใจดีและเต็มที่กับการสอน นักเรียนส่วนมากจึงเต็มที่กับการเรียน ถือว่าการตัดสินใจมาเรียนครั้งนี้ได้ประโยชน์มากเลยค่ะ ถ้าถามว่ายากมั้ย ส่วนตัวคิดว่าไม่ยากมากนะคะเพราะจะมีการวัดระดับให้เราเรียนกับกลุ่มที่มีความรู้และทักษะพอๆกันค่ะ และมีความสนุกตรงที่ได้เจอกับเพื่อนใหม่ๆจากหลายประเทศค่ะ ได้คุยแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกัน
ขนุน : EV Academy 
อ่านประสบการณ์ของขนุน คลิกที่นี่ 
” ครูมีประสบการณ์สอนภาษา “
ครูมีความสนใจความรู้รอบตัว ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ข่าวสาร ทำให้ในคลาส 1:1 เราสามารถพูดคุย ถกเถียง กับครูผู้สอนในประเด็นต่าง ๆ ได้อย่างอิสระ (เดวิดบอกว่า ช่วงปีแรกที่ทำสถาบันนี้ ตกใจมาก เพราะครูที่สมัครเข้ามาไม่มีความรู้รอบตัวเลย จึงไล่ออกไปเกือบครึ่ง คนที่จะมาเป็นครูที่นี่ได้เลยต้องผ่านการประเมินก่อน
ฟิล์ม : EV Academy 
อ่านประสบการณ์ของฟิล์ม คลิกที่นี่ 
 ” ช่วยพัฒนาภาษาของผมได้เยอะ “
โดยในคาบของ man to man ครูจะดูว่าเราด้อยในส่วนไหน และช่วยฝึกฝนให้ หลังจากผ่านมา 1 เดือน ผมรู้สึกว่าสกิลด้าน listening และ speaking ของผมดีขึ้น ในช่วงแรกๆ ที่ได้ไปเรียนผมรู้สึกท้อ เหนื่อย ในวิชา listening ของ Group Class ซึ่งเป็นการฟังข่าว CNN และทำใบงาน และครูผู้สอนพูดไวมากจนฟังไม่รู้เรื่อง เวลาที่ทำใบงานในแต่ละคาบ คะแนนของผมอยู่อันดับสุดท้ายของกลุ่มตลอด แต่หลังจากเรียนได้สักพักผมก็เริ่มปรับตัวได้ ฟังได้ดีขึ้น คะแนนใบงานก็ดีขึ้น
เอิร์ธ : EV Academy 
อ่านประสบการณ์ของเอิร์ธ คลิกที่นี่ 
 ” โรงเรียนมีนโยบายพูดภาษาอังกฤษ “
แมคมีปัญหาแค่ช่วงแรกๆตอนที่ยังไม่รู้อะไรเลย ฟังไม่ออกแต่ช่วงนี้พอปรับตัวได้แล้วครับ แมคจะปรับตัวช้ากว่าคนอื่นหน่อย ใช้เวลา 3 เดือนถึงจะเริ่มเข้าใจภาษาอังกฤษได้

แมค : SMEAG 
อ่านประสบการณ์ของแมค คลิกที่นี่ 

” ตอนมาที่นี่ พูดได้ 4 คำ! “

ผมมีเพื่อนเป็นคนอาหรับเล่าให้ฟังว่า ตอนมาที่นี่ พูดได้ 4 คำ คือ Yes ,no ,I ,want  แต่พอผ่านไป 1 เดือน พูดปร๋อเลย เขาเรียนคอร์สปูพื้นฐานก่อนเรียน ESL สำหรับที่ Monol แล้วถือว่าเป็นคอร์สที่มีนักเรียนมาเรียนเยอะสุดครับ 

เฟี๊ยด : Monol 
อ่านประสบการณ์ของเฟี๊ยด คลิกที่นี่ 

” ฟิลิปปินส์โอเคสุด “

ซึ่งเทียบกันหลายๆ อย่างแล้ว ฟิลิปปินส์โอเคสุดในเรื่องของราคา คลาสเรียนเป็นแบบ ตัวต่อตัว จ่ายทีเดียวแล้วก็จบเลย แต่ถ้าไปที่ประเทศอื่น เช่น ออสเตรเลีย หรือนิวซีแลนด์ เนี่ย เราต้องไปแล้วเรียนเป็นคลาสกลุ่ม และต้องทำงานอีก ซึ่งผมไม่อยากทำงานแล้ว เบื่อ ก็เลือกที่จะเรียนอย่างเดียว เลยเลือกเรียนที่ฟิลิปปินส์

บีม : IDEA Academia & IDEA Cebu 
อ่านประสบการณ์ของบีม คลิกที่นี่

” ชอบตารางเรียนแบบนี้เลย “

ถึงแม้ว่าจะหนักไปหน่อยแต่ค่อนข้างรู้สึกได้เลยจริงๆ ค่ะว่าตัวเองพัฒนาขึ้น แถมในคลาสก็มีเพื่อนหลายสัญชาติ หลากอายุมากจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นคนไต้หวัน,จีน,มองโกเลีย,ญี่ปุ่น,เวียดนาม หรือ รัสเซีย แถมทุกคนก็ดูยินดีที่จะได้คุย ได้เป็นเพื่อนกัน 

มาย : SMEAG 
อ่านประสบการณ์ของมาย คลิกที่นี่ 

” สภาพแวดล้อมบังคับให้ต้องใช้ภาษาอังกฤษ “

เราได้ภาษาอังกฤษอย่างเต็มที่ และได้เรียนรู้วัฒนธรรมใหม่ๆ จากเพื่อนต่างชาติด้วย อันนี้คือข้อดีของการเอาตัวไปอยู่ที่นู่น ทำให้ได้รู้ว่าโลกนั้นกว้างใหญ่ขนาดไหน โลกไม่ได้มีแค่ไทย ยังมีที่อื่นด้วย ขนาดเราเคยไปเที่ยวมาหลายประเทศ แต่ไปเที่ยวก็คือไปเที่ยว ต่างจากการที่เราฟังจากปากของคนพื้นเมือง เราก็จะได้มุมมองใหม่ๆ มากขึ้น

เนต : Philinter 
อ่านประสบการณ์ของเนต คลิกที่นี่ 

” ต้องบอกก่อนว่าตอนแรกไม่ได้เลย “

ก็เป็นกังวลว่าเราจะทำงานไม่ได้ (วิศวกรของบริษัทแห่งนึงในประเทศฟิลิปปินส์) แต่พอหลังจากเรียนเสร็จแล้วมีความมั่นใจในระดับนึง เพราะว่าก็คุยกับเพื่อนที่โรงเรียนพอรู้เรื่องบ้าง พอหลังจากเริ่มงาน ช่วงแรกๆ อาจจะยังฟังสำเนียงเขาไม่รู้เรื่อง แต่พอปรับสำเนียงอยู่ด้วยกันทุกวัน ก็สามารถฟังและพูดได้มากขึ้นครับ

เคน : Philinter 
อ่านประสบการณ์ของเคน คลิกที่นี่ 

# เรียนภาษาอังกฤษที่ฟิลิปปินส์ ดีไหม?